ตร.เตรียมเอาผิดซานติก้าให้เด็กใช้บริการ รมว.มท.1จี้กทม.ตรวจสถานบริการ -รพ.รามฯแจงตายอีก1รวม60


ตร.เตรียมแจ้งข้อหา "ซานติก้า ผับ" ปล่อยให้ยช.อายุไม่ถึง 20 ปี เข้าไปเที่ยว เรียกตัว "เฮียขาว" หุ้นส่วนใหญ่และคนขออนุญาตสอบปากคำ "ชวรัตน์" กระตุ้นกทม.ตรวจสถานบริหาร ไม่ได้มาตรฐานต้องสั่งระงับกิจการ รพ.รามคำแหงแจ้งตายเพิ่มอีก 1 รวมเป็น 60

เรียกสอบ"เฮียขาว"หุ้นส่วนใหญ่
 
พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กำชับให้พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เร่งสอบสวนหาสาเหตุคดีเพลิงไหม้  ซานติก้า ผับสถานบันเทิงชื่อดัง เลขที่ 235/11 ตั้งอยู่ระหว่างเอกมัยซอย 9 กับซอย 11 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร (กทม.) ในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 59 ศพ และบาดเจ็บกว่า 200 คน พร้อมให้เรียกตัวนายวิสุข หรือเฮียขาว เสร็จสวัสดิ์ หุ้นส่วนใหญ่ มาให้ปากคำ โดยในเบื้องต้นเตรียมแจ้งข้อหาความผิด ตาม พ.ร.บ.สถานบริการ ฐานปล่อยให้เยาวชนอายุไม่ถึง 20 ปี เข้าไปใช้บริการในสถานบันเทิง

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 มกราคม ที่ สน.ทองหล่อ พล.ต.อ.จงรัก พล.ต.ท.ดนัยธร วงศ์ไทย ผู้บัญชาการสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ (ผบช.สนว.ตร.) พล.ต.ต.โชคชัย ดีประเสริฐวิทย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (ผบก.น.5) พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.อ.นิธิ บรรฑุวงศ์ ผกก.กองพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลและการส่งกลับ สนว.ตร. พร้อมพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมเพื่อคลี่คลายคดี และตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ภายหลังการประชุมที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง พล.ต.อ.จงรักให้สัมภาษณ์ว่า ในเบื้องต้นที่พบความผิดชัดเจนคือ ปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 17 ปี เข้าไปใช้บริการด้วย ซึ่งต้องดำเนินคดีกับเจ้าของร้าน หรือผู้เกี่ยวข้อง ส่วนนายวิสุข ได้ติดต่อเข้าพบเจ้าหน้าที่เพื่อให้ปากคำแล้ว รวมทั้งอยากให้ 2 ดีเจ คือ ดีเจเพชรจ้า-วิเชียร กุศลมโนทัย และดีเจภูมิ-ภูมิใจ ตั้งสง่า เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนด้วย ซึ่งขณะนี้ได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไปแล้วประมาณ 30 ปาก

ตัดประเด็นวางเพลิงเอาประกัน

ด้าน พล.ต.ต.โชคชัยกล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าซานติก้า ผับ ไม่มีประกันภัย เนื่องจากหมดประกันไป 4 เดือนก่อนเกิดเหตุ ประเด็นเรื่องการวางเพลิงจึงคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้อง ส่วนนายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ เจ้าของสถานที่ ขณะนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันแน่ชัดว่าจะเดินทางมาให้ปากคำเมื่อใด โดยทราบว่ามีอาการสำลักควัน เข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

พ.ต.อ.ขจรศักดิ์กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้ติดตามพยานในที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นพนักงานของผับดังกล่าวที่รอดชีวิตได้เกือบทั้งหมดแล้ว โดยอยู่ระหว่างขั้นตอนการสอบปากคำ และเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุซ้ำอีกครั้ง เพื่อเก็บรายละเอียดเกี่ยวกับโครงสร้างอาคาร หลักฐานต่างๆ ที่อาจจะพอหลงเหลืออยู่บ้าง ก่อนจะนำไปประกอบกับส่วนที่เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ได้ดำเนินการซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์

"พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกนายสุริยา ฤทธิ์ระบือ กรรมการบริษัท ไวท์ แอนด์ บราเธอร์ส (2003) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ขออนุญาตประกอบกิจการ มาให้ปากคำในวันที่ 5 มกราคมนี้" พ.ต.อ.ขจรศักดิ์กล่าว

มท.1จี้กทม.สุ่มตรวจสถานบันเทิง

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางพร้อมนายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นำกระเช้าผลไม้เข้าเยี่ยมอาการผู้บาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้ ซานติก้า ผับŽ ที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ว่า ต่อไปนี้สถานบันเทิงต้องออกแบบให้ได้ตามหลักสากล โดยเฉพาะประตูฉุกเฉิน และเมื่อก่อสร้างเสร็จ ต้องผ่านการตรวจสอบ ว่าเป็นไปตามหลักวิศวกรรมหรือไม่

"กรุงเทพมหานครต้องสุ่มตรวจสถานบันเทิง ว่ามีความปลอดภัยตามหลักที่กำหนดไว้หรือไม่ หากไม่เป็นไปตามมาตรฐาน อาจจะให้พักกิจการชั่วคราว ซึ่งถือเป็นวิธีการป้องปรามอีกแบบหนึ่ง ส่วนการควบคุมนักท่องเที่ยว ที่อายุไม่ถึงเกณฑ์ที่อนุญาต ปกติมีระเบียบอยู่แล้ว แต่การดูแลอาจจะอ่อนไป จึงต้องเข้มงวดมากกว่านี้"นายชวรัตน์กล่าว

นางวรรณวิไล พรมลักขโณ รองปลัด กทม. ในฐานะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุเพลิงไหม้ ซานติก้า ผับ กล่าวว่า เขตวัฒนากำลังเร่งทำรายงานสรุปข้อมูลทั้งหมด ประกอบด้วย เรื่องการอนุญาตก่อสร้างอาคาร โครงสร้างอาคารมีการต่อเติมหรือไม่ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือเหยื่อเพลิงไหม้ คาดว่ารายงานจะส่งถึงมือคณะกรรมการในวันที่ 4 มกราคมนี้ ก่อนที่จะนำเสนอนายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัด กทม. พิจารณาในวันที่ 5 มกราคม เป็นไปตามกรอบเวลาที่ปลัด กทม.สั่งการให้ดำเนินการสรุปข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน

เหยื่อ "ซานติก้า" ตายเพิ่มอีก 1 คน 
 



เวลา 13.55 น. โรงพยาบาลรามคำแหง เปิดเผยว่า น.ส.เดือนเพ็ญ พรหมทอง อายุ 24 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้"ซานติก้า ผับ" ซึ่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลรามคำแหง เนื่องจากถูกไฟไหม้เกือบทั้งตัว พร้อมกับสำลักควันอย่างหนัก ได้เสียชีวิตลงแล้วเมื่อเวลา 02.40 น. เมื่อวันที่ 2 มกราคม โดยญาติเดินทางมารับศพแล้ว และขณะนี้ได้ส่งศพไปที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ 


 

ผู้บาดเจ็บยังนอนที่รพ.86ราย

เวลา 09.30 น. นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อม นพ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ รองปลัด สธ. เข้าตรวจ ซานติก้า ผับ และให้สัมภาษณ์ว่า ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ มีหน้าต่างหลายบาน แต่ไม่สามารถเปิดออกได้ เนื่องจากมีลูกกรงเหล็กดัดและมีประตูเข้า-ออกเพียงทางเดียว หากสามารถเปิดหน้าต่างใช้การเพิ่มขึ้นอีก คาดว่าจะไม่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากขนาดนี้ และหากมีการซ้อมแผนรับมือเหตุฉุกเฉินให้กับพนักงานสถานบริการ จะสามารถให้การช่วยเหลือผู้ใช้บริการได้อย่างทันท่วงทีและเป็นระบบมากขึ้น

ด้าน นพ.จักรธรรมกล่าวว่า สธ.สรุปผลจากเหตุเพลิงไหม้ซานติก้า ผับ ว่ามีผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น 229 ราย ล่าสุดนอนรักษาในโรงพยาบาล 86 ราย เป็นชาย 35 ราย หญิง 51 ราย ในจำนวนนี้มีอาการสาหัส เนื่องจากมีบาดแผลถูกไฟไหม้ตามร่างกาย นอนห้องไอซียู ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 38 ราย เป็นชาย 21 ราย หญิง 17 ราย และในจำนวนผู้บาดเจ็บ เป็นชาวต่างชาติ 41 ราย นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 21 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตทั้งหมด 59 ราย ทราบชื่อแล้ว 23 ราย ญาติพี่น้องสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ http://narendhorn.moph.go.th

ผ่าช่องท้องชาวญี่ปุ่นเอาน้ำออก

รศ.นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ แถลงว่า มีผู้ป่วยจากเหตุเพลิงไหม้ซานติก้า ผับ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 11 ราย ส่วนใหญ่อาการเกิดจากแผลที่ถูกไฟไหม้ ในจำนวนนี้ สาหัสต้องอยู่ห้องไอซียู. 2 ราย คือ นายสุทธิรักษ์ สำเร็จประสงค์ อายุ 29 ปี มีแผลไฟไหม้ร้อยละ 20 ภายในฟกช้ำ อาการดีขึ้น อีกรายคือนายเคอิชิ วาดะ ชาวญี่ปุ่น มีแผลไฟไหม้ร้อยละ 60 อาการหนัก ยังไม่พ้นขีดอันตราย แพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา แพทย์ผ่าตัดช่องท้องเพื่อเอาน้ำออก และให้ความดันลดลง คาดว่าอีก 3 วันเย็บติดได้ นอกจากนี้ยังได้เปิดแผลที่ขา เพื่อให้ความดันขยายออกข้างนอก และพบว่าการทำงานของปอดลดลง รวมถึงทางเดินปัสสาวะ ที่มีของเสียเข้าไปในระบบเลือดทำให้ไตทำงานแย่ลง ต้องล้างไตนำของเสียที่คั่งค้างออก

รศ.นพ.ธันย์ สุภัทรพันธุ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า มีผู้บาดเจ็บที่ส่งมารักษาตัวทั้ง 5 ราย อาการยังทรงตัวอยู่ โดยมี 3 ราย ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งต้องรอดูอาการอีก 1 วันว่าจะมีอาการแทรกซ้อน มีภาวะปอดบวมหรือไม่ ส่วนอีก 2 ราย รวมถึงหญิงชาวมาเลเซีย อาการดีขึ้น สามารถหายใจได้เองแล้ว

ด้านโรงพยาบาลรามคำแหงแจ้งว่า มีผู้บาดเจ็บที่ถูกส่งตัวมารักษาทั้งหมดมี 15 ราย ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ถือเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 59 คือ น.ส.เดือนเพ็ญ พรหมทอง อายุ 24 ปี ถูกไฟไหม้เกือบทั้งตัว เสียชีวิตลงเมื่อเวลา 21.45 น. วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา โดยได้ส่งศพไปชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่โรงพยาบาลตำรวจเมื่อเวลา 02.40 น. วันที่ 2 มกราคม โดยล่าสุดขณะนี้ยังมีผู้ป่วยนอนพักรอดูอาการอีก 6 ราย เป็นชาย 1 ราย หญิง 5 ราย ทั้งหมดอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว 

ชาวกาฬสินธุ์ตามหาลูกสาว

พ.ต.อ.พรชัย สุธีรคุณ รองผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า สถาบันได้ตรวจพิสูจน์ศพผู้เสียชีวิตเสร็จแล้วทั้งหมด 28 ราย มีญาติมารับศพไปแล้ว 11 ราย ส่วนอีก 17 รายที่เหลือยังไม่ทราบชื่อ 11 ราย จึงให้ทันตแพทย์มาเก็บรายละเอียดเกี่ยวกับฟันเตรียมไว้ หากญาตินำประวัติการทำฟันมาขอเปรียบเทียบ รวมทั้งมีการเก็บลายนิ้วมือไว้เปรียบเทียบด้วย

ส่วนที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ มีญาติมาขอรับศพผู้เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศลแล้ว 14 ราย ยังเหลืออีก 16 ศพ ที่ญาติยังไม่มารับ ในจำนวนนี้เป็นศพเพศหญิง 5 ศพ ที่ไม่สามารถพิสูจน์เอกลักษณ์ได้ จึงส่งต่อให้สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ดำเนินการพิสูจน์แล้ว
นางเอื้อมพร นาสะอ้าน อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 6 ต.ฆ้องชัยพัฒนา กิ่ง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ เดินทางมาตามหา น.ส.พวงเพชร หรือต้อย นาสะอ้าน อายุ 24 ปี บุตรสาว ที่ทำงานเป็นพนักงานพาร์ทไทม์อยู่ที่ซานติก้า ผับ ซึ่งตรวจสอบรายชื่อผู้บาดเจ็บพบชื่อลูกสาวนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลคามิลเลี่ยน แต่เมื่อเดินทางไปถึงกลับไม่พบตัวแต่อย่างใด พยายามตามหามาหลายโรงพยาบาลแล้วก็ยังไม่พบ จึงอยากฝากประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชนให้ช่วยตามหา น.ส.พวงเพชรด้วย

โวยสร้อย-พระเลี่ยมทองคำหาย

ด้านนางพนิดา โกศรี อายุ 28 ปี พร้อมลูก ที่เดินทางมาขอดูศพนายอาทิตย์เทพ ปัทมานุรักษ์ อายุ 35 ปี ร้องเรียนผู้สื่อข่าวว่า ได้เห็นทรัพย์สิน ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท พระเลี่ยมทอง 2 องค์ กระเป๋าเงิน และบัตรเครดิตซึ่งเป็นของนายอาทิตย์เทพ อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่มูลนิธิ แต่ไม่สามารถขอรับทรัพย์สินกลับมาได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิอ้างว่าให้ไปติดต่อพนักงานสอบสวนที่ สน.ทองหล่อ แต่เมื่อไปที่ สน.ทองหล่อ พบว่าสร้อยคอทองคำกับพระเลี่ยมทองหายไป

นายสหชาติ ประถิ่น เจ้าหน้าที่กู้ภัย มูลนิธิร่วมกตัญญู ชี้แจงว่า ทรัพย์สินที่หายไม่เกี่ยวข้องกับมูลนิธิ โดยระหว่างที่พวกเจ้าหน้าที่มูลนิธินำศพนายอาทิตย์เทพออกจากซานติก้า ผับ มาถึงสถาบันนิติเวช ก็ไม่พบทรัพย์สินตามที่นางพนิดากล่าวอ้าง และนางพนิดาน่าจะเข้าใจผิด เนื่องจากวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา มีทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย ที่มีสร้อยคอทองคำและพระเลี่ยมทอง ลักษณะคล้ายกับของนายอาทิตย์เทพ อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันแทนเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูทุกนายด้วยว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่รายใดกล้าแตะต้องทรัพย์สินของผู้ประสบภัยอย่างแน่นอน

จีนส่งยารักษาแผลไฟลวกช่วย

นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า นายจาง จิ่วหวน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ได้ส่งสารแสดงความเสียใจมายังกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมแจ้งว่าจะส่งเวชภัณฑ์รักษาแผลที่ถูกความร้อนเพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ โดยส่งผ่านทางสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง คาดว่าเวชภัณฑ์จะมาถึงในวันที่ 3 มกราคมนี้ นอกจากนี้นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลกประสานไปยังประเทศต่างๆ หากต้องการสอบถามข้อมูลหรือสงสัยว่าจะมีญาติได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวหรือไม่ด้วย โดยกระทรวงจะช่วยประสานไปยังศูนย์ช่วยเหลือผู้สบภัยจากเหตุเพลิงไหม้ สำนักงานเขตวัฒนาต่อไป

ด้านกระทรวงต่างประเทศของสิงคโปร์แถลงว่า ชาวสิงคโปร์ 2 ราย ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับซานติก้ า ผับ ขณะที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นยังคงสูญหาย โดยสถานทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทย ได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่อย่างใกล้ชิดเพื่อตรวจสอบสถานะของบุคคลทั้ง 2 รวมถึงชาวสิงคโปร์รายอื่นๆ ที่อาจได้รับผลกระทบด้วย

"ซินดี้"วางกระเช้าดอกไม้อาลัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศที่ซานติก้า ผับ เมื่อคืนวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา ได้มีญาติและครอบครัวผู้เสียชีวิต เดินทางมาดูสถานที่เกิดเหตุ และบางคนได้นำดอกไม้มาวางเพื่ออาลัยในการจากไปของญาติพี่น้อง รวมทั้งนางสิรินยา วินศิริ หรือซินดี้ อดีตมิสไทยแลนด์เวิลด์ และนางแบบชื่อดัง ที่เดินทางมาพร้อมสามี โดยนำกระเช้าดอกไม้มาวางเพื่อเป็นการไว้อาลัยด้วย ขณะที่ชาวบ้านในย่านดังกล่าวต่างรำลือว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอาถรรพ์ เนื่องจากที่ตั้งของซานติก้า ผับ ในอดีตเคยเป็นกุโบ หรือสุสานของผู้นับถือศาสนาอิสลาม

ไหม้"รอว์ไฮด์ผับ"หลังปิดร้าน

เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 2 มกราคม พ.ต.ท.ยาณวุฒิ เลี่ยมแก้ว สารวัตรเวร สน.ทองหล่อ รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ รอว์ไฮด์ผับ ซอยคาวบอย แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. จึงประสานรถดับเพลิงจากหน่วยบรรเทาสาธารณภัย เข้าสกัดเพลิง พบว่าที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น มีเปลวไฟบริเวณชั้น 2 และชั้น 3 เจ้าหน้าที่ใช้เวลา 15 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ จากการสอบสวนลูกค้าที่เห็นเหตุการณ์ ให้การว่า ขณะเกิดเหตุได้ยืนสูบบุหรี่อยู่หน้าร้านก็เห็นพนักงานของร้านดึงปลั๊กไฟประดับต้นคริสมาสต์แล้วมีประกายไฟตกบนพื้นไปติดกับริบบิ้นที่ประดับภายในร้านบริเวณชั้น 2 จนไฟลุกลาม พนักงานในร้านรีบนำถังดับเพลิงมาฉีดสกัดแต่ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้

พ.ต.ท.ยาณวุฒิกล่าวว่า ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เนื่องจากขณะเกิดเหตุ ทางร้านปิดให้บริการแล้ว และโชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ซึ่งจะเรียกพนักงานมาสอบปากคำอีกครั้ง 

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์