ตร.หาดใหญ่เผยแพทย์ชี้ หญิงคลั่ง ฟันหัวลูกน้องชูวิทย์ป่วยทางจิต

จากเหตุระทึกนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย นำคณะกรรมาธิการตำรวจ (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร

ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมตำรวจสภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ติดตามเรื่องค้ามนุษย์และบ่อนการพนัน และขณะกำลังจะกลับปรากฎว่าจู่ๆ มีหญิงสาวคลุ้มคลั่งใช้มีดพร้าฟันศีรษะนายเทพทัต บุญพัฒนานนท์ อายุ 29 ปี เลขานุการและผู้ช่วยของนายชูวิทย์ จนตำรวจต้องช่วยกันล็อกตัวมือมีดกันอย่างชุลมุน ส่วนนายเทพทัตได้รับบาดเจ็บต้องเย็บถึว 17 เข็ม สอบสวนเบื้องต้น ตร.หาดใหญ่ชี้ว่าหญิงรายนี้ชื่อน.ส.คำหล้า มั่งมี อายุ 27 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชนบ้านเลขที่ 116 หมู่ 2 ต.วังเพิ่ม อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น สืบประวัติพบมีอาการทางจิต แต่นายชูวิทย์ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวยังเชื่อว่าน่าจะมีเบื้องหลังเกี่ยวโยงกับการที่ตนเปิดโปงการค้ากามและบ่อนพนันในพื้นที่

 ความคืบหน้า วันที่ 15 ก.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า พ.ต.อ.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รองผบก.จ.สงขลา พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล และผกก.สภ.หาดใหญ่ ร่วมกันตรวจจุดเกิดเหตุบริเวณหน้าศูนย์จราจรหาดใหญ่ สภ.หาดใหญ่ เพื่อประเมินเหตุการณ์น.ส.คำหล้าใช้มีดฟ้าไล่ฟันคณะของนายชูวิทย์อย่างละเอียดอีกครั้ง

ตร.หาดใหญ่เผยแพทย์ชี้ หญิงคลั่ง ฟันหัวลูกน้องชูวิทย์ป่วยทางจิต

ต่อมา พ.ต.อ.กฤษกร ให้สัมภาษณ์ว่า คดีนี้พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.ภาค 9 และพล.ต.ต.สุวิทย์ เชิญศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลา
 
เร่งรัดให้สอบสวนหาข้อเท็จจริงโดยเร็วที่สุด จากการตรวจสอบ
ขณะนี้ยืนยันว่าเป็นการกระทำของผู้ที่มีอาการทางจิต บังคับตัวเองไม่ได้ และเป็นเพียงคดีทำร้ายร่างกายธรรมดาเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับการเมือง
การอภิปรายในสภาหรือการที่คณะของนายชูวิทย์ลงมาตรวจสอบเรื่องบ่อนพนันหรือแฉขบวนการค้ากามในพื้นที่ อ.หาดใหญ่

 "พฤติกรรมในการก่อเหตุของน.ส.คำหล้า ไม่ว่าจะเป็นนายชูวิทย์หรือใครก็ตามที่ไปยืนอยู่จุดนั้นมีโอกาสถูกฟันได้เช่นเดียวกัน"
พ.ต.อ.กฤษกร กล่าว

 รองผบก.จ.สงขลา เปิดเผยอีกว่า การดำเนินคดีอาญากับน.ส.คำหล้า

และส่งฟ้องก็ทำตามปกติเหมือนผู้ต้องหาทั่วไปในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น แต่หากท้ายที่สุดแล้วได้รับผลการตรวจสภาพจิตยืนยันจากแพทย์โรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์ ว่าการกระทำความผิดของผู้ต้องหาไม่มีเจตนากระทำความผิดเพราะบังคับตัวเองไม่ได้ ก็ลงโทษไม่ได้

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด นายเทพทัต ผู้ช่วยของนายชูวิทย์ออกจากโรงพยาบาลหาดใหญ่ และเดินทางกลับกรุงเทพฯ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 14 ก.ย. หลังจากผลการตรวจพบว่าแผลโดนฟันศีรษะไม่ส่งผลกระทบกระเทือนกับสมอง
นอกจากนั้น พ.ต.อ.กฤษกรยังนำหนังสือแจ้งผลการประเมินอาการผู้ต้องหา
ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกลุ่มงานจิตเวชโรงพยาบาลหาดใหญ่รายงานผลการตรวจพบว่าน.ส.คำหล้ามีอาการทางจิตเวช เห็นควรได้รับการประเมินและรักษาต่อที่โรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์มายืนยันว่าเป็นการกระทำของผู้มีอาการทางจิต ไม่ใช่จงใจทำร้ายคณะของนายชูวิทย์โดยตรง

