ตามล่าสาวทอม คลี่คดีอุ้มแม่อัยการ

กรณีคนร้ายขับรถตู้บุกจับตัวนางรัชนี ธีระชิต อายุ 75 ปี และนายธีระศักดิ์ ธีระชิต อายุ 55 ปี แม่ และพี่ชายของนายอานันท์ ธีระชิต อัยการผู้เชี่ยวชาญประจำสำนักอัยการเขต 5 จ.เชียงใหม่ ไปจากบ้านเลขที่ 34/1 หมู่ 1 ซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 41 (ศรีตะบันต์) ถนนแจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อเย็นวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยพบรอยเลือดเปรอะตามพื้นโรงจอดรถ และพบไม้ด้ามจอบเปื้อนเลือดตกอยู่ 1 อัน เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นอาวุธที่คนร้ายใช้ทำร้ายเหยื่อก่อนอุ้มขึ้นรถหายไป ล่าสุดยังไม่ทราบชะตากรรมนั้น


ต่อมาเวลา 09.00 น. วันที่ 23 ส.ค.

พ.ต.อ.วสันต์ บุญเจริญ ผกก.สภ.อ.ปากเกร็ด เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีทั้งหมด ประกอบด้วย พ.ต.ท.ศานิตย์ โพธิพรหม รอง ผกก.สส.สภ.อ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.ไพโรจน์ รัตนมณี พนักงานสอบสวน (สบ 3) และ พ.ต.ต.ธรรศกร ก้อนทอง สว.สส. จากนั้นพนักงานสอบสวนได้เชิญนายอานันท์ ธีระชิต อัยการผู้เชี่ยวชาญประจำสำนักอัยการเขต 5 จ.เชียงใหม่ ลูกชายของนางรัชนี มาสอบปากคำ


หลังสอบปากคำ พ.ต.อ.วสันต์เปิดเผยความคืบหน้าว่า

ได้สอบปากคำนายอานันท์ถึงข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคนในครอบครัว โดยให้การว่าไม่ค่อยรู้เรื่องราวภายในครอบครัวมากนัก เพราะส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ เนื่องจากทำงานอยู่ที่นั่นหลายปี และจะเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านประมาณปีละครั้ง หลังทราบข่าวร้ายก็รู้สึกตกใจ และไม่ทราบสาเหตุที่แม่และพี่ชายถูกคนร้ายจับตัวไป


สำหรับแนวทางการสืบสวนสอบสวน ผกก.สภ.อ. ปากเกร็ดกล่าวว่า

ขณะนี้ได้ตั้งทีมงานเข้าไปสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีนี้โดยเฉพาะ โดยมอบหมาย พ.ต.ท.ศานิตย์ โพธิพรหม รอง ผกก.สส. เข้าควบคุมคดีอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้ประสานขอความร่วมมือจากชุดสืบสวน บก.ภ.จ.นนทบุรี และชุดสืบสวนภาค 1 ร่วมคลี่-คลายคดีด้วย โดยแบ่งหน้าที่หาเบาะแสต่างๆทุกด้านก่อนนำข้อมูลแต่ละฝ่ายมาประมวลเข้าด้วยกัน เชื่อว่าน่าจะมีผลความคืบหน้าในเร็วๆนี้
 

เท่าที่สอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง สันนิษฐานว่าสาเหตุ

ไม่น่าจะเกิดจากปัญหาในครอบครัว แต่น่าจะมาจากปัญหาความขัดแย้งเรื่องส่วนตัวของนายธีระศักดิ์มากกว่า เพราะปกติจะเป็นคนอารมณ์ร้อนและพูดจาโผงผาง ในวันเกิดเหตุที่คนร้ายบุกเข้าไปในบ้าน ก็ตรงเข้าไปทำร้ายนายธีระศักดิ์ก่อน แต่คาดว่านางรัชนี ผู้เป็นแม่ เข้ามาเห็น เหตุการณ์เลยถูกคนร้ายจับตัวไปด้วย พ.ต.อ.วสันต์กล่าว

ต่อมาเวลา 18.00 น.

วันเดียวกัน พ.ต.อ.สถิตย์ ต้นสงวน รอง ผบก.ภ.จ.นนทบุรี ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ต.คำรบ ปัญญาแก้ว ผบก.ภ.จ.นนทบุรี ให้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าของคดีที่ สภ.อ.ปากเกร็ด โดยมี พ.ต.อ.วสันต์ บุญเจริญ ผกก.สภ.อ.ปากเกร็ด เข้ารายงานชี้แจงระบุว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนได้สอบปากคำพยานพร้อมทั้งสเกตช์ภาพคนร้ายเป็นหญิง 2 คน คนแรกลักษณะเป็นสาวทอม ไว้ผมยาวประบ่า อีกคนเป็นผู้หญิงไว้ผมสั้น ทั้ง 2 อายุประมาณ 25 ปี


ทั้งนี้ จากคำให้การของพยานพบว่า

ในวันเกิดเหตุวันที่ 21 ส.ค. คนร้ายทั้ง 2 คนได้ขี่รถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า สีดำ ทะเบียน 639 แต่จำอักษรนำหน้าและจังหวัดไม่ได้ ไปวนเวียนแถวบ้านของนางรัชนีที่อยู่ติดกับสุดาทิพย์อพาร์ตเมนต์ ซึ่งเดิมเป็นของนางรัชนี แต่ ได้ขายไปแล้วตั้งแต่ปี 2536 โดยทั้งคู่ทำทีมาขอเช่าห้อง แต่ไม่ได้เช่าก่อนขี่รถออกไป กระทั่งบ่ายวันเดียวกัน มี คนร้ายบุกเข้าไปอุ้มสองแม่ลูก นอกจากนี้ จากการสอบปากคำลูกสาวของนางรัชนีคนหนึ่งที่บวชชีอยู่ที่ จ.ชลบุรี ระบุว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุไม่กี่นาทีได้โทรศัพท์พูดคุยกับแม่ ระหว่างนั้นมีเสียงหญิงสาวพูดแทรกเข้ามา แต่จำใจความไม่ได้ และได้ยินนางรัชนีถามว่ามาหาใหญ่เหรอซึ่งเป็นชื่อเล่นของนายธีระศักดิ์ ลูกชาย จากนั้นมีเสียงแม่ร้องเหมือนเกิดเหตุการณ์อะไรสักอย่าง แล้วโทรศัพท์ก็ถูกตัดไป โดยคาดว่าคนร้ายทั้งหมดมีไม่ต่ำกว่า 3-4 คน


ทางด้าน พล.ต.ต.คำรบ ปัญญาแก้ว ผบก.ภ.จ. นนทบุรี กล่าวถึงคดีดังกล่าวว่า

ช่วงบ่ายวันเดียวกันได้รับประสานจากตำรวจจังหวัดชัยภูมิ ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาพบศพชายหญิง 2 คน ไม่ทราบชื่อ ถูกเผาที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ โดยมีการว่าจ้างสัปเหร่อเป็นคนเผา ขณะนี้ตำรวจได้คุมตัวสัปเหร่อไว้แล้ว เนื่องจากตรวจสอบ พบว่าศพที่เผาไม่มีใบมรณบัตร และเท่าที่สอบปากคำสัปเหร่อระบุว่าศพที่เผามีกลุ่มคนนำใส่รถตู้เข้ามา จึงคาดว่าศพชายหญิงที่ถูกเผาทำลายน่าจะเป็นสองแม่ลูกที่ถูกคนร้ายจับตัวไป อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ประสานขอให้นำเถ้าถ่านหรือหลักฐานที่พอเก็บได้ส่งไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวชวิทยาเพื่อยืนยันอีกครั้ง


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์