นทท.ไอร์แลนด์ฯมาพักแพริมน้ำแควน้อยหายตัวไร้ร่องรอย

นทท.ชาวไอร์แลนด์เหนือ มาพักผ่อนนอนแพ ริมน้ำแควน้อย หายตัวไร้ร่องรอย หลังทะเลาะแฟนสาวชาวไทย จนท.ลุยป่าปีนเขา 3 วันแล้วยังไม่พบ

29 ส.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น.ที่ผ่านมา ขณะที่ ร.ต.อ.สมบุญ ภัทรวงษ์วิเศษ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เข้าเวรอยู่ที่ สภ.ไทรโยค ได้มี น.ส.สุภาพรรษา พรขุนทด อายุ 35 ปี อยู่บ้านเขที่ 1134/413 ถ.ศรีนครินทร์ แขวงอ่อนนุช เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ มาพบโดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค เดินทางมาเป็นเพื่อน

ทั้งนี้ น.ส.สุภาพรรษา แจ้งว่า เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนกับ Mr.ROBORT LYTLE แฟนหนุ่มชาวไอร์แลนด์เหนือ ได้ขับรถยนต์เก๋งมาท่องเที่ยวพักผ่อนอยู่ที่แพพักแห่งหนึ่ง ที่อยู่ริมแม่น้ำแควน้อย ท้องที่หมู่ 7 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค โดยเข้าพักในเวลา 13.00 น. ต่อมาคืนวันเดียวกันตนกับแฟนเกิดมีปากเสียงทะเลาะกัน จากนั้นในช่วงเวลาประมาณ 03.00 น.ของวันที่ 28 ส.ค. ตนจึงไปขอนอนพักอยู่กับแม่บ้านของแพดังกล่าว

จนกระทั่งเวลาประมาณ 08.00 น.ตนจึงไปหาแฟนที่ห้องพัก แต่ปรากฏว่าไม่พบ จึงมาสอบถามผู้ที่อยู่ในแพด้วยกัน ซึ่งก็บอกว่า ช่วงเวลาประมาณ 07.00 น. เห็นแฟนของตนยืนอยู่ที่ระเบียงแพหน้าห้องพัก จึงพยายามตามหาแต่ไม่พบ เมื่อไม่พบจึงไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค เพื่อนำกำลังมาช่วยกันค้นหาแต่ก็ไม่พบตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตลอดทั้งวันที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้กระจายกำลังกันค้นหาตัว Mr.ROBORT LYTLE ทั้งทางบกและทางน้ำ รวมทั้งเดินขึ้นไปหาบนภูเขาที่อยู่ใกล้เคียง แต่ก็ไม่พบ ส่วนรถยนต์เก๋งที่ขับมายังอยู่ แต่โทรศัพท์มือถือของแฟนสาว Mr.ROBORT LYTLE ได้นำติดตัวไปด้วย

โดยเจ้าหน้าที่ได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อแต่ไม่สามารถติดต่อได้จนถึงขณะนี้เวลา 20.19 น.เจ้าหน้าที่ได้พยายามติดตามหากันอยู่ ท่ามกลางท้องฟ้าที่มืด และฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทุกคนที่ช่วยกันค้นหาต่างเกรงว่า Mr.ROBORT LYTLE จะหายไปกับสายน้ำ

แต่จากการบอกเล่าของ น.ส.สุภาพรรษา แฟนสาวชาวไทย ก็ทราบว่า ทั้งสองเคยทะเลาะกันบ่อยครั้ง แต่ละครั้ง Mr.ROBORT LYTLE จะหายตัวไปครั้งละ 2-3 วัน จากนั้นก็กลับมาหาแฟนสาวเช่นเดิม ซึ่งทุกคนก็ขอภาวนาให้เป็นดังที่ น.ส.สุภาพรรษา เล่า และหากใครพบ Mr.ROBORT LYTLE ตามภาพ ขอให้โทรแจ้งสายด่วน 191 " สำหรับความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป