นศ.วิศวะตีหัวหมอฟัน คาเบนซ์!

"จอดจักรยานไม้ฟาดหมอหนุ่มชิงทรัพย์"


เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 ก.พ. พ.ต.ท.ไวยกูล กิจเพชร สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองนนทบุรี รับแจ้งมีคนร้ายก่อเหตุ ชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกายเจ้าทรัพย์ได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณหน้าธนาคารกรุงเทพ สาขารัตนาธิเบศร์ ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบว่าพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ นำผู้บาดเจ็บส่ง รพ.นนทเวช ให้แพทย์เย็บบาดแผลแตกที่ศีรษะรวม 10 เข็ม ผู้เสียหายชื่อทันตแพทย์กมล ตั้งกิจงามวงศ์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/94 ซอยจุฬาเกษม ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี

สอบสวนทราบว่า ขณะที่ทันตแพทย์กมล ซึ่งเปิดคลินิกทำฟันชื่อ รัตนคลินิค อยู่ย่านที่เกิดเหตุ กำลังเปิดฝากระโปรงท้ายรถเบนซ์ รุ่น อี 230 สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน 4 ณ 9977 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่ริมถนนรัตนาธิเบศร์ เพื่อหยิบกระเป๋าเอกสาร จู่ๆมีชายคนร้ายเป็นวัยรุ่น ปั่นจักรยานมาจอดใกล้ๆ จากนั้นคนร้ายลงจากรถจักรยาน แล้วใช้ไม้ตีเข้าบริเวณท้ายทอยของทันตแพทย์ หนุ่มผู้เคราะห์ร้ายอย่างแรง จนศีรษะแตกเป็นแผลฉกรรจ์ ล้มฟุบลงกับพื้น คนร้ายรีบเข้าไปฉวยกระเป๋าเอกสารกลับขึ้นรถจักรยานปันหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

"ตร.ตามรวบได้ทันควัน"


ระหว่างนั้น ด.ต.สมยศ สุขสมเนตร เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ภ.จ.นนทบุรี ผ่านมาประสบเหตุ จึงวิ่งไล่กวดคนร้ายไปติดๆ คนร้ายเห็นจวนตัวรีบทิ้งรถจักรยานวิ่งหลบหนีข้ามถนนฝั่งตรงข้ามธนาคารกรุงเทพ แต่ถูก ด.ต.สมยศล็อกตัวเอาไว้ได้ นำตัวมามอบให้ พ.ต.ท.ไวยกูล กิจเพชร สารวัตรเจ้าของคดี นำตัวไปสอบปากคำที่ สภ.อ. เมืองนนทบุรี ทราบชื่อนายสุภัทรชัย สุดกล้า อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 266 ถนนพลเสน ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะวิศวกรรมโยธา สถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้า วิทยาเขตพระนครเหนือ อ.เมืองนนทบุรี

นายสุภัทรชัยให้การรับสารภาพกับพนักงานสอบสวนว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ขี่รถจักรยานออกจากบ้านเพื่อนย่านถนนพิบูลสงคราม มาจนถึงหน้าธนาคารดังกล่าวพร้อมกับพกไม้หน้าสามเหน็บเอวมาด้วย สอดส่ายสายตาหาเหยื่อ เพื่อตั้งใจจะก่อเหตุชิงทรัพย์ กระทั่งเจอผู้เสียหายขับรถเบนซ์มาจอดหน้าธนาคาร และก้มๆเงยๆหยิบกระเป๋าเอกสารอยู่ที่ฝากระโปรงท้ายรถ สบโอกาสดังนั้นจึงจอดรถจักรยานลงไปใช้ไม้หน้าสามหวดเข้าที่ท้ายทอยอย่างแรง ก่อนหยิบกระเป๋าเอกสารขึ้นรถจักรยานขี่หลบหนี เพราะคิดว่าภายในกระเป๋าน่าจะมีทรัพย์สินมีค่า แต่ถูกตำรวจผ่านมาประสบเหตุ และรวบตัวไว้ได้ในที่สุด

"สารภาพต้องการเงินไปเที่ยวกับแฟน"


นักศึกษาหนุ่มที่ต้องหมดอนาคตทันตาเห็นรายนี้ยังอ้างว่า สาเหตุที่ต้องชิงทรัพย์และทำร้ายเจ้าทรัพย์ เพราะต้องการหาเงินไปเที่ยวกับแฟนสาวในวันวาเลนไทน์ และหาเงินไปจ่ายค่าเช่าบ้าน เนื่องจากช่วงนี้เงินขาดมือ จึงตัดสินใจก่อเหตุด้วยอารมณ์ชั่ววูบ และเพิ่งทำครั้งนี้เป็นครั้งแรก ไม่คิดว่าจะถูกตำรวจจับได้เร็วเช่นนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาชิงทรัพย์แก่นายสุภัทรชัย และคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

ต่อมา น.ส.โสภิดา สุดกล้า อายุ 35 ปี พี่สาวของนายสุภัทรชัยผู้ต้องหา เดินทางมาจาก จ.นครราชสีมา เข้าพบพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี พร้อมให้การว่า ไม่เชื่อว่าน้องชายจะก่อเหตุชิงทรัพย์เพื่อหาเงินไปเที่ยวกับแฟนในวันวาเลนไทน์ตามที่อ้าง แต่คิดว่าสาเหตุน่าจะมาจากน้องชายติดการพนันฟุตบอลต่างประเทศมากกว่า เพราะก่อนหน้านี้ นายสุภัทรชัยพักอาศัยอยู่กับพี่ชาย

"พี่สาวไม่เชื่อ คาดใช้หนี้พนันบอล"


ซึ่งเป็นวิศวกรบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แต่ปรากฏว่านายสุภัทรชัยกลับขโมยเงินของพี่ชายไปกว่า 1 แสนบาท โดยไม่ยอมบอกว่าเอาไปใช้อะไร ทั้งที่ทางบ้านก็ส่งเงินให้ใช้สม่ำเสมอ และเมื่อ 2-3 วันก่อน มารดาก็เพิ่งส่งเงินมาให้อีก 3,500 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย จึงมั่นใจว่าสาเหตุที่น้องชายอ้างว่าเงินขาดมือน่าจะนำเงินไปใช้หนี้พนันฟุตบอลมากกว่า

น.ส.โสภิดากล่าวต่อไปว่า เรื่องที่เกิดขึ้นรู้สึกเสียใจมากที่น้องชายมาก่อเหตุตัดอนาคตตัวเองเช่นนี้ ทั้งที่ทางบ้านก็ไม่ได้ขัดสนอะไร อย่างไรก็ตาม จะกลับบ้านไปเตรียมหลักทรัพย์มาประกันตัวน้องชาย เพื่อให้ออกไปเรียนหนังสือให้จบ ส่วนเรื่องคดีคงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะสืบสวนสอบสวนคลี่คลายความจริงต่อไป แต่หากเป็นเรื่องการพนันฟุตบอลจริง อยากจะขอร้องให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง เร่งปราบปรามโต๊ะพนันฟุตบอลและเจ้ามือโดยด่วน จะได้ไม่มีเยาวชนหลงผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์