น้องสส.ดังโร่มอบตัวคดีฆ่ารท.

"มอบตัวแล้ว"


น้องส.ส.-ส.ว.กาฬสินธุ์ "ต่อศักดิ์ ภูมิเหล่าแจ้ง"ผู้ต้องหาคดีฆ่าร.ท.เข้ามอบตัวแล้ว มีพี่ชายเป็นอดีตส.ว.พาเข้าพบตำรวจ พร้อมตั้งทนายสู้คดี เจ้าตัวปฏิเสธไม่ได้เป็นคนลงมือลั่นไก แต่ยอมรับอยู่ในที่เกิดเหตุ ยันจะไปให้การในชั้นศาล ขณะที่ตร.ทั้งในและนอกเครื่องแบบเกือบ 100 นาย ต้องทำงานอย่างหนัก เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดการล้างแค้นขึ้น ผบช.ภาค 4 ลงไปจี้คดีเอง ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย พร้อมตั้งกรรมการสอบผู้ที่เคลื่อนย้ายเปลี่ยนแปลงจุดเกิดเหตุ ส่วนเสธ.ขวาน ผู้เป็นพ่อยันปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตร.

จากกรณีร.ท.เทพรังสรร พิบูลย์ศิลป์ อายุ 29 ปี ผบ.ร้อยสารวัตรทหาร มณฑลทหารบกที่ 21 ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา ลูกชายพล.อ.วรวิทย์ พิบูลย์ศิลป์ หรือ"เสธ.ขวาน" ถูกนายต่อศักดิ์ ภูมิเหล่าแจ้ง อายุ 41 ปี น้องชายนายเกรียงไกร หรือ กฤษณ์ ภูมิเหล่าแจ้ง อดีตส.ว.จังหวัดกาฬสินธุ์ และนายวิทยา ภูมิเหล่าแจ้ง อดีตส.ส.จังหวัดกาฬสินธุ์ พรรคไทยรักไทย

บุกเข้าไปยิงในสถานบริการเอ็มวีเอนเตอร์เทนเมนต์ เสียชีวิตท่ามกลางนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.พิสัณห์อาวีกร วรเทพนิตินันท์ ผบก.ภ.กาฬสินธุ์ ตั้งคณะทำงานขึ้น 3 ชุด เพื่อเร่งสืบสวนและติดตามตัวมาดำเนินคดี พร้อมทั้งมีการตั้งกรรมการสอบสวนตำรวจในที่เกิดเหตุ และตำรวจที่ดูแลความเรียบร้อยภายในสถานบันเทิง เนื่องจากหลักฐานสำคัญถูกทำลาย

ความคืบหน้าคดีนี้เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 19 ก.พ.พล.ต.ท.ศุภวุฒิ สังข์อ่อง ผบช.ภ. 4 พล.ต.ต.กวี สุภานันท์ พล.ต.ต.บุญชอบ คงน้อย รองผบช.ภาค 4 เดินทางเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยมี พล.ต.ต.พิสัณห์อาวีกร เดินทางเข้ารายงานสถานการณ์ภายในสถานบริการเอ็มวีเอนเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยเฉพาะกรณีที่ข้องใจของผู้บังคับบัญชา เนื่องจากมีข่าวการทำลายหลักฐาน ที่เกิดจากความผิดพลาดในการรายงานของพนักงานสอบสวนชุดแรก ซึ่งทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำงานที่ไม่จริงจังของพนักงานสอบสวน

"เดินทางเข้ามอบตัวตั้งทนายสู้คดี"


พล.ต.ท.ศุภวุฒิ กล่าวว่า ในการตรวจสอบที่เกิดเหตุการรายงานของพล.ต.ต.พิสัณห์อาวีกร ถือว่ามีความชัดเจน และตรงตามข่าวที่สื่อลง เพราะเกิดความผิดพลาดจากรายงานจริง ซึ่งตนกำชับให้ผู้บังคับการตั้งกรรมการสอบสวนพนักงานสอบ และตำรวจที่อยู่ในที่เกิดเหตุแล้ว ในส่วนของรูปคดีเชื่อว่าหลักฐานทั้งหมดจะสามารถมัดตัวผู้ต้องหารายนี้ได้

นอกจากนี้ตลอดทั้งวัน ตำรวจชุดสืบสวนภาค 4 นำโดยพ.ต.อ.ยรรยง เวชโอสถ ผกก.ศสส.ภาค 4 เข้าตรวจค้นกดดันติดตามผู้ต้องหาอย่างหนัก จึงทำให้เกิดกระแสข่าวการมอบตัว จนทำให้บริเวณสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ มีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบเกือบ 100 คน เข้ามาติดตามสถานการณ์ต่อหน้ากองทัพสื่อมวลชน

เวลา 15.00 น.วันเดียวกัน นายต่อศักดิ์ ภูมิเหล่าแจ้ง เดินทางเข้ามอบตัวกับพล.ต.ต.พิสัณห์อาวีกร โดยมีนายเกรียงไกร ภูมิเหล่าแจ้ง อดีตส.ว.กาฬสินธุ์ พี่ชาย นายชญา แดนวงศ์ ทนายความ นำมามอบตัว โดยมีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบคอยคุ้มกันกว่า 50 นาย

จากนั้นตำรวจได้นำตัวไปพิมพ์ลายนิ้วมือ และสอบสวนอย่างเคร่งเครียดกว่า 1 ชั่วโมง โดยมีพ.ต.ท.บุญฤทธิ์ ชวีวัฒน์ รองผกก.สบ.3 ตร.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เป็นพนักงานสอบสวนสอบปากคำ ซึ่งผู้ต้องหาให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ลงมือยิงร.ท.เทพรังสรร พร้อมระบุว่าจะให้การในชั้นศาล จากนั้นตำรวจนำตัวนายต่อศักดิ์ เข้าพบพล.ต.ท.ศุภวุฒิ ภายในห้องทำงานผู้บังคับการ โดยผู้ต้องหาให้การอย่างสบายใจ ยืนยันในความบริสุทธิ์ แถมใส่เสื้อของพี่ชายมีโลโก้พรรคไทยรักไทยเข้ามอบตัวอีกด้วย

"สู้คดีพร้อมให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา"


พล.ต.ท.ศุภวุฒิ กล่าวว่า หลังจากนายต่อศักดิ์เข้ามอบตัวแล้ว ก็ต้องส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่ตำรวจก็มีพยานหลักฐานชัดเจน ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ให้ประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ดังนั้นจึงนำตัวฝากขังที่เรือนจำจ.กาฬสินธุ์ ในข้อหาฆ่าคนตาย

"ส่วนกรณีที่พนักงานสอบสวนชุดแรกปล่อยให้สถานที่เกิดเหตุถูกเคลื่อนย้ายสิ่งของและถูกพนักงานเก็บหลักฐานไปนั้น กำชับให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.กาฬสินธุ์ ดำเนินการตรวจสอบว่า เข้าข่ายบกพร่องต่อหน้าที่หรือละเลยการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ จะต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ในด้านของสาเหตุเบื้องต้นเชื่อว่าจะมีมือที่3 หมายถึงต้นเหตุจะเกิดจากคนชื่อตั้ม ซึ่งเป็นกลุ่มของอดีตส.ว.ตุ้ย ไปมีเรื่องกับร.ท.เทพรังสรร จากนั้นก็มีปัญหามีการติดตามข่มขู่กัน จนวันเกิดเหตุก็มีการไกล่เกลี่ย จนมาเกิดเหตุยิงกันดังกล่าว "ผบช.ภาค4 กล่าว

นายเกรียงไกร ภูมิเหล่าแจ้ง กล่าวว่า ยอมรับว่ากลัวที่จะต้องถูกล้างแค้น ถ้าหากน้องเป็นคนทำจริงๆ แต่ในส่วนตัวไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ที่ผ่านมาจึงพยายามติดต่อเข้ามามอบตัว เพราะก็กลัวว่าจะถูกล้างแค้น แต่ในเมื่อน้องชายปฏิเสธก็จะต้องพึ่งกระบวนการยุติธรรมต่อไป

ด้านพล.ต.ต.พิสัณห์อาวีกร กล่าวว่า คดีนี้ถือเป็นความพยายามในการติดตาม เนื่องจากเป็นคดีใหญ่ ซึ่งในความผิดพลาดที่เกิดขึ้นก็จะต้องมีการดำเนินการไป แต่ในส่วนของหลักฐานก็จะต้องไปตรวจสอบกันในชั้นศาล แต่จนถึงขณะนี้ในส่วนของฝ่ายผู้ตายก็ยังไม่ได้มีการติดต่อเข้ามาแต่อย่างใด แต่เรื่องนี้ก็จะรายงานไปยัง ผู้ว่าราชการจังหวัด กองทัพภาคที่ 2 และส่วนกลางให้รับทราบต่อไป

"รับอยู่ในที่เกิดเหตุแต่ไม่ได้ทำ"


ด้านนายต่อศักดิ์ ผู้ต้องหา ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเองไม่ได้เป็นคนลงมือยิง แต่ยอมรับว่าอยู่ในที่เกิดเหตุ ในส่วนสาเหตุที่หลบหนีไปหรือใครคิดว่าเป็นคนลงมือทำ ตนขอให้การในชั้นศาลต่อไป

ด้านพล.อ.วรวิทย์ หรือ"เสธ.ขวาน"กล่าวว่า ทราบว่าผู้ก่อเหตุได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าเป็นเช่นใด เบื้องต้นได้รายงานให้ผู้ใหญ่รับทราบ ขั้นตอนต่อไปคงเข้าสู่กระบวนการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม แม้เป็นผู้มีอิทธิพลก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ซึ่งตนก็ไม่ได้กำชับหรือสั่งการใดๆ ไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่นอกสาย รับฟังรายละเอียดและให้ตำรวจทำตามหน้าที่

พล.อ.วรวิทย์ กล่าวว่า ทีแรกยังขุ่นๆ อยู่เหมือนกันว่า เหตุใดพนักงานสอบสวนรายงานสถานการณ์ต่อผู้บังคับบัญชาล่าช้า อีกทั้งยังมีการทำความสะอาดในที่เกิดเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ดำเนินการแล้ว พร้อมสอบปากคำประจักษ์พยานและออกหมายจับ ซึ่งตนรับฟังรายละเอียด และก็รู้จักกันหลายคนที่ทำไป ก็ต้องว่ากันตามกฎหมาย ใครทำผิดก็รับกรรม จบลงด้วยดี

ผู้สื่อข่าวถามว่าจปร.7และจปร.รุ่น 38 และตท.รุ่น 49 รุ่นเดียวกับ ร.ท.เทพรังสรร จะมีการเคลื่อนไหวหรือไม่พล.อ.วรวิทย์ กล่าวว่า เราไม่นอกสาย ปล่อยให้เป็นหน้าที่ตำรวจ ตามแนวทางกฎหมาย

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์