ตร.ชี้สายไฟฟ้ารั่วเหตุเพลิงเผากุฏิวัดชัยภูมิวอดทั้งหลัง

"เหตุสายไฟเก่าชำรุด"


ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตำรวจเมืองเจ้าพญาแล ฟันธงต้นเหตุเพลิงไหม้เผาวอดกุฏิวัดสำราญ อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ กลางดึกวันที่ 12 ม.ค. เพราะสายไฟเก่าชำรุดจนกระแสไฟฟ้ารั่วลัดวงจรเกิดเป็นประกายไฟลุกไหม้เพดานห้องแล้วลุกลามอย่างรวดเร็วทำให้กุฏิได้รับความเสียหายทั้งหลัง

วันนี้ (14 ม.ค.) พ.ต.ท.อรรถพล สิงหปุรางกุร พนักงานสอบสวน(สบ.2) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้กุฏิวัดสำราญ (วัดบ้านกุม) ม. 3 ต.หัวทะเล อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ คืนวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า จากการสอบสวนเบื้อง พระภิกษุสุวรรณ เขมทัตโต หรือพระครูเกษมวิชัยทัต เจ้าอาวาส ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุได้เข้าจำวัดพักผ่อนตามปกติ จนกระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น.ของคืนวันที่ 12 ม.ค.ได้ยินเสียงดัง แป๊ะๆ ที่บริเวณมุมห้องด้านบนกุฏิที่เกิดเหตุ เมื่อไปดูพบมีประกายไฟแตกกระเด็นออกมาจากสายไฟฟ้า จนเปลวไฟได้ลามจากเพดานห้อง และตกลงมาลุกไหม้สิ่งของ และผ้าที่อยู่บนพื้นห้องอย่างรวดเร็ว จนไม่สามารถดับไฟได้ด้วยตนเอง

จึงวิ่งหลบออกจากห้องที่เกิดเหตุไฟไหม้จนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณด้านหลัง ก่อนตะโกนร้องเรียกให้ชาวบ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียงมาช่วยกันดับไฟ แล้วแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาช่วยดับเพลิง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบแต่ก็เผาผลาญจนกุฏิได้รับความเสียหายทั้งหลัง

"โชคดีบาดเจ็บแค่เล็กน้อย"


ส่วนเจ้าอาวาสซึ่งได้รับบาดเจ็บ ชาวบ้านได้รีบนำส่งโรงพยาบาลบำเหน็จณรงค์ เมื่อแพทย์ทำการรักษา พบได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจึงอนุญาตให้กลับวัดได้

พล.ต.ต.เติมพงษ์ สิทธิประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ชัยภูมิ กล่าว ว่า จากการพูดคุยสอบถาม พระครูเกษมวิชัยทัต เจ้าอาวาสวัดซึ่งจำวัดอยู่ในขณะเกิดเหตุ ทราบว่า สาเหตุเกิดจากสายไฟฟ้าเก่าใช้งานมาเป็นเวลานานเกิดชำรุดจนกระแสไฟฟ้ารั่วลัดวงจรเกิดเป็นประกายไฟ แล้วลุกไหม้สิ่งของ เช่น จีวร ,หนังสือธรรม ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี

โดยเจ้าอาวาสไม่ติดใจสงสัยว่าเป็นการรอบวางเพลิง แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นไฟฟ้ามากกว่าเพราะสายไฟที่เดินภายในกุฏิใช้งานมานานอายุเท่ากับกุฏิประมาณ 38 ปี และเคยเกิดประกายไฟรั่วมาแล้ว 2-3 ครั้ง แต่ยังไม่ได้เปลี่ยนสายไฟ จนกระทั่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้

"ค่าเสียหายยังประเมินราคาไม่เสร็จ"


อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่วิทยาการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิได้เข้าตรวจสอบและรวบรวมหลักฐานเพื่อพิสูจน์หาสาเหตุไฟไหม้ที่แท้จริงต่อไปแล้ว ส่วนค่าเสียหายยังอยู่ในการประเมิณอยู่เพราะสิ่งของส่วนใหญ่เป็นของใช้ส่วนตัวเจ้าอาวาสที่พักอาศัยอยู่ในกุฏิ

จากกรณีดังกล่าวได้สั่งการสถานีตำรวจในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิทุกแห่งให้แจ้งเตือนไปยังวัดที่มีกุฏิเก่าให้สำรวจสายไฟฟ้า ถ้าชำรุดให้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมไปถึง กองไม้ สิ่งของอันเป็นเชื้อเพลิงที่วางอยู่ภายในบริเวณโรงเรียน วัด อาคารเรือนบ้านพักให้เก็บให้ปลอดภัย ไม่เสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้ และให้หมั่นตรวจตรา ระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะเป็นฤดูหนาว มีลมแรงก่อให้เกิดเหตุเพลิงไหม้อย่างรุนแรงและรวดเร็ว พล.ต.ต.เติมพงษ์ กล่าว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์