ทรชน-อ้างสาย ตร. ฉุดขืนใจ สาวร้านเคเอฟซี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 01.00 น. วานนี้ (4 มี.ค.) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี พา น.ส.แก้ว (นามสมมติ) อายุ 22 ปี พนักงานร้านเคเอฟซี เข้าพบ พ.ต.อ.วารินทร์ ทองตรา ผกก.สภ.ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ และ ร.ต.อ.แสงชัย ปัญญาลิขิตกุล พนักงานสอบสวน แจ้งความร้องทุกข์ว่า น.ส.แก้วถูกชายอ้างตัวเป็นสายตำรวจ ฉุดจากซอยอุดมสุข ขึ้นรถจักรยานยนต์ พาไปข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ที่โรงแรมพาเลซอินน์ ซอยไปรษณีย์ ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

น.ส.แก้วให้การว่า เมื่อบ่ายวันที่ 3 มี.ค. หลังเลิกงานกลับไปที่ห้องพักภายในซอยอุดมสุข 41 กทม. แล้วออกมานั่งกินข้าวที่ร้านอาหารตามสั่งริมฟุตปาทในซอยดังกล่าว ระหว่างนั้นมีชายฉกรรจ์หน้าตาดี อายุราว 25-30 ปี สวมเสื้อยืดสีเหลือง นุ่งกางเกงยีน ขี่รถ จยย.ฮอนด้า เวฟ สีแดง ไม่ทราบทะเบียน จอดริมถนนแล้วเดินตรงมาหาตนบอกว่าชื่อนายที ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง พร้อมอ้างว่าเป็นสายแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติดให้กับตำรวจ สภ.ต.สำโรงเหนือ กับ สน.บางนา และบอกว่าตนหน้าตาเหมือนกับบุคคลที่ทางเจ้าหน้าที่ให้สืบหาตัวอยู่ เพราะพัวพันกับยาเสพติด ตนจึงตอบปฏิเสธ ไปว่าไม่ใช่ เป็นเพียงพนักงานร้านฟาสต์ฟู้ดธรรมดา

ปรากฏว่า นายทีไม่เชื่อ เรียกให้ตนขึ้นรถไปด้วยอ้างว่าจะพาไปเปรียบเทียบใบหน้ากับแฟ้มประวัติอาชญากรที่โรงพัก ด้วยความกลัวและต้องการยืนยันว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ จึงได้จ่ายค่าอาหารก่อนนั่งซ้อนรถจักรยานยนต์ไปด้วยกัน โดยนายทีขี่รถออกจากซอยอุดมสุข ไปยังถนนศรีนครินทร์ จากเขต กทม. เข้าสู่เขต จ.สมุทรปราการ ก่อนพาเลี้ยวเข้าซอยไปรษณีย์ ต.บางแก้ว อ.บางพลี แวะโรงแรมพาเลซอินน์ อ้างว่า จะมาขอดูกล้องวงจรปิดกับทางโรงแรมในคดีอีกคดีหนึ่ง

สาวเคราะห์ร้ายให้การอีกว่า ขณะอยู่ในโรงแรมนายทีได้พูดคุยกับพนักงานของโรงแรม กระทั่งพนักงานเปิดห้องพักให้ แต่จำไม่ได้ว่าห้องหมายเลขใด จากนั้นนายทีบอกให้ตนเข้าไปนั่งรอในห้องบอกว่ายังไม่เสร็จธุระ จึงเดินเข้าไปในห้อง ทันใดนั้นถูกนายทีปลุกปล้ำข่มขืนพร้อมเปิดภาพถ่ายคลิปวีดิโอจากโทรศัพท์มือถือ

เป็นภาพชายจำนวนหลายคนกำลังรุมโทรมหญิงสาววัยรุ่นหน้าตาดีคนหนึ่งให้ดูและขู่ว่าอยากจะโดนรุมโทรมแบบนี้หรือไม่ หากไม่อยากก็อย่าขัดขืน จากนั้นนายทีข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง แล้วพานั่งซ้อนท้ายรถ จยย.ออกจากโรงแรม ตนกลัวจะถูกข่มขืนซ้ำ จึงร้องขอให้ปล่อยตัวโดยรับปากว่าจะไม่เอาเรื่องไปบอกใคร จนนายทีใจอ่อนพาไปส่งในซอยอุดมสุข เลยตัดสินใจเข้าร้องเรียนกับทางมูลนิธิปวีณาฯเพื่อขอความช่วยเหลือดังกล่าว

ด้านนางปวีณากล่าวว่า ผู้เสียหายกำลังมีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ อาจจะพูดจาวกวนไปบ้าง และไม่สามารถตอบคำถามบางอย่างได้ เนื่องจากกลัวผู้ก่อเหตุจะย้อนกลับมาทำร้ายอีก เพราะอ้างตัวเป็นสายให้กับตำรวจ จนไม่กล้าเข้าแจ้งความ ก่อนตัดสินใจเข้าขอความช่วยเหลือที่มูลนิธิฯ หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.วารินทร์ ทองตรา ผกก.สภ.ต. สำโรงเหนือ ตรวจสอบแล้วพบว่า เหตุเกิดในท้องที่ สภ.อ. บางพลี จึงประสานไปยัง สภ.อ.บางพลี รับคดีไปดำเนินการ และร่วมกันติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป