ตร.รวบคนปล่อยข่าวทำตลาดหุ้นร่วง2ราย

คมชัดลึก :รวบผู้บริหารยูบีเอส-พนักงานซีมิโก้ ข้อหาปล่อยข่าวลือทุบหุ้นว่อนเว็บไซต์ดัง ตั้งข้อหาหนักเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับสถาบันกระทบความมั่นคงชาติ ตร.ย้ำไม่ใช่แพะชี้หลักฐานชัด เร่งสาวถึงจอมบงการ เล็งจับอีก 2 เผย หนึ่งในนั้นอยู่ในวงการแพทย์

ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยวสนามบินสุวรรณภูมิ นำหมายศาลอาญารัชดาที่ 3089/2552 ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2552

ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เข้าจับกุม น.ส.ธีรนันต์ วิภูชนันธ์ อายุ 43 ปี กรรมการบริหารบริษัทหลักทรัพย์ยูบีเอส (ประเทศไทย) อยู่บ้านเลขที่ 368 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ขณะเดินทางกลับจากท่องเที่ยวยุโรป กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยสายการบินออสเตรียแอไลน์ เที่ยวบินที่โอเอส 0025 พร้อมควบคุมตัวสอบปากคำที่ศูนย์ร่วมบริการประชาชน กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวสุวรรณภูมิ

ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่งนำหมายศาลอาญารัชดาในข้อหาเดียวกันเข้าจับกุมนายคธา ปาจาจิริยะพงษ์ อายุ 37 ปี พนักงาน บริษัทหลักทรัพย์ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน)

ได้ที่บริษัท ลิเบอร์ตี้ จำกัด ถนนสีลม แขวงและเขตบางรัก กรุงเทพฯ โดยตำรวจแบ่งกำลังเข้าตรวจค้นหาหลักฐานของผู้ต้องหาทั้งสองในหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือที่ทำงาน สามารถยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ไอทีได้หลายรายการ จากนั้นควบคุมผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมของกลางมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ บก.ปอท. เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองกระทำความผิดตามมาตรา 14 พ.ร.บ.เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ก่อให้เกิดความเสียหายปี 2550 ข้อหานำเข้าข้อมูลอื่นและเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ ทำให้ประชาชนหลงเชื่อก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงต่อประเทศ โดยมีพฤติกรรมไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติ ปล่อยข่าวให้เกิดความเสื่อมเสีย มีโทษจำ 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การรับสารภาพ

พล.ต.ท.ไถง กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามคำสั่งของ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร.ที่ให้ตำรวจสืบสวนสอบสวน

กรณีมีการปล่อยข่าวลือก่อให้เกิดความเสื่อมเสียไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติ เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนและหลงเชื่อ โดยเร่งรัดติดตามผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว หลังมีการเผยแพร่ข้อความในเว็บไซต์ประชาไท เว็บไซต์ฟ้าเดียวกัน และเว็บอื่นๆ ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสืบสวนจนทราบตัวผู้กระทำผิด และสามารถจับผู้ต้องหาได้ 2 คน ในวันนี้ (1 พ.ย.) ตั้งแต่ช่วงบ่าย

"เจ้าหน้าที่จับกุม น.ส.ธีรนันต์ ได้ที่สุวรรณภูมิขณะลงจากเครื่องบิน ขณะเดินทางกลับจากประเทศออสเตรีย โดยสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ ก่อนนำตัวไปสอบสวนขยายผลที่บ้านในซอยเสือใหญ่อุทิศ สามารถยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ของกลางมาได้ ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่อีกชุดไปตรวจค้นจับกุมนายคธา ได้ที่บริษัทลิเบอร์ตี้ ถนนสีลม ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบฮาร์ดดิสก์ เพื่อประกอบสำนวนคดี ดำเนินการตามกฎหมาย" พล.ต.ท.ไถงกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวไปสอบสวนที่ บก.ปอท. ไม่ได้พูดจาอะไรมากนัก แต่ยังมีสีหน้ายิ้มแย้ม เรียบเฉย เปรียบเหมือนทำใจดีสู้เสือ

ด้าน พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวว่า ตำรวจนำหมายศาลเข้าจับกุมผู้ต้องหา 2 คน และหลังจากจับกุมได้กระจายกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจค้น เพื่อหาพยานหลักฐานที่ทำงาน และบ้านพักของผู้ต้องหาทั้ง 2 ซึ่งก็ได้พยานหลักฐานมาจำนวนหนึ่ง แต่ไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้ เนื่องจากจะต้องตรวจสอบของกลาง และควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้สอบสวนขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการที่เหลือต่อไป ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าผู้ต้องหาทั้งสองมีความเชื่อมโยงรู้จักกันหรือไม่ รวมถึงการตรวจสอบว่าจากการกระทำดังกล่าวมีผู้ใดได้รับผลประโยชน์บ้างหรือไม่

พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้ประสานกับสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ และกระทรวงไอซีที เพื่อสอบสวนว่ามีผู้ต้องสงสัยบางกลุ่มมีพฤติกรรมในการโพสต์ข้อความลงในอินเทอร์เน็ตหรือไม่

ซึ่งหากพบก็จะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับและหมายค้นต่อไป เนื่องจากหากปล่อยไว้นานเกรงว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวอาจจะทำลายหลักฐานได้ อย่างไรก็ตามในส่วนของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนควบคุมตัวไว้สอบสวนเพื่อขยายผลที่ บก.ปอท.โดยไม่อนุญาตให้ประกันตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การสืบค้นหาข้อมูลจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาป่วนหุ้นทั้ง 2 คนในครั้งนี้ ได้สืบค้นจากพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ต

รวมถึงพฤติกรรมอื่นๆ ประกอบหลายส่วน ซึ่งเจ้าหน้าที่มีกระบวนที่ค่อนข้างซับซ้อนในการหาพยานหลักฐาน โดยเฉพาะเรื่องไอที และเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าไม่มีการจับแพะ เพราะเชื่อมั่นว่ามีหลักฐานการกระทำผิดของผู้ต้องหาทั้ง 2 คนชัดเจน มีรายงานข่าวว่า นอกจากผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมแล้ว 2 คน ยังมีผู้ต้องหาอีกกลุ่มซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพยายามหาพยานหลักฐานให้รัดกุม เพื่อออกหมายจับบุคคลที่ร่วมกระทำผิดในข้อหาเดียวกันนี้อีกอย่างน้อย 2 คน ซึ่งหนึ่งใน 2 คนนี้เป็นคนที่อยู่ในวงการแพทย์

ทั้งนี้ ในวันที่ 2 พฤศจิกายน นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมนัดหารือกับนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

และนางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อสรุปความคืบหน้าเกี่ยวกับการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก กรณีการปล่อยข่าวลือเพื่อทุบหุ้นในระหว่างวันที่ 14-15 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งกระทรวงการคลังคาดว่า จะได้ความคืบหน้าเกี่ยวกับรายชื่อนักลงทุนที่สั่งซื้อ-สั่งขายหุ้นผ่านพอร์ตโบรกเกอร์ต่างประเทศในช่วงนั้นเป็นใคร และมีความเกี่ยวโยงกับการปล่อยข่าวลือหรือไม่

นางภัทรียา กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ได้หารือเบื้องต้นกับ ก.ล.ต.แล้วว่า บทบาทของตลาดหลักทรัพย์จะให้ดำเนินการอย่างไรได้บ้าง ซึ่งจะต้องมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน หากฝ่ายกำกับนโยบายต้องการอะไรเพิ่มเติมก็ขอให้แจ้งความประสงค์มาได้ ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาอะไร