ตื้บป.1เลือดกบปากโผล่อ้างแค่ให้เท้ากันห้ามเด็กตีกัน

พ่อเตะเด็กชายวัย7 ขวบเพื่อนลูกเข้ามอบตัวตำรวจแล้ว พร้อมปฏิเสธทำร้ายร่างกาย

อ้างแค่ใช้เท้ากันไม่ให้เด็กทะเลาะกัน หมอเผยอาการเด็ก หัวแตก จมูกอักเสบ เยื่อบุโพรงจมูกฉีกขาด สมองฟกช้ำเล็กน้อย เบ้าตาขวาอักเสบฟกช้ำ ขณะที่ตำรวจแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย ความคืบหน้ากรณีด.ช.ธนายุทธรู้รอบ หรือน้องบาส อายุ 7 ขวบอยู่บ้านเลขที่ 273/1 บ้านโพธิ์อ้นถนนสายบางลี่-หนองวัลย์เปรียงเขตเทศบาลตำบลสองพี่น้อง อ.สองพี่น้องจ.สุพรรณบุรีถูก นายสมชาย ชาวทหาร อายุ 30 ปีอยู่บ้านเลขที่ 13/2 หมู่บ้านเดียวกันทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ โดยมีสาเหตุมาจาก ด.ญ.พรพิมลชาวทหาร อายุ 10 ขวบลูกสาว ทะเลาะกับ ด.ช.ธนายุทธเหตุเกิดเมื่อบ่ายวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 14 พฤศจิกายน

ได้ไปเยี่ยม ด.ช.ธนายุทธซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 เขตเทศบาลตำบลสองพี่น้องพบนายสมชาย รู้รอบ อายุ 33 ปีผู้เป็นพ่อเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด นายสมชายกล่าวว่า เท่าที่ทราบ น้องบาสกับเพื่อนๆ ในกลุ่ม ซึ่งเป็นคนในละแวกหมู่บ้านเดียวกัน ได้เล่นทายเกมตอบปัญหา ถ้าคุณแน่อย่าแพ้ ป.4 กันอยู่แต่เมื่อมีปัญหาทายไม่ถูกจึงเลิกเล่น และเปลี่ยนมาเล่นเตะฟุตบอล โดยมี ด.ญ.พรพิมลเป็นผู้รักษาประตู น้องบาสเป็นคนเตะ ปรากฏว่าลูกบอลไม่ตรงประตู แต่กระเด็นเลยออกไป ด.ญ.พรพิมลจึงไห้ไปเก็บลูกบอล แต่น้องบาสไม่ยอมไปเก็บ จึงเกิดการถกเถียงต่อว่ากันขึ้น ถึงขั้นใช้กำลังต่อสู้กัน

จากนั้นด.ญ.พรพิมลได้วิ่งไปบอกนายสมชาย ผู้เป็นพ่อ ซึ่งอยู่ไม่ห่างกันนัก
 

นายสมชายได้วิ่งมาหาน้องบาสใช้เท้าเตะเข้าที่ท้องจนตัวงอ แล้วเตะซ้ำอีกที่ใบหน้าด้านขวาจนล้มฟุบลง ก่อนจะเดินหนีไป ต่อมายายของน้องบาสทราบเหตุ จึงวิ่งมาดูหลาน และนำตัวส่งโรงพยาบาลในช่วงดึกวันเดียวกัน โดยน้องบาสอาเจียนออกมาเป็นเลือดอีกครั้ง แพทย์ทำการรักษาโดยการให้น้ำเกลือผสมกับยา ขณะนี้อาการดีขึ้นตามลำดับ แต่ช่วงที่นอนหลับจะมีอาการหวาดผวา ขาสั่น อยู่บ่อยครั้ง

นายสมชายกล่าวอีกว่า น้องบาส เป็นลูกชายคนที่ 2 

คนโตชื่อด.ช.ธันวารู้รอบ อายุ 14 ปีส่วนตนประกอบอาชีพค้าขายเสื้อผ้าสำเร็จรูป ตระเวนขายไปตามที่ต่างๆ ขณะที่นางชมพู รู้รอบ ภรรยา มารดาของน้องบาส ทำงานอยู่ที่โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยาเมื่อมีเวลาก็จะผลัดกันมาเยี่ยมดูแลลูก ซึ่งฝากให้ นางนิ่ม โพธิ์งาม ยายของน้องบาส เป็นผู้ดูแล เพราะเลี้ยงดูกันมาตั้งแต่เล็กๆ   
 


ด้านนพ.จักรวุฒิวริวงษ์ แพทย์เจ้าของไข้ ผู้ทำการรักษา ด.ช.ธนายุทธกล่าวว่า 

หลังจากรับตัวเข้ามาแล้ว ได้ตรวจดูอาการทั่วไป พบว่ามีบาดแผลศีรษะด้านหลังแตก แต่ไม่ฉกรรจ์ จึงนำเข้าเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เพื่อทำการตรวจสมองและร่างกายทุกส่วน ผลการเอกซเรย์พบว่า บริเวณจมูกอักเสบ เยื่อบุโพรงจมูกฉีกขาด สมองด้านขวาฟกช้ำเล็กน้อย ที่บริเวณเบ้าตาขวาอักเสบฟกช้ำ ภายในท้องยังไม่พบสิ่งผิดปกติ หากไม่มีโรคอื่นแทรกซ้อนน่าจะใช้เวลารักษาประมาณ 3 วันคงออกจากโรงพยาบาลได้ อย่างไรก็ตาม แพทย์ต้องตรวจพิจารณาอาการอีกครั้ง 


ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น.วันเดียวกันนายสมชาย บิดาของ ด.ญ.พรพิมลพร้อมกับญาติ ได้มาที่ สภ.สองพี่น้อง

เพื่อเข้าพบ พ.ต.ต.ทรงพลศรีชมภู พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี เพื่อให้ปากคำถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายสมชาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะเล่นฟุตบอลอยู่กับเพื่อนบ้านใกล้กับที่เกิดเหตุ สังเกตเห็นลูกสาวกับ ด.ช.ธนายุทธทะเลาะกัน จึงคิดว่าเป็นเรื่องของเด็กๆ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร สักครู่เมื่อมองไปก็ยังพบว่าทั้งคู่ทะเลาะกันอยู่ โดยลูกสาวถูก ด.ช.ธนายุทธทำร้าย นอนอยู่ด้านล่าง จึงรีบเดินไปดูและเข้าห้ามปราม พร้อมจับทั้งคู่แยกออกจากกัน โดยใช้เท้าซ้ายกันเด็กออกมา ทำให้ ด.ช.ธนายุทธล้มหงายท้องลงกับพื้น จากนั้นจึงพาลูกสาวกลับบ้าน กระทั่งเช้าจึงทราบข่าวที่เกิดขึ้น แล้วเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ 


ขณะที่นางสาวิตรี ศรีตองอ่อน อายุ 25 ปีภรรยาของนายสมชาย ชาวทหาร ได้พา ด.ญ.พรพิมลลูกสาว ไปพบแพทย์ ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 

เนื่องจากมีอาการเจ็บในท้องจากเหตุที่ทะเลาะกับด.ช.ธนายุทธซึ่งแพทย์ให้ยามากิน จากนั้นจึงพากันมาที่ สภ.สองพี่น้องโดย ด.ญ.พรพิมลเล่าเหตุการณ์ว่า "น้องบาสเตะลูกฟุตบอลกระเด็นไปไกล เหมือนกับแกล้ง แล้วก็ไม่ยอมไปเก็บ จึงเกิดถกเถียงต่อว่ากันขึ้นจนถึงขั้นใช้กำลัง โดยน้องบาสเตะท้องหนูจนตัวงอ แล้วกอดปล้ำกันล้มลง จนตัวหนูอยู่ด้านล่าง พอดีพ่อเข้ามาช่วยแยกออกจากกัน โดยพ่อใช้เท้ากันบาสออกไป แต่พ่อไม่ได้ใช้เท้าเตะแต่อย่างใด"
 

พร้อมกันนี้ด.ญ.พรพิมล ยังโชว์บาดแผลให้ผู้สื่อข่าวดู โดยบอกว่า ที่ต้นแขนซ้ายและใต้ลำคอมีรอยแผลที่ถูก ด.ช.ธนายุทธ หยิกอีกด้วย

ด้านพ.ต.ต.ทรงพลกล่าวว่า หลังจาก นายสมชาย บิดา ด.ญ.พรพิมล เข้าให้ปากคำไว้เป็นหลักฐาน และสรุปสำนวนแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย เบื้องต้น นายสมชาย ให้การภาคเสธ ซึ่งหลังจากสอบปากคำแล้วได้ปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากนายสมชาย มาพบเจ้าหน้าที่ด้วยความสมัครใจ มีถิ่นฐานที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่น่าจะหลบหนีไปไหน ส่วนโทษทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ รักษาไม่เกิน 20 วันโทษจำไม่เกิน 2 ปีหากรักษานานกว่า 20 วันถือว่าอาการสาหัส ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์