นี่ใช่ไหม ความชุ่ยของตำรวจไทย ??

พล.ต.ต.เขมณัส สุขเจริญ ผบก.ภ.จ.อุดรธานี ได้เดินทางไปตรวจสอบเหตุผู้ต้องหา 4 คน ร่วมกันแหกห้องขัง สภ.อ.เมืองอุดรธานี หลบหนีไปตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ประกอบด้วย นายศฤงคาร บุญไชยศร อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ 3 ต.คงสมบูรณ์ อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาค้ายาเสพติด นายดง ทับอาษา อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 147 หมู่ 6 ต.หนองกุงแก้ว อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู นายไพศาล ไกรฤทธิ์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 152 หมู่ 2 ต.หนองกุงทับม้า อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี และนายอานนท์ รุ่งเรือง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/2 หมู่ 18 ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ผู้ต้องหาลักทรัพย์

พบลูกกรงด้านหลังห้องขังซึ่งมีซอยกั้นระหว่างห้องรับแจ้งความ สูงจากพื้นประมาณ 3 เมตร ถูกผู้ต้องหาใช้ใบเลื่อยและคีมตัดเหล็กตัดขาดไป 2 ซี่ โดยมีใบเลื่อยสีแดงยาวประมาณ 1 ฟุต และคีมตัดเหล็กขนาดใหญ่ยาวเกือบ 1 เมตร วางอยู่ในห้องขัง นอกจากนี้ ยังพบเศษปูนตกอยู่บนพื้นดินด้านนอกห้องขัง

คืนเกิดเหตุได้มาเข้าเวรทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยสิบเวร ส่วน ด.ต.สุนันท์ วรพันธ์ สิบเวร ได้ลากิจ เนื่องจากบิดาเสียชีวิต ตนจึงมาอยู่ยามเพียงคนเดียว ก่อนเกิดเหตุ ช่วงเวลา 00.05 น. วันที่ 7 ส.ค. ร.ต.อ.อาจณรงค์ แช่มชื่น รอง สวป.สภ.อ.เมืองอุดรธานี ทำหน้าที่หัวหน้าสายตรวจ ได้เข้ามาตรวจห้องควบคุมพบผู้ต้องหาทั้ง 4 คน อยู่ในห้องขังครบทุกคน กระทั่งเวลา 03.00 น. ได้มีนายสุพล ไปนา อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาค้ายาบ้า มาบอกกับตนว่าผู้ต้องหา 4 คน หลบหนีออกจากห้องขัง จึงแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีคนเห็นรถกระบะไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียนขับมาจอดปิดซอยจุดที่ผู้ต้องหาตัดลูกกรงเพื่อไม่ให้คนที่ผ่านไปมาสังเกตเห็น เชื่อว่าการหลบหนีในครั้งนี้ต้องมีคนนอกร่วมช่วยเหลือพาหนี ส่วนห้องควบคุมของ สภ.อ. เมืองอุดรธานี มีกล้องวงจรปิดอยู่ด้านหน้าห้องขังเพียงตัวเดียวเท่านั้น และลูกกรงเหล็กค่อนข้างเก่าและชำรุดมีสนิมขึ้นทำให้ไม่แข็งแรง ก่อนหน้านี้เมื่อต้นปี 2549 ก็เคยมีผู้ต้องหาคดีลักมิเตอร์น้ำประปาหลบหนีมาแล้ว

สำหรับประวัติผู้ต้องหาที่หลบหนี จากการตรวจสอบพบว่า นายศฤงคาร บุญไชยศร ถือเป็นผู้ต้องหาคดียาบ้าที่มีเครือข่ายใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน แม่และพี่สาวถูกจับคดีค้ายาบ้าที่กรุงเทพฯ นายศฤงคารเป็นผู้ที่ตำรวจ ปส.ต้องการตัวมากที่สุด โดยเมื่อต้นปี 2548 เคยถูก พ.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ รอง ผกก. กลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.อุดรธานี จับกุมข้อหามีอาวุธปืนจำนวน 8 กระบอก ต่อมาวันที่ 6 ก.ค.2548 ถูกตำรวจชุดเดียวกันร่วมกับตำรวจ ปส. จับกุมข้อหาฟอกเงินและถูกอายัดทรัพย์เป็นเงินสด 9 แสนบาท รถยนต์ 1 คัน สมุดเงินฝาก 25 เล่ม ก่อนที่ผู้ต้องหาจะหลบหนีประกันตัวชั้นศาล

ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ที่หน้าธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาบ้านเพ ต.บ้านเพ อ.เมืองระยอง ตามหมายจับศาลอาญาที่ 134/2548 ลงวันที่ 7 ก.ค. 2548 ในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครอง ถูกคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.สายไหม ดำเนินคดี กระทั่งวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ต.สมจิตร สรรพวุธ พนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองอุดรธานี ได้ไปอายัดตัวมาดำเนินคดีตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ 114/2549 ลงวันที่ 2 มี.ค. 2549 ส่วนนายดง ทับอาษา นายไพศาล ไกรฤทธิ์ และนายอานนท์ รุ่งเรือง ถูกจับคดีลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะร่วมกับนายศฤงคารแหกห้องขัง ดังกล่าว

ขณะนี้ได้ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว โดยมี พ.ต.ท.สมกฤษ จันทอง รอง ผกก.สส.สภ.อ.เมืองอุดรธานี เป็นประธาน และมี พ.ต.ท.เทอดศักดิ์ บุญโชติ และ พ.ต.ท.ศักดา เหมือนโพธิ์ พนักงานสอบสวน ร่วมเป็นกรรมการ สำหรับผู้อยู่ในข่ายถูกสอบไล่ตั้งแต่ พ.ต.ท.ชัยโรจน์ นาคราช รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.อัครศร ศรีสุพัฒน์ สวป. พ.ต.ท.คมสันต์ เสืออินทร์ สารวัตรเวร ร.ต.อ.อาจณรงค์ แช่มชื่น รองสวป. ด.ต.สุนันท์ วรพันธ์ สิบเวร ด.ต.นิพนธ์ เจริญเพ็ง ผู้ช่วยสิบเวร หากพบว่าบกพร่องในจุดใดก็จะตั้งกรรมการสอบสวนเอาผิดทางวินัยกับผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบ อย่างไร ก็ตาม จากการตรวจสอบคืนเกิดเหตุพบกระป๋องเบียร์อยู่ในห้องผู้ช่วยสิบเวร สอบถาม ด.ต.นิพนธ์ยอมรับว่าดื่มเบียร์เข้าไป แต่ไม่ได้เมา ส่วนการติดตามตัวผู้ต้องหาที่หลบหนีนั้นได้สั่งให้ชุดสืบสวนออกติดตามจับกุมอย่างเร่งด่วน คาดว่านายศฤงคารคงหนีข้ามฝั่งลาวไปแล้ว

ตนเพิ่งทราบเหตุการณ์จากรายงานของ ผกก.สภ.อ. เมืองอุดรธานี เมื่อตอนเช้านี้เอง จึงได้เดินทางมาตรวจสอบ โดยได้ตั้งกรรมการขึ้นมาสืบสวนข้อเท็จจริงว่ามีใครบ้างที่จะต้องรับผิดชอบในการปล่อยปละละเลยให้ผู้ต้องหาแหกห้องขังหลบหนี ไล่ลงมาตั้งแต่ยามห้องขัง สิบเวร ร้อยเวร สารวัตรเวร ต้องว่ากันไปตามระเบียบ หลังจากนั้นก็จะตั้งกรรมการสอบสวนดำเนินคดีผู้รับผิดชอบทั้งทางวินัยและอาญาควบคู่กันไป

สำหรับนายศฤงคาร 1 ในผู้ต้องหาที่หลบหนีในครั้งนี้ เป็นพ่อค้ายาเสพติดที่มีเครือข่ายใหญ่แก๊งหนึ่ง โดยนายศฤงคารมีหน้าที่ในการประสานงานกับคนลาวนำยาบ้าเข้ามาขายในประเทศไทยจนมีฐานะร่ำรวย ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่าได้ว่าจ้างแก๊งมือปืนจากฝั่งลาวมาสังหาร พ.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.อุดรธานี ตำรวจมือปราบ เนื่องจากแค้นที่ตามราวีจับกุมนายศฤงคารหลายครั้ง แต่มือปืนที่รับงานไม่กล้าลงมือ

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