นายกฯ ชี้ที่มาเงินป่วนใต้ ร้าน´ต้มยำกุ้ง´ในมาเลย์

"ไม่มีใครกล้าออกไปดู กลัวไม่ปลอดภัย"


เมื่อกลางดึกวันที่ 20 พ.ย. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน วางเพลิงเผาบ้านเลขที่ 2/1 บ้านตลาดล่าง หมู่ 2 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา เปลวเพลิงลุกไหม้บ้าน 2 ชั้น ครึ่งตึกครึ่งไม้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่มีใครกล้าออกไปดู เนื่องจากเกรงจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากหมู่บ้านดังกล่าวอยู่ในเขตอิทธิพลของกลุ่มแนวร่วมโจรใต้ ทำให้เปลวเพลิงเผาบ้านจนวอดทั้งหลัง จากนั้นเวลาไล่เลี่ยกันเกิดเหตุวางเพลิงเผาสำนักงานที่ดินอำเภอบันนังสตา เขตเทศบาลตำบลบันนังสตา อีกแห่งแต่เปลวเพลิงลุกไหม้เฉพาะประตูทางเข้าสำนักงาน

ต่อมาเช้าวันที่ 21 พ.ย. กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและเจ้าหน้าที่วิทยาการ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงเผาบ้าน พบบ้านถูกเผาเหลือแต่ซาก สอบสวนทราบว่า บ้านหลังเกิดเหตุเป็นของนายเที่ยง วัชระกุล อายุ 76 ปี ขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ เนื่องจากเจ้าของบ้านและสมาชิกในครอบครัว ซึ่งเป็นชาวไทยพุทธ ผวาภัยโจรได้อพยพหนีไปอยู่บ้านญาติในตัวเมืองยะลา คาดว่ากลุ่มโจรใต้ฉวยโอกาสเจ้าของไม่อยู่เผาทิ้ง เพื่อสร้างสถานการณ์

"กล้องวงจรปิดจับภาพชายคนร้าย เป็นวัยรุ่น3คน"


จากนั้นเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่สำนักงานที่ดินอำเภอบันนังสตา พบบริเวณประตูทางเข้าด้านหน้าอาคารได้รับความเสียหาย โดยมีแกลลอนบรรจุน้ำมันและผ้าชุบน้ำมันตกอยู่จำนวนมาก และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของสำนักงานฯ พบคนร้ายเป็นวัยรุ่นชาย 3 คน ทุบประตูกระจกสำนักงาน เพื่อจะเข้าไปด้านใน แต่เนื่องจากมีประตูเหล็กอยู่ด้านในอีกชั้น ไม่สามารถเข้าไปด้านในได้ คนร้ายจึงใช้ผ้าชุบน้ำมันโยนเข้าไปข้างในและใช้น้ำมันราดก่อนจุดไฟเผา สำหรับสำนักงานที่ดินอำเภอบันนังสตา เคยถูกกลุ่มคนร้ายลอบวางเพลิงมาแล้ว 1 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 เนื่องจากที่ตั้งของสำนักงานไม่มีรั้วและไม่มียามเฝ้า

อีกรายเมื่อเวลา 17.45 น. ร.ต.ท.ศิริชัย สุขสารัญ ร้อยเวร สภ.อ.บันนังสตา พ.ต.อ.อนุรุธ อิ่มอาบ ผกก. พ.ต.อ.พิทักษ์ เอียดแก้ว ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.ยะลา พ.ต.ท.เดชาวุธ เจ๊ะเต๊ะ รอง ผกก. (ป.) นำกำลังไปสอบสวนเหตุคนถูกยิง 2 ศพ ที่บ้านบันนังบูโบ หมู่ 3 ต.ถ้ำทะลุ ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนสายยะลา-เบตง พบศพนายเล็ก เฟื่องฟู อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 312/2 หมู่ 3 ต.ถ้ำทะลุ ถูกยิงด้วยกระสุน .45 เข้าที่ศีรษะ และศพนางวิไล เพชรดี อายุ 64 ปี ภรรยา ถูกยิงที่ลำตัว นอนตายอยู่ข้างรถ จยย. สอบสวนทราบว่า ขณะทั้งสองซ้อน จยย.จากสวนยางพาราจะกลับบ้าน ถูกคนร้าย 2 คน ซ้อน จยย.ประกบยิง คาดฝีมือโจรใต้

"คนร้ายโปรยตะปูเรือใบล่อ จนท.แล้วกราดยิง"


ส่วนกรณีชาวบ้าน ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา ชุมนุมขับไล่ ตชด.4402 ออกนอกพื้นที่โดยอ้างว่า ตชด.ยิง ชาวบ้านนั้น ล่าสุดกลุ่มชาวบ้านประมาณ 150 คน ได้รวมตัวชุมนุมปิดถนนอีกรอบ โดยเรียกร้องให้ทหารพรานย้ายออกจากพื้นที่อีก ภายหลังนายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ นอภ.ยะหา และคณะเข้าเจรจา พร้อมรับปากจะนำเรื่องเสนอฝ่ายทหารพิจารณา ซึ่งชาวบ้านพอใจสลายตัว

ต่อมาเวลา 19.30 น. มีกลุ่มคนร้ายคาดว่าเป็นแนวร่วมโจรใต้ในพื้นที่ ต.ธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา โปรยตะปูเรือใบบนถนนสายยะลา-เบตง บริเวณบ้านถ้ำฤาษี หมู่ 2 ต.ธารโต เป็นเหตุให้รถยนต์ที่แล่นผ่านทับตะปูจนยางล้อเสียหาย 3 คัน ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ. ธารโต ที่ตั้งด่านตรวจบริเวณตลาด อบต.ธารโต ทราบเหตุจึงร่วมกับทหาร ฉก. 14 เข้าเคลียร์พื้นที่ ระหว่างเจ้าหน้าที่เก็บกวาดตะปูเรือใบ ปรากฏว่าถูกคนร้าย ไม่ทราบจำนวนซุ่มยิงจนเกิดการยิงต่อสู้กันขึ้น เป็นเหตุให้ ด.ต.นิยม สุวรรณมณี ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปรามถูกยิงบาดเจ็บสาหัส จึงรีบนำส่ง รพ.ศูนย์ยะลา ส่วนฝ่ายคนร้ายหลบเข้าป่าหายไป

"กรณีคนร้ายถล่มร้านขายชาไข่มุก"


กรณีคนร้ายใช้ จยย.บอมบ์ ถล่มร้านขายชาไข่มุก เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ทำให้ทหารและชาวบ้านเสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 16 คน รักษาตัวที่ รพ.สุไหงโก-ลกนั้น ตอนสายวันเดียวกัน นายวิชิต ชาตไพสิฐ รอง ผวจ.นราธิวาส กับนางผานิต ศุภกิจเลขการ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส เดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ต่อมาพล.ต.จิรพันธ์ เกษมศานติ์สุข รองแม่ทัพภาคที่ 4 นำเงินบำรุงขวัญและเยียวยาให้แก่ทหารที่ได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกัน

ส่วนศพพลทหารนิเวศน์ สิตะวัน สังกัด ร้อย ร.6011 ฉก.39 จ.อุบลราชธานี ที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่ร้านชาไข่มุก อ.สุไหงโก-ลก นั้น ได้ถูกส่งกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.อุบลราชธานี แล้ว โดยมี พล.ต.จิรพันธ์ เกษมศานติ์สุข รองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานในพิธีส่งศพขึ้นเครื่องบินที่หมวดบินเฉพาะกิจภาคใต้ กองทัพเรือ สนานบินบ้านทอน อ.เมืองนราธิวาส โดยมีทหารกองเกียรติยศ ข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือนและประชาชน ร่วมตั้งแถวไว้อาลัยจำนวนมาก ในโอกาสนี้ พล.ต.จิรพันธ์ ได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ญาติของพลทหารนิเวศน์ พร้อมพิจารณาเสนอให้ปูนกำเหน็จต่อการเสียชีวิต 7 ขั้น

"เดินทางปลอบขวัญครูในพื้นที่"


