ท้าชนม์สวัสดิ์เปิด ภาพทุกมุมจับแน่พร้อม2สมุน

โดนข้อหาหนัก"กักขัง"!รตอ.-รตต.ยันเห็นกับตานาทีสตท.ถูกรุมล็อกคอ



ตร.ออกหมายเรียก "ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม" 28 พ.ค.นี้ รับทราบ 2 ข้อหา ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน-กักขังหน่วงเหนี่ยว

จ่อฟันเพิ่มอีก 2 ลูกน้องชนม์สวสดิ์ที่เข้าไปล็อกคอส.ต.ท.คู่กรณี

สอบทั้งร.ต.อ.-ร.ต.ต.ที่อยู่ในเหตุการณ์ก่อนพาไปสเกตช์ภาพ 2 ลูกน้องแล้ว ผบก.น.1 สั่งตรวจสอบให้ชัดว่ามีกล้องวงจรปิดกี่ตัวแน่ มีการตัดต่อภาพหรือไม่ ส่วนส.ต.ท.คู่กรณียันสู้ไม่ถอย ไม่มียอมความ ยันโดนล็อก แต่ไม่เห็นมีในภาพวงจรปิด

ร.ต.ต.ที่เห็นเหตุการณ์ยันพร้อมเป็นพยาน

เอาเรื่องชนม์สวสัดิ์กับลูกน้อง คนแห่ให้กำลังใจส.ต.อ.กันคับคั่ง มีหญิงสาวจากต่างประเทศส่งดอกไม้ให้กำลังใจถึงโรงพักทีเดียว รองนายกเล็กปากน้ำคนสนิทยันชนม์สวัสดิ์พร้อมไปพบตร.แน่หากได้รับหมายเรียก

จากกรณีส.ต.ท.ปรารภ แสงนิล ผบ.หมู่งานจราจร สน.มักกะสัน

เข้าแจ้งความต่อพ.ต.ต.สุณัฐพล นิรมิตศุภเชษฐ์ พงส. (สบ2) สน.มักกะสัน เพื่อให้ลงบันทึกประจำวัน โดยระบุว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 19 ต่อเนื่องถึงวันที่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาตั้งด่านตรวจบนถนนเพชรบุรีตัดใหม่

ตรงข้ามบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด เขตห้วยขวาง กทม.

โดยมี ร.ต.ต.ธนากร พิมพ์ชัย รองสว.จร.สน.มักกะสัน เป็นหัวหน้า ระหว่างนั้นเรียกตรวจรถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู สีดำ รุ่นซีรีส์ 7 ทะเบียน วอ-2222 กทม. แต่คนขับซึ่งมากับผู้หญิงหลายคนไม่ยอมให้ตรวจ โดยขับหลบเข้าไปภายในโชว์รูมรถยนต์ภายในปั๊มน้ำมันใกล้ๆ กับด่าน




ซึ่งส.ต.ท.ปรารภระบุว่า ได้เกาะกระจกรถวิ่งตามไปด้วย

ภายหลังทราบชื่อผู้ขับขี่ คือ นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม นายกเทศบาลนครสมุทรปราการ บุตรชายนายวัฒนา อัศวเหม นักการเมืองชื่อดังจ.สมุทรปราการ ระหว่างนั้นมีพรรคพวกของนายชนม์สวัสดิ์ เข้ามายื้อยุดและล็อกคอ

จนต่อมานายตำรวจประจำด่านเข้ามาเคลียร์ปัญหา

ก่อนที่จะแยกย้ายกันไป ขณะที่นายชนม์สวัสดิ์ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้ทำร้ายตำรวจ และไม่ได้เมา แค่ขับรถไปกินโจ๊กกับเพื่อนๆ โดยนำวิดีโอวงจรปิดที่หน้าบ้านบันทึกไว้มายืนยันว่าไม่มีเหตุการณ์ทำร้ายส.ต.ท.ปรารถ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 พ.ค. พล.ต.ต.มานิตย์ วงศ์สมบูรณ์

ผบก.น.1 กล่าวว่า ได้ดูภาพวงจรปิดที่นายชนม์สวัสดิ์นำมาเผยแพร่แล้ว โดยประเด็นตรงจุดที่เกิดเหตุเป็นด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ซึ่งรัศมีกล้องไปไม่ถึง โดยที่นายชนม์สวัสดิ์ขัดขืนการตรวจวัดแอลกอฮอล์ของเจ้าหน้าที่

จึงถือว่าได้กระทำความผิดฐานขัดคำสั่งของเจ้าพนักงาน

ขณะปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายแล้ว และถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนในภาพที่ปั๊มน้ำมัน ส่วนที่ไม่มีภาพการทำร้ายร่างกาย ส.ต.ท.ปรารภนั้น ประเด็นนี้พนักงานสอบสวนไม่ได้ตั้งข้อหาทำร้ายร่างกาย แต่ได้แจ้งฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ เนื่องจาก ส.ต.ท.ปรารภให้การว่าถูกล็อกคอและดึงเข้าไปในปั๊มน้ำมัน

ผบก.น.1 กล่าวว่า คดีนี้ผู้บังคับบัญชาได้ให้ความสำคัญเป็นกรณีพิเศษ

เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ และเกิดขึ้นกับลูกนักการเมือง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากนี้ตนได้สั่งการให้ทางพนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำบุคคลที่อยู่ในภาพทั้งหมด รวมทั้งไปตรวจสอบดูว่าในสถานที่ดังกล่าวมีกล้องอยู่กี่ตัว และมีการตัดต่อภาพที่นำออกมาเผยแพร่ผ่านสื่อหรือไม่



นอกจากนั้นจะทำการสอบปากคำพยานแวดล้อมทั้งหมด

โดยยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย

พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง ผกก.สน.มักกะสัน กล่าวว่า

ทางพนักงานสอบสวนได้ส่งหมายเรียกนายชนม์สวัสดิ์ เพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวหาไปแล้ว ส่วนชายอีก 2 คน ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องก็ได้ให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำส.ต.ท.ปรารภ แสงนิล ร.ต.ต.ธนกร พิมชัย รองสว.จร. และร.ต.อ.นพดล เจริญทรัพย์ รองสวป.ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ

จากนั้นก็ได้ให้ไปสเกตช์ภาพ เพื่อออกหมายเรียกมาสอบปากคำแล้ว

หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็จะมีการแจ้งข้อหาร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว อย่างไรก็ตาม ในคดีนี้ทางผู้บังคับบัญชาได้กำชับมาว่าให้ทำคดีอย่างตรงไปตรงมา

พ.ต.อ.จีรศักดิ์ กล่าวต่อว่า จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการติดต่อ

เพื่อขอเข้ามอบตัวจากนายชนม์สวัสดิ์เลย หลังเกิดเหตุได้กำชับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรให้ดำเนินการตั้งด่านตรวจไปตามปกติ หากพบผู้ขับขี่มีอาการเมาสุราก็ให้พูดจาหรือปฏิบัติตัวด้วยความสุภาพ หากมีปัญหากระทบกระทั่งก็ให้รีบแจ้งผู้บังคับบัญชาให้เข้าช่วยระงับเหตุ

พ.ต.ท.วิชยานนท์ นิติกุล รองผกก.สส.สน.มักกะสัน กล่าวว่า

ได้สอบปากคำพยาน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าเวรตั้งด่านตรวจในวันเกิดเหตุและเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร (อป.พร.) ที่มาช่วยตั้งด่านไปแล้ว 5 ปาก ก่อนออกหมายเรียกนายชนม์สวัสดิ์ให้มาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ภายในวันที่ 28 พ.ค. นี้ เวลา 10.00 น.

ซึ่งหากนายชนม์สวัสดิ์มาพบพนักงานตามหมายเรียก

ก็จะแจ้งข้อหาขัดคำสั่งเจ้าพนักงานและกักขังหน่วงเหนี่ยว จากนั้นก็จะปล่อยตัวไปชั่วคราว โดยไม่ต้องยื่นประกันตัวแต่อย่างใด ส่วนชายอีก 2 คน ที่ส.ต.ท.ปรารภให้การว่าเข้ามาล็อกตัวนั้น ได้ให้ส.ต.ท.ปรารภเดินทางไปสเกตช์ภาพเพื่อออกหมายเรียกมาให้ปากคำแล้ว โดยเบื้องต้นจะแจ้งข้อหาร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวให้ขาดอิสรภาพ



เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คดีนี้ส่งผลต่อคดีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในข้อหาทุจริตการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลที่จ.สมุทรปราการหรือไม่

พ.ต.ท.วิชยานนท์กล่าวว่า ไม่มีผล เพราะคดีทุจริตที่จ.สมุทรปราการ ยังไม่สิ้นสุดอยู่ในระหว่างอุทธรณ์ แต่ถ้าหากคดีนั้นสิ้นสุดแล้วจึงจะนับรวมคดีที่เกิดขึ้นนี้ด้วย เมื่อถามว่า มีความหนักใจในคดีนี้หรือไม่ พ.ต.ท.วิชยานนท์กล่าวว่า ไม่หนักใจ เพราะได้ดำเนินการไปตามกฎหมาย

สำหรับคดีนี้หากนายชนม์สวัสดิ์เข้าให้ปากคำทางพนักงานสอบสวน

ก็จะพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อตรวจสอบประวัติย้อนหลังว่าเคยก่อคดีอะไรมาก่อนหน้านี้หรือไม่ จากนั้นก็จะสรุปสำนวนส่งให้อัยการฟ้องศาลแขวงพระนครเหนือต่อไป

ต่อมาผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบที่ปั๊มน้ำมันเพียว

ริมถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง เนื่องจากทราบว่า นายชนม์สวัสดิ์จะเปิดแถลงข่าวเพื่อชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยด้านข้างของปั๊มน้ำมันเป็นบริษัทวัฒนาออโต้เซลล์ เปิดเป็นโชว์รูมรถหรูและอู่ซ่อมรถ

รวมทั้งเป็นสำนักงานและที่พักของนายชนม์สวัสดิ์

พบว่ามีกล้องทีวีวงจรปิด 3 ตัวติดตั้งอยู่ด้านข้างอาคารเหนือโรงจอดรถ ปรากฏว่าไม่พบนายชนม์สวัสดิ์ พบเพียงนายนำพล คารมปราชญ์ รองนายกเทศมนตรีนครสมุทรปราการอยู่ภายในสำนักงาน

นายนำพลกล่าวว่า ขณะนี้นายชนม์สวัสดิ์ไม่อยู่

และไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนที่มีข่าวว่าจะมีการแถลงข่าวคาดว่าคงเป็นการเข้าใจผิด ถึงตอนนี้นายชนม์สวัสดิ์ยังรอหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่เพื่อรอความชัดเจน ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าหากได้รับหมายเรียกก็พร้อมจะเข้าพบเจ้าหน้าที่เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา



แต่ที่ตอนนี้ไม่มาเพราะเกรงว่าจะไม่เหมาะสม

ซึ่งช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ส่งทนายความไปที่สน.มักกะสัน เพื่อถามถึงรายละเอียดของหมายเรียกแล้ว เพราะเกรงว่าหากหมายเรียกมาไม่ถึง หรือถูกกลั่นแกล้ง หมายเรียกอาจกลายเป็นหมายจับ จะบานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่

เวลา 13.00 น. ร้านดอกไม้ลาเฟอร์ (LA FLEUR)

ได้ให้พนักงานขับรถจักรยานยนต์นำช่อดอกไม้มามอบให้ส.ต.ท.ปรารภ ที่สน.มักกะสัน โดยมีข้อความ "ตำรวจไทยสู้ เป็นกำลังใจให้นะคะ" ลงชื่อ "นิลุบล อนุกูล" ซึ่งเมื่อสอบถามไปทางร้านพบว่าผู้ที่ให้ส่งดอกไม้อยู่ต่างประเทศ ต้องการส่งดอกไม้มาเพื่อให้เป็นกำลังใจกับส.ต.ท.ปรารภที่สน.มักกะสัน ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ไม่ทราบ

ต่อมาเวลา 14.45 น. พ.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง

ผกก.5 บก.ป. ได้เดินทางไปที่สน.มักกะสัน พร้อมนำกระเช้าดอกไม้มามอบ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับ ส.ต.ท.ปรารภ โดยพ.ต.อ.สมพงษ์กล่าวว่า ที่เดินทางมามอบกระเช้าดอกไม้ ก็เพื่อเป็นกำลังใจให้กับส.ต.ท.ปรารภที่ได้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ย่อท้อ และไม่เลือกว่าจะเป็นคนรวยหรือคนจน ทั้งนี้

