ดีเอสไอพบใบเสร็จราคา”ลัมโบร์กินี มูร์เซียลาโก”ผลิต 350 คันในโลก ขายแค่ 18 ล.

ดีเอสไอพบใบเสร็จราคา”ลัมโบร์กินี มูร์เซียลาโก”ผลิต 350 คันในโลก ขายแค่ 18 ล.


หลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ปฏิบัติการ ตรวจค้น 9 จุด บริษัทนำเข้ารถรถยนต์หรู หรือซุปเปอร์คาร์

เจ้าหน้าที่ดีเอสไอพบหลักฐาน เอกสารสำคัญ หลายอย่าง พ.ต.ท.กรวัชร ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ ระบว่าตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินคดีแจ้งข้อกล่าวผู้เกี่ยวข้อง ฐานหลบเลี่ยงภาษีและสำแดงภาษีอากรอันเป็นเท็จ

ทั้งนี้ ดีเอสไอ ได้เปิดแผนผังเส้นทางการนำเข้ามา ของรถยนต์หรู 1 คัน มีกระบวนการเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมายังประเทศไทย น่าสนใจ

ยกตัวอย่าง รถหรูอย่าง ลัมโบร์กินี มูร์เซียลาโก แอลพี 670-4 เอสวี ราคาตลาดประกาศขายกันในราคา 39 ล้านบาท ผลิตจำหน่วย ในช่วง 12 ตุลาคม 2552 จำนวน 350 คันทั่วโลกเท่านั้น

บริษัทนิชคาร์ประเทศไทย ได้ให้ขายให้ผู้เช่าซื้อรายหนึ่ง หลักฐานจาก ใบเสร็จรับเงิน เลขที่ 184 วันที่ 23/04/2553 มูลค่าสินค้า15,981,308.41 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เป็นเงิน 1,118,691.56 บาท รวมจำนวนเงิน 17,100,000.00 บาท


ดีเอสไอพบใบเสร็จราคา”ลัมโบร์กินี มูร์เซียลาโก”ผลิต 350 คันในโลก ขายแค่ 18 ล.

โดยผ่านระบบผ่อนชำระกับทางธนาคารแห่งหนึ่ง ในราคาเช่าซื้อ จำนวน 18,360,000.00 บาท แบ่ง ชำระเป็น 48 งวด งวดละ 382,500.00 บาท

ซึ่งราคาจริงจาก ราคาซื้อขายจากต่างประเทศ เป็นเงินจำนวน 286,015.00 สกุลเงินยูโร เมื่อคิดเงินไทยเป็นมูลค่า 12,672,838.42 บาท

หากคิดราคาภาษีรวมที่ต้อง ชำระจริง 41,566,910.00 บาท

แต่รถยนต์คันดังกล่าวยื่นชำระอากร 105,500.00 สกุลเงินUSD เป็นเงินไทย คือจำนวน

3,425,585.00 และเมื่อคิดเป็นเงินไทย จะรวมภาษีอากร ทั้งสิ้น 11,235,918.71 บาท

ซึ่งจะทำให้เห็นว่า ราคา ที่ต้องชำระจริงมีความต่างกันมาก เป็นภาษีที่ขาดประมาณ 30,330,991.00 บาท

ราคานี้แค่เพียงรถยนต์ เพียง 1 คันเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมมูลค่าความเสียหายจึงมีจำนวน

มากถึง 2,400 ล้านบาท


ดีเอสไอพบใบเสร็จราคา”ลัมโบร์กินี มูร์เซียลาโก”ผลิต 350 คันในโลก ขายแค่ 18 ล.

Cr::matichon.co.th

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์