กระทั่งเย็นวันเดียวกัน ศพพลทหารนิเวศน์ไปถึงท่าอากาศยานทหาร กองบิน 21 กองพลบินที่ 2 อุบลราชธานี จากนั้นได้เคลื่อนศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านปะอาว ต.ปะอาว อ.เมืองอุบลราชธานี และจะมีพิธี พระราชทานเพลิงศพในวันที่ 23 พ.ย.นี้ โดยนางสุบิน สิตะวัน มารดาของพลทหารนิเวศน์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า พลทหารนิเวศน์เป็นลูกคนสุดท้องมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นทหารจึงไปสมัครเป็นทหารเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 49 ลูกชายเคยบอกไว้ก่อนไปราชการภาคใต้ว่า หากจะตายก็ภาคภูมิใจที่ได้รับใช้ชาติขอเพียงมีธงชาติคลุมหน้าก็ไม่เสียดายชีวิตแล้ว

ที่อาคารอเนกประสงค์โรงเรียนบ้านยะบะ (อุปการวิทยา) อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และคณะเดินทางพบปะปลอบขวัญข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ อ.รือเสาะ และ อ.ศรีสาคร 59 โรง รวม 500 คน หลังจากเสียขวัญจากเหตุคนร้ายตามประกบยิงว่าที่ ร.ต. (หญิง) กุลลธิดา อินจำปา ครูโรงเรียนบ้านลาเมาะ อ.รือเสาะ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยนายกรีฑา แดงดี ผอ. โรงเรียนบ้านนาโอน ในฐานะผู้ประสานงานครู อ.รือเสาะ และ อ.ศรีสาคร ได้เป็นตัวแทนข้าราชการครูกล่าวเสนอข้อเรียกร้อง 5 ข้อ ยื่นเสนอให้กับเลขาธิการ สพฐ. ทั้งเรื่องเพิ่มเบี้ยเสี่ยงภัย การปูนบำเหน็จ และการดูแลความปลอดภัย ส่วนโรงเรียน 62 แห่ง ใน อ.ศรีสาคร กับ อ.รือเสาะ จะเปิดเรียนทั้งหมดในวันที่ 22 พ.ย.นี้

"ดัดแปลงใต้ถุนบ้านพักเป็นที่เรียนแทนอาคารที่ถูกเผา"


สำหรับบรรยากาศที่โรงเรียนบ้านดอนรัก ต.ดอนรัก อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ที่ถูกคนร้ายลอบเผาอาคารเรียนวอดทั้งหลัง โรงเรียนต้องใช้ใต้ถุนบ้านพักครูดัดแปลงเป็นห้องเรียนให้กับเด็ก ซึ่งต้องอยู่กันอย่างแออัด โดยนายสุพล จันทรประดิษฐ์ ผอ.โรงเรียนบ้านดอนรัก เปิดเผยว่า ต้องยอมรับสภาพความแออัด ไม่อยากให้เด็กไปเรียนในเต็นท์เพราะฝนตกบ่อย ปัญหาของโรงเรียนอีกอย่างคือ สื่อการเรียนการสอนถูกไฟไหม้หมด อยากขอผู้ใจบุญช่วยบริจาคสื่อการเรียนการสอนให้กับเด็กๆด้วย

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ปัญหาภาคใต้ว่า คงจะยึดแนวทางสันติวิธี ส่วนการส่งตัวแทนไปหารือกับแกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบยังไม่มีความคืบหน้า เพราะยังไม่มีกลุ่มแสดงตัวออกมาเจรจา ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่จะทำความจริงให้ปรากฏในเหตุการณ์วิสามัญที่มัสยิดกรือเซะ จ.ปัตตานี และที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เห็นด้วยหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า ทางกระทรวงวัฒนธรรม กำลังดำเนินการอยู่ เพราะเกี่ยวกับหลักฐานสืบสวนสอบสวนต้องใช้เวลา

"วอนสื่อช่วยกระตุ้นสร้างความเข้าใจกับ ปชช."


พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวถึงการนัดประชุม ครม.นัดพิเศษที่บ้านพิษณุโลก ในวันที่ 23 พ.ย.นี้ เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาภาคใต้ว่า เป็นการคุยกันแบบไม่มีวาระมากกว่าไม่ได้เป็นการประชุม ครม.นัดพิเศษ ทุกกระทรวงสามารถ แสดงความคิดเห็นได้เพื่อให้เกิดเอกภาพ เมื่อถามว่าสถานการณ์ขณะนี้ผู้ก่อเหตุเหมือนกับว่าไม่ต้องการให้ ชาวไทยพุทธอยู่ในพื้นที่ และต้องการกักขังไทยมุสลิมไม่ให้มาติดต่อกับภาครัฐ จะดำเนินการอย่างไร พล.อ.สุรยุทธ์ ตอบว่า สื่อคงต้องช่วยในส่วนนี้ที่จะสร้างความเข้าใจทั้งคนไทยพุทธและไทยมุสลิมว่ามีคนที่เขาคิดไม่ดี เราต้องหันมาร่วมมือช่วยเหลือกัน เหมือนอย่างที่คนไทยมุสลิมจาก อ.บันนังสตา มาเยี่ยมกลุ่มคนไทยพุทธที่อพยพไปอยู่ที่วัดในตัวเมือง จ.ยะลา ถือเป็นวัฒนธรรมแสดงให้เห็นความผูกพันกัน

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า รัฐบาลรู้หรือยังว่ากำลังต่อสู้ อยู่กับอะไร และกลุ่มผู้ก่อเหตุต้องการอะไร พล.อ.สุรยุทธ์ ตอบว่า คิดว่ามีคนที่เขาคิดไม่ดี คิดจะแบ่งแยกดินแดนโดยใช้ความเชื่อทางศาสนา เชื้อชาติและประวัติศาสตร์มาเป็นข้ออ้าง สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดา ต่อข้อถามว่า กลุ่มเหล่านี้ได้รับเงินสนับสนุนจากที่ไหน พล.อ.สุรยุทธ์ ตอบว่า เป็นเรื่องที่สามารถติดตามได้ ไม่เป็นเงินมากมาย เท่าที่ทราบเขามีเครือข่ายร้านอาหารไทยในมาเลเซียที่เรียกว่า ต้มยำกุ้ง อาศัยการบริจาคจากร้านอาหารเหล่านี้ และใช้วิธีการเรียกค่าคุ้มครองนักธุรกิจในพื้นที่ทั้งคนเชื้อสายจีน คนไทยพุทธและไทยมุสลิม เมื่อถามว่าจะแก้ปัญหาตัดท่อน้ำเลี้ยงตรงนี้อย่างไร พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า ต้องค่อยๆทำ สิ่งสำคัญคือ ถ้าสามารถสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และความเชื่อมั่นได้ ประชาชนก็จะมาให้ความ ร่วมมือมากขึ้น แต่ไม่ใช่เป็นสงครามแย่งชิงประชาชน

"ครม.ยังเห็นชอบข้อเสนอความสมานฉันท์"


ร.อ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม. ว่า นายกฯได้พูดถึงกรณีที่ได้หารือกับนายกรัฐมนตรีอับดุลลาห์ อาหมัด บาดาวี ของมาเลเซีย ว่า อยากมีการประสานกันให้ครูและเยาวชนในจังหวัดภาคใต้ไปดูการจัดการเรียนการสอนในมาเลเซีย ซึ่งทางการมาเลเซียพร้อมรับรอง และจะได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบข้อเสนอเกี่ยวกับการสร้างความสมานฉันท์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมกันนี้นายกฯได้สรุปในช่วงท้ายว่า ปัญหาภาคใต้นั้นเป็นปัญหาเรื่องเอกภาพในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ควรต้องมีการประสานงานกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและอย่างต่อเนื่อง

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ครม.ได้อนุมัติจ่ายเงินค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนแก่ครูอัตราจ้างใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ 4 อำเภอใน จ.สงขลา คือ จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย 3,695 คน ในอัตรา 1,000 บาทต่อคนต่อเดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2549 เป็นต้นไป โดยเบิกจ่ายจากงบบุคลากรของส่วนราชการ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์