 วันเดียวกัน ที่สวนชูวิทย์ สุขุมวิท ซอย 10 กทม. นายชูวิทย์เปิดแถลงข่าวว่า
 
ตำรวจสภ.หาดใหญ่สรุปเร็วเกินไปว่าน.ส.คำหล้าเป็นหญิงสติไม่ดี
รู้ได้อย่างไรภายใน 2 ชั่วโมง รู้ว่าเป็นบ้า วิกลจริต โดยมีหนังสือของแพทย์จิตเวชโรงพยาบาลหาดใหญ่ที่ระบุเพียงว่า “จากการประเมินเบื้องต้น มีอาการทางจิตเวช สมควรได้รับการประเมินและรักษาต่อ”
เหตุใดถึงไม่พิสูจน์ตามกระบวนการกฎหมายที่ต้องควบคุมตัวและให้แพทย์เฉพาะทางได้ประเมิน เช่นคดีผู้ต้องหาคดีแทงเด็กโรงเรียนเซนต์โยเซฟ แล้วกรณีนี้ได้ซักถามถามญาติพี่น้อง หรือซักประวัติการแพทย์ของน.ส.คำหล้าหรือยัง

 “น่าสังเกตว่าทำไมไม่ตรวจสารเสพติด หรือตรวจฉี่ ทั้งที่ผู้หญิงคนนี้มีสภาพเมายา เหมือนให้กินยาและถูกยุมาทำร้าย
แต่สงสัยว่าตำรวจรู้ได้อย่างไรว่าไม่ได้ต้องการทำร้ายผม แต่ก็แปลกใจที่มาทำร้ายคนของผมทั้ง 2 คน ทั้งๆ ที่คณะแต่งตัวเหมือนกันหมด
ผมไม่อยากจะต่อ แต่คงไม่จบ ต้องขอความเป็นธรรมให้ผมบ้าง ขอเรียกร้องไปยังพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. ต้องสอบสวนเรื่องนี้ เพราะผมไปทำงานในนามคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร และอยู่บนโรงพักหาดใหญ่ ต่อหน้านายตำรวจเป็นสิบ แต่กลับไม่ปลอดภัยถูกทำร้าย แล้วตำรวจจะดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนได้อย่างไร” นายชูวิทย์ กล่าว และว่าจะทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้รับทราบถึงความไม่ปลอดภัยของสมาชิกที่ไปทำหน้าที่

 หัวหน้าพรรครักประเทศไทย อ้างว่า เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีเบื้องหลังคือการทำงานของตน

โดยเฉพาะการเปิดเผยเรื่องบ่อนและซ่องโดยเฉพาะในพื้นที่หาดใหญ่ เพราะสภาพอย่างนี้อาจมีคนว่าจ้างมา เพราะนั่งมอเตอร์ไซค์ไปซื้อมีดพร้าที่ตลาด ทั้งขอตั้งข้อสังเกตว่าที่ตำรวจอ้างว่าผู้หญิงคนนี้สติไม่ดีได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานหรือไม่ ผู้หญิงคนนี้อยู่พัทยามีแฟนเป็นฝรั่ง แต่กลับมาติดยาที่หาดใหญ่ แต่งกายเสื้อผ้าบูติค ทำเล็บมือเล็บเท้า
และเช่าอพาร์ทเมนท์อยู่ด้วยตัวเอง และยังเช็คประวัติภูมิลำเนาได้อย่างรวดเร็วมาก

 ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงท้ายของการแถลงข่าว นายชูวิทย์เปิดคลิปเสียงชายคนหนึ่ง


อ้างว่าเป็นชาวหาดใหญ่โทรศัพท์มาที่ทำการพรรครักประเทศไทยหลังเกิดเหตุ โดยให้ข้อมูลอ้างว่าตำรวจชั้นผู้ใหญ่ของโรงพักหาดใหญ่เตรียมจัดแจงสถานที่ไว้รอต้อนรับคณะของนายชูวิทย์มาหลายวัน รวมทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเป็นการจัดฉาก ต้องการให้ฟันหัวนายชูวิทย์ และอ้างด้วยว่ารู้ว่ามีคนให้เงินหญิงคนดังกล่าวไปซื้อมีด 


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์