ตร.เร่งล่าตัวคนทำเว็บปลอม กุข่าวเด็กถูกรถชน ยายขอค่าทำศพ

ตร.เร่งล่าตัวคนทำเว็บปลอม กุข่าวเด็กถูกรถชน ยายขอค่าทำศพ

จากกรณีที่มีการแชร์ภาพและข้อมูลผ่านสังคมออนไลน์อ้างว่า มีเด็กสองขวบถูกรถหรูชนเสียชีวิต และยายตาบอดที่มีฐานะยากจนได้ร้องขอค่าทำศพ พร้อมอ้างว่ามีพลเมืองดีเห็นเหตุการณ์แจ้งทะเบียนรถและคนขับอย่างชัดเจนไว้ที่ สน.ท้องที่ โดยคนขับเป็นข้าราชการในพื้นที่ แต่เมื่อสอบถามไปยัง สน.พื้นที่รับเรื่องได้คำตอบว่าหลักฐานไม่เพียงพอ ไม่สามารถเขียนสำนวนส่งเรื่องได้นั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ก.ย.นายสุรพันธ์ ศิลปะสุวรรณ นายอำเภอหนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ และ พ.ต.อ.พุฒินันท์ อำพัน ผกก.สภ.หนองกุงศรี ได้เชิญ นายสมบูรณ์ ราชโคตร ปลัดอำเภอฝ่ายทะเบียนมาตรวจสอบชื่อ นางเพียร พูสะอาด อายุ 69 ปี ซึ่งถูกอ้างว่าเป็นยายของเด็กในข้อมูลที่มีการแชร์กัน ในระบบทะเบียนราษฎร์ปรากฏว่าไม่พบชื่อดังกล่าวแต่อย่างใด รวมทั้งได้เชิญตัว นายวิไล ผจงถิ่น กำนันตำบลเสาเล้า และ นายพลรัตน์ ศรีสุพัฒน์ ประธานชมรมผู้พิการตำบลเสาเล้า นายสนอง หมื่นภู ผอ.กองสวัสดิการและสังคม อบต.เสาเล้า ซึ่งดูแลเบี้ยยังชีพของผู้พิการมาสอบถาม ซึ่งทั้งหมดยืนยันว่า พื้นที่ตำบลเสาเล้า ไม่มีผู้พิการทางสายตาชื่อ นางเพียร พูสะอาด

นายสุรพันธ์ กล่าวว่า ตลอดคืนที่ผ่านมา มีผู้ใหญ่โทรศัพท์มาสอบถามถึงเรื่องที่มีการแชร์กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งกรณีนี้ถือว่าได้สร้างความสั่นสะเทือนในสังคมคนหนองกุงศรี แต่หลังจากตรวจสอบตั้งแต่เมื่อวานก็ไม่พบเพราะได้สอบถามไปตำรวจ ผู้บริหารท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นทะเบียนราษฎร์ ก็ไม่ปรากฏว่าไม่มีผู้ที่มีชื่อตามที่ปรากฏในข้อความที่มีการแชร์กัน กรณีนี้ได้สร้างความเสียหายทำให้ประชาชนตื่นตกใจ เป็นการให้ร้ายในการทำงาน ซึ่งได้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จึงขอให้ผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จดังกล่าวได้พิจารณาก่อนว่าสิ่งที่ทำได้ทำให้จังหวัดกาฬสินธุ์เสียหาย เหตุการณ์นี้ไม่รู้ว่าจะทำไปเพื่ออะไร ซึ่งทางอำเภอก็จะร่วมติดตามหาตัวผู้ที่เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้

ด้าน พ.ต.อ.พุฒินันท์ อำพัน ผกก.สภ.หนองกุงศรี กล่าวว่า เรื่องนี้ถูกผู้ใหญ่ตำหนิและให้ชี้แจงเป็นการด่วน เพราะหากมีเรื่องนี้จริงถือว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิเสธนั้นจะต้องถูกลงโทษ แต่ภายหลังตรวจสอบตลอดทั้งคืน ซึ่งได้ติดต่อสอบถามไปยังผู้นำหมู่บ้าน ตำบลเสาเล้าทุกกลุ่มองค์กรยืนยันว่า นางเพียร พูสะอาด อายุ 69 ปี ไม่มีตัวตน เมื่อเป็นเช่นนี้ ตนได้ส่งสายสืบติดตามผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลเป็นเท็จมาดำเนินคดีแล้ว ซึ่งโทษความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มีโทษจำคุก 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท เพราะเป็นกรณีที่สร้างความวุ่นวายในสังคมให้ประชาชนตื่นตระหนกจากการสร้างข่าวที่เป็นเท็จ

พ.ต.อ.พุฒินันท์ กล่าวอีกว่า ขอความร่วมมือประชาชนให้ตรวจสอบข้อมูล และ บุคคลที่ไม่หวังดีโดยเฉพาะนักเลงคีย์บอร์ด ในขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีแล้ว

ที่มา http://www.posttoday.com/local/northeast/456777

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์