ทลายแก๊งโจรอีสาน ลักคูโบต้า

ตำรวจสืบสวนภาค 4 จับแก๊งโจรลัก "คูโบต้า" รายใหญ่ของภาคอีสาน หัวหน้าแก๊งรับสารภาพร่วมกับลูกน้องอีก 2 คน

เช่ารถกระบะตระเวนก่อเหตุมาตั้งแต่เดือนพ.ค. ในหลายจังหวัดทั่วภาคอีสานทั้ง อุดรธานี หนองคาย หนองบัวลำภู เลย ได้มาแล้วไม่ต่ำกว่า 40 เครื่อง นำไปขายต่อให้ชาวบ้านเครื่องละ 7,000-10,000 บาท โดยทำสัญญาซื้อขายปลอม ตำรวจตามยึดคืนมาได้ 26 เครื่อง ประสานตำรวจพื้นที่แจ้งผู้เสียหายมาตรวจดูของกลางแล้ว

ตำรวจภาค 4 จับแก๊งโจรลัก"คูโบต้า"ทั่วภาคอีสานครั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.

พล.ต.ต.สันติ เพ็ญสูตร รรท.ผบช.ภาค 4 พล.ต.ต.ศักดา เตชะเกรียงไกร รรท.รองผบช.ภาค 4 พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา ผบก.ศสส.ภาค 4 พ.ต.อ.ยรรยง เวชโอสถ ผกก.สส.1 บก.สส.ภาค 4 พ.ต.ท.ณัฐนนท์ ประชุม รองผกก.ฯ พ.ต.ท.ไพโรจน์ แสงอรุณ รองผกก.ฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส. ภาค 4 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมแก๊งตระเวนลักเครื่องคูโบต้า เครื่องมือการเกษตร ได้ตัวผู้ต้องหา 2 คน คือ นายสุรพงษ์ เอี่ยมป้อง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 182/1 หมู่ 1 ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก และนายอเนก จันล้วน อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 2 ต.บ้านฝาง อ.สระใคร จ.หนองคาย

พร้อมของกลางเครื่องยนต์คูโบต้า 26 เครื่อง ประแจปากตาย 8 ตัว ไขควง 2 อัน ใบเลื่อยตัดเหล็ก 1 อัน รถยนต์เก๋งฮอนด้า ซิตี้ หมายเลขทะเบียน กจ 4271 อุดรธานี 1 คัน หนังสือสัญญาซื้อขายเครื่องคูโบต้า 15 ชุด ตั้งข้อกล่าวหาร่วมกันลักทรัพย์เครื่องมืออันมีไว้ประกอบอาชีพกสิกรรม ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา


พ.ต.อ.ยรรยงเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสภ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี จับกุมตัวนายเอ็ม (นามสมมติ) อายุ 16 ปี

ขณะกำลังถอดนอตลักเครื่องยนต์สูบน้ำคูโบต้า ที่เกษตรกรนำไปเก็บไว้ตามเถียงนา ส่วนพวกที่ร่วมกันก่อเหตุอีก 2 คนขับรถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ หลบหนีไปได้ จึงประสานข้อมูลมายังกก.1 บก.สส.ภ.4 ให้ช่วยสืบสวนขยายผลตามจับกุม ต่อมาตำรวจกก.1 บก.สส.ภ.4 สืบทราบว่าคนร้ายที่หลบหนีไปได้ คือ นายสุรพงษ์ และนายอเนก ศาลจังหวัดอุดรธานีจึงออกหมายจับ และวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบว่านายสุรพงษ์ หลบไปอาศัยอยู่ที่หอพักแสนสุข ต.หมูม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงตามไปจับกุมตัวได้ที่หอพักดังกล่าว พบรถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ จอดอยู่หน้าหอพัก ตำรวจตรวจค้นรถพบเครื่องมือถอดลักเครื่องยนต์คูโบต้าเก็บไว้ในกระโปรงหลัง

นายสุรพงษ์ ให้การรับสารภาพว่า ร่วมกับนายอเนกและนายเอ็ม ก่อคดีลักษณะเดียวกันนี้ตั้งแต่เดือนพ.ค.

โดยตระเวนลักเครื่องยนต์คูโบต้าทั่วภาคอีสาน เช่น อุดรธานี หนองคาย หนองบัว ลำภู เลย ได้เครื่องยนต์คูโบต้าไปแล้วไม่ต่ำกว่า 40 เครื่อง หลังจากลักเครื่องยนต์มาแล้ว จะนำไปติดต่อขายให้ชาวบ้านทั่วไปในราคาเครื่องละ 7,000-10,000 บาท โดยทำสัญญาซื้อขายปลอมขึ้นมาหลอกผู้รับซื้อว่าเป็นเครื่องยนต์ที่ซื้อมาอย่างถูกกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามนายสุรพงษ์ ถึงเพื่อนร่วมแก๊ง จนทราบว่านายอเนก หลบหนีไปอยู่ที่บ้านหนองบัว ต.บ้านฝาง อ.สระใคร จ.หนองคาย จึงติดตามจับกุมตัวไว้ได้

พ.ต.อ.ยรรยง เวชโอสถ ผกก.สส.1 บก.สส. ภาค 4 กล่าวว่า วิธีการของนายสุรพงษ์ หัวหน้าแก๊ง จะร่วมกับพวกไปเช่ารถยนต์กระบะตามร้านรับเช่ารถใน จ.อุดรธานี ราคาวันละ 1,000 บาท

เพื่อใช้เป็นพาหนะตระเวนลักเครื่องยนต์คูโบต้า ต่อมาได้พัฒนาเปลี่ยนมาใช้รถยนต์เก๋งแทน เพราะสามารถตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดีกว่าหากเจอด่านตรวจหรือจุดสกัดรถ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจให้นายสุรพงษ์ และนายอเนก พาไปตรวจยึดเครื่องยนต์ที่ลักมาแล้วนำไปจำหน่ายให้ชาวบ้าน สามารถตรวจยึดกลับคืนมาได้จำนวน 26 เครื่อง ยึดเป็นของกลาง 14 เครื่อง และรอตรวจสอบอีก 12 เครื่อง ซึ่งทางบก.สส. ภ.4 ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในเขตพื้นที่ จ.อุดรธานี หนองคาย หนองบัวลำภู และจ.เลย แจ้งให้ผู้เสียหายที่เคยถูกลักเครื่องยนต์มาตรวจดูเพื่อดำเนินการต่อไป นอกจากนี้ยังขอให้ผู้ที่เคยถูกลักเครื่องยนต์มาตรวจสอบดูของกลางได้ที่บก.สส.ภ.4 ได้ในวันเวลาราชการ


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์