ตามล่ามือฆ่าแขกซิกข์ ยิงตายคาเก๋งวอลโว่ คุ้ยปมขายทอดโรงงาน


ถึงแม้ว่าคดีสังหาร นายสวัสดิ์ เศรษฐี อายุ 70 ปี แขกซิกข์ เจ้าของธุรกิจชื่อดัง ยังทำให้ตำรวจมืดแปดด้านตามจับกุมคนร้ายไม่ได้ แต่จนถึงตอนนี้เจ้าหน้าที่ก็สามารถออกภาพสเกตช์คนร้ายพร้อมออกหมายจับกุมบุคคลตามภาพสเกตช์เอาไว้เป็นที่เรียบร้อย

มีพยานหลักฐานเพิ่มเติมเมื่อไหร่คงได้เห็นโฉมหน้าคนร้ายรายนี้!!

นายสวัสดิ์ถูกมือปืนพระกาฬลอบสังหารตายสยองคารถเก๋งวอลโว่ ย่านถนนสุขุมวิท ส่วนสาเหตุการตายเจ้าหน้าที่เชื่อว่ามาจากเรื่องความขัดแย้งทางธุรกิจ หลังจากที่เจ้าตัวโดนฟ้องล้มละลายจนต้องขายโรงงานแล้วเกิดไปมีปัญหากับบุคคลบางกลุ่มที่เข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว

จึงกลายเป็นที่มาของคำสั่งฆ่าในที่สุด

ย้อนไปดูเหตุสลดครั้งนี้เกิดขึ้นตอนเช้าตรู่วันที่ 17 ต.ค. พ.ต.ท.ประวิทย์ กังวล พงส.สบ.3 สน.ทองหล่อ รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงตายบริเวณปากซอยสุขุมวิท 61 ถนนสุขุมวิทฝั่งขาออก หน้าห้างสรรพสินค้าเมเจอร์เอกมัย ถ.สุขุมวิทฝั่งขาออก แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบและรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

พร้อมพ.ต.อ.อาจินต์ จารุวร รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.ท.ชนิน วชิรปาณีกูล รอง ผกก.สส.สน.ทองหล่อ พ.ต.ท.เศกสิทธิ์ สุภาอ้วน สว.สส.สน.ทองหล่อ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.น.5 และพ.ต.ท.สมภพ เองสมบุญ รองผกก.พฐ. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวช ร.พ.จุฬาฯ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่นั่นพบรถเก๋งวอลโว่ สีเขียวเข้ม รุ่น 960 ทะเบียน 8ธ-5753 กทม. สภาพด้านหน้ารถยุบถึงห้องเครื่อง ในรถพบร่างนายสวัสดิ์ มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 52 ซ.สุขุมวิท 59 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. ถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณท้ายทอย เลือดกระเด็นเต็มพื้น ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ 1 ปลอก จึงเก็บไว้ตรวจสอบ ทรัพย์สินในตัวผู้ตายยังอยู่ครบ


นายไพรัตน์ ดวงงามเกียรติ พยานผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุรถผู้ตายขับออกมาจากซอยสุขุมวิท 59 ประมาณ 200 เมตร โดยขับอยู่เลนที่ 2 บนถนนสุขุมวิทขาออก จากนั้นมีคนร้ายเป็นชาย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่นคลิก สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน คนขับสวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ

ส่วนคนซ้อนท้ายซึ่งเป็นคนชักอาวุธปืนออกมายิงสวมหมวกแก๊ปสีน้ำตาล สวมเสื้อยืดสีน้ำตาล โดยยิงใส่เหยื่อ 1 นัด จากนั้นคนร้ายก็เลี้ยวรถจักรยานยนต์หลบหนีโดยใช้เส้นทางถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้า ส่วนผู้ตายได้เร่งเครื่องรถเพื่อขับหลบหนี จนเกิดอุบัติเหตุชนเสาไฟฟ้าและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

"ผมได้ยินเสียงปืนก็หันไปดู นึกว่ายางรถระเบิด แต่พอหันไปดูเห็นคนร้ายกำลังเก็บปืนไว้ที่เอว จึงไม่ทันได้เห็นทะเบียนรถคนร้าย" พยานกล่าว

ตํารวจตรวจสอบประวัตินายสวัสดิ์ ทราบว่าเป็นเจ้าของบริษัท เอสวี เทค จำกัด มีร้านขายผ้าอยู่ย่านสำเพ็ง และเป็นเจ้าของโรงงานทอผ้าตั้งอยู่ที่ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งขณะนี้ศาลสั่งยึดโรงงานดังกล่าวไว้ และสั่งให้กรมบังคับคดีประมูลขายทอดตลาด ซึ่งในวันเกิดเหตุผู้ตายได้นัดกับเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดี จ.ปราจีนบุรี เอาไว้ ผู้ตายจึงขับรถออกจากบ้านเพื่อเดินทางไปตามนัดหมาย


แต่ไปไม่ถึงเพราะมาถูกฆ่าตายเสียก่อน!!

หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.อาจินต์ สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนบก.น.5 และสน.ทองหล่อเจ้าของท้องที่ร่วมคลี่คลายคดี พร้อมประสานไปยังศูนย์สืบสวนบช.น.และตำรวจ จ.ปราจีนบุรี ให้ช่วยล่าตัวคนร้ายอีกทาง โดยชุดทำงานได้ตั้งประเด็นการสังหารไว้ 3 ประเด็นด้วยกัน คือ เรื่องขัดผลประโยชน์ เรื่องโรงงานที่ขายทอดตลาด และเรื่องธุรกิจ

ซึ่งในชั้นนี้ยังไม่ตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งทิ้ง โดยเฉพาะประเด็นหลักเรื่องการขายโรงงานที่ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งกำลังมีปัญหาขั้นตอนการประมูลและการนำเงินมาจ่ายให้กับกรมบังคับคดี ระหว่างที่ยังไม่เรียบร้อย กลับมีผู้เข้าไปบุกรุกรื้อหลังคาโรงงานแต่ผู้ตายไปพบเข้า จึงอาจทำให้คนบางกลุ่มเสียประโยชน์จากเรื่องนี้

ซึ่งในกรณีนี้เจ้าหน้าที่ไปพบเอกสารที่ผู้ตายไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ระเบาะไผ่ จ.ปราจีนบุรี ท้องที่ตั้งโรงงาน ระบุว่า "ผู้แจ้งเป็นหนี้ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จนถูกฟ้องจากศาลแพ่งกรุงเทพใต้ และศาลมีคำพิพากษาแล้ว คดีแดงที่ 11043/2549 และศาลมีคำสั่งบังคับคดีโดยให้สำนักงานบังคับคดีจังหวัดปราจีนบุรีขายทอดตลาดทั้งที่ดินและทรัพย์สินที่ยึดมาทั้งหมด ต่อมาได้ขายทอดตลาดได้ในนัดที่ 3 ในวันที่ 28 ส.ค. 51

โดยมีผู้ซื้อในราคา 52,200,000 บาท (ห้าสิบสองล้านสองแสนบาท) ซึ่งผู้ซื้อวางเงินมัดจำเป็นเงิน 50,000 บาท และต้องนำเงินส่วนที่เหลือ มาจ่ายภายใน 20 วัน ปรากฏว่า ผู้ซื้อยังไม่นำเงินมาจ่ายให้กับกรมบังคับคดี แต่ผู้แจ้งทราบว่าผู้ซื้อได้ขอขยายเวลาไปเป็นเดือนพฤศจิกายน 51 ผู้แจ้งเป็นเจ้าของทรัพย์เดิม เกรงว่าการบังคับคดีในวันนี้ (15 ต.ค. 51) เวลา 14.00 น. ผู้แจ้งจึงเข้าไปตรวจสอบอาคารสถานที่ ว่ายังอยู่ปกติหรือไม่
 
แต่ปรากฏว่ามีการรื้อถอนหลังคาอาคารของโรงงานทอผ้าบางส่วน แต่ผู้แจ้งไม่ได้เห็นกับตนเอง เนื่องจากเข้าไปไม่ได้ จึงเกรงว่าอาจเกิดความเสียหายกับการบังคับคดี จึงเข้าพบและแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เพื่อจะแจ้งกับทางธนาคารกรุงไทย เพื่อประสานกับกรมบังคับคดี ให้เข้ามาดูแลเพื่อไม่ให้การบังคับคดีเกิดความเสียหายต่อไป"

ทั้งหมดเป็นปมประเด็นที่ตำรวจสนใจตรวจสอบมากที่สุด!??

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นางสุวรรณ เศรษฐี อายุ 63 ปี ภรรยาผู้ตาย เข้าให้การกับพนักงานสอบสวน ว่า ปักใจอยู่ประเด็นเดียวคือเรื่องการขายโรงงานใน จ.ปราจีนบุรี ที่มีผู้เข้าไปบุกรุกรื้อหลังคาโรงงาน ก็เกรงว่าทรัพย์สินจะหายไป จึงเกิดมีปัญหากันขึ้น ซึ่งสามีอายุมากแล้วไม่เคยมีเรื่องบาดหมางใจกับใคร จึงไม่น่าจะมีสาเหตุอื่นนอกจากเรื่องดังกล่าว

ในส่วนของรูปคดีพนักงานสอบสวน สน.ทอง หล่อ ได้ทำการสเกตช์ภาพคนร้ายพร้อมขออนุมัติออกหมายจับบุคคลตามภาพสเกตช์ไว้แล้วในเบื้องต้น

จะถึงตัวมือปืนและผู้บงการหรือไม่ไม่นานคงรู้ผล!??

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์