ด.ต.มอบตัวถือปืนขู่ไฟแนนซ์ เผยไม่รู้ว่ามาทวงหนี้ภรรยา

ด.ต.มอบตัวถือปืนขู่ไฟแนนซ์ เผยไม่รู้ว่ามาทวงหนี้ภรรยา

"ด.ต." สน.บางเขนเข้ามอบตัวหลังพนักงานไฟแนนซ์แจ้งความฐานพกปืนขู่ แจงไม่รู้มาทวงหนี้ ขณะที่ภรรยาร้องตำรวจสอบไฟแนนซ์โพสต์ประสานลูกหนี้


จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ V.4 โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพและคลิปวีดิโอระบุว่า เหตุการณ์ ของพนักงานเร่งรัดหนี้สินเข้าไปตรวจยึดรถเก๋งจากลูกหนี้ที่ไม่ยอมผ่อนชำระหนี้ แต่ได้มีชายคนหนึ่งถือปืนออกมาจากบ้านและขึ้นไปบนรถคันดังกล่าวก่อนจะขับออกไป ซึ่งต่อมาพนักงานเร่งรัดหนี้สินที่ปรากฏในคลิปได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.คันนายาว เพื่อเอาผิดชายถือปืน 

พนักงานเร่งรัดหนี้สินระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา ในหมู่บ้านย่านสายไหม ซึ่งได้เดินทางไปพร้อมทีมงานประมาณ4คนเพื่อเข้าไปทวงถามการค้างค่างวดผ่อนรถซึ่งไม่มีการจ่ายประมาณ2ปี ขณะที่ทำการพูดคุย หญิงดังกล่าวที่เป็นผู้ขับรถในขณะนั้นได้โทรเรียกสามีให้ออกมา ซึ่งชายดังกล่าวมีการพกพาอาวุธปืนดังกล่าวตามลักษณะในคลิป

ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 พ.ค. พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าชายที่ปรากฎในคลิป คือ ด.ต.เอกฉัตร สมสิริ ผบ.หมู่ สืบสวน สน.บางเขน จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าวันเกิดเหตุ ด.ต.เอกฉัตร ได้ออกเวรจากการปฏิบัติหน้าที่และได้นอนพักผ่อนอยู่ภายในบ้านพัก ต่อมาน.ส.นพวรรณ จีระ ภรรยาได้มาเรียกว่า มีคนมาล้อมปล้นจะเอารถไป ขณะที่ด.ต.เอกฉัตรหลับอยู่จึงตกใจ ไม่รู้ว่าบุคคลที่เอารถมาเป็นใคร จึงนำปืนพกติดตัวไปด้วย โดยขณะที่ออกมาไม่ทราบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นใคร 

พ.ต.อ.สิงห์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวต้องแบ่ง ออกเป็น 2 กรรม 2 วาระ ส่วนแรกในคลิปมีการใช้อาวุธปืนข่มขู่ จากการตรวจสอบกับผู้บังคับบัญชาของ ด.ต.เอกฉัตร พบว่าการครอบครองอาวุธปืนมีใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืนถูกต้อง รวมทั้งมีใบอนุญาตพกพาที่ทางผู้บังคับบัญชาออกให้ไว้ชั่วคราวสำหรับปฏิบัติหน้าที่ โดยทางด.ต.เอกฉัตรได้นำอาวุธปืนพร้อมเอกสารหลักฐานมามอบให้กับพนักงานสอบสวนแล้ว ซึ่งในส่วนนี้จะดำเนินการเตรียมแจ้งข้อหาผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ ตัองระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 392 แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 6 แห่งประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 22) กับด.ต.เอกฉัตร 

พ.ต.อ.สิงห์ เปิดเผยว่า ขณะเดียวกันทางน.ส.นพวรรณ ได้เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในส่วนของคดีแพ่งที่มีการผิดสัญญาการซื้อขาย ซึ่งยอมรับว่ามาการขาดส่งจริง โดยทางน.ส.นพวรรณระบุว่าพนักงานเร่งรัดหนี้สินไม่ได้แสดงบัตรแต่อย่างใด โดยได้ขอให้ทางพนักงานสอบสวนตรวจสอบว่ามีการติดตามยึดรถถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่ รวมถึงการโพสต์ข้อความประจานลูกหนี้ ผู้ทวงหนี้สามารถทำได้หรือไม่ 

ต่อมา ด.ต.เอกฉัตร พร้อม น.ส.นพวรรณ เดินทางมาพบพ.ต.อ.สิงห์ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา
น.ส.นพวรรณ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ค. เวลาประมาณ 16.00 น. ได้ขับรถออกไปตลาด จากนั้นเวลาเกือบ 18.00 น. ได้ขับรถกลับเข้ามาในหมู่บ้านและไม่รู้ว่ามีคนตามหรือไม่ตาม เมื่อขับรถมาจอดที่ร้านค้า ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้าน ก็ได้มีรถเก๋งสีขาวขับมาปิดท้าย และมีผู้ชายเดินมาซึ่งไม่ได้แสดงบัตรระบุว่าเป็นใครและมีรถเก๋งอีกคันมาปิดอยู่ด้านหน้า จึงรู้สึกตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นมีคนเดินมาเพื่อไม่ให้ตนปิดประตูรถยนต์