จากการที่ได้ดูภาพจากกล้องทีวีวงจรปิด

ที่นายชนม์สวัสดิ์นำมาเผยแพร่ทางโทรทัศน์ก็เป็นเพียงแค่มุมเดียว อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับศาลว่าจะตัดสินคดีอย่างไร นอกจากนี้หากส.ต.อปรารภถูกทำร้ายจนเป็นอะไรไปตนเองก็จะตามล่าตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้

ส่วนส.ต.ท.ปรารภกล่าวว่า ไม่อยากพูดอะไรมาก

ที่ผ่านมาหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวก็มีเพื่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจและพี่น้องประชาชนโทรศัพท์มาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งตนก็แสดงความขอบคุณในน้ำใจที่มีให้ และขอยืนยันว่าจะเอาเรื่องนายชนม์สวัสดิ์จนถึงที่สุด



จนถึงขณะนี้นายชนม์สวัสดิ์ยังไม่ได้ติดต่อมา

เพื่อขอเคลียร์เรื่องราวที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด โดยตนกำลังปรึกษากับทางผู้บังคับบัญชา เพื่อหาทางตอบโต้หลักฐานวงจรปิดที่นายชนม์สวัสดิ์นำมาอ้างอยู่ เพราะตนโดนจับล็อกคอ แต่กลับไม่มีภาพปรากฏในวงจรปิด ซึ่งคาดว่าต้องมีวงจรปิดอีกหลายมุม แต่ไม่นำมาเปิดเผยเท่านั้น

ร.ต.ต.ธนากร พิมพ์ชัย รองสว.จร.สน.มักกะสัน

ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้บังคับบัญชาจุดตรวจขณะเกิดเหตุ ให้สัมภาษณ์ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ทางช่อง 3 ว่า ขณะเกิดเหตุส.ต.ท.ปรารภกำลังถูกชาย 3 คนรุมล็อกตัว โดยที่ชายสวมเสื้อขาว กางเกงขาสั้น ซึ่งทราบภายหลังว่าคือนายชนม์สวัสดิ์เป็นคนล็อกตัวส.ต.ท.ปรารภไว้ จึงตะโกนบอกให้หยุด และให้ปล่อยตัวตำรวจ

แต่นายชนม์สวัสดิ์ตะคอกกลับมาว่า

"มึงไม่รู้จักกูเหรอว่ากูเป็นใคร มึงไปตามหัวหน้ามึงมา" และไม่ยอมปล่อยตัวส.ต.ท.ปรารภ ยื้อยุดกันไปมาจนกระทั่งล้มลงไปทั้ง 3 คน ตนจึงเข้าไปดึงตัวส.ต.ท.ปรารภออกมาได้

ส่วนภาพวงจรปิดที่นายชนม์สวัสดิ์นำมาอ้าง

เป็นหลักฐานนั้นเป็นภาพที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ยุติแล้ว เป็นภาพช่วงที่ตนนำตัวส.ต.ท.ปรารภออกมาจากบริเวณประตูบ้านของนายชนม์สวัสดิ์

"เวลานั้นผมต้องนำตัวลูกน้องผมออกมาให้ได้ก่อน และก็ได้ยินชายชุดดำอีก 2 คน เขาเรียกชื่อคุณเอ๋ ผมก็เริ่มรู้แล้ว จึงวิทยุเรียกกำลังร้อยเวรปรึกษาเจ้านายก่อนว่าจะให้ทำยังไง เพราะถ้าจะให้จับ ผมไม่กล้าจับเขาแน่นอนอยู่แล้ว

และยืนยันว่าขณะเกิดเหตุกลุ่มนายชนม์สวัสดิ์

มีอาการเมาสุรามากจนแทบจะทรงกายไม่อยู่ และขอตั้งข้อสังเกตว่าถ้าหากนายชนม์สวัสดิ์ยืนยันว่าไม่เมา เหตุใดเมื่อตำรวจโบกให้หยุดจึงไม่หยุด และไม่พูดจาดีๆ ทั้งยังดันทุรังขับรถต่อไปทั้งที่ตำรวจเกาะติดไปกับรถด้วย อย่างไรก็ตาม ผมพร้อมเป็นพยานให้ส.ต.ท.ปรารภว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความจริงทุกประการ" ร.ต.ต.ธนากร



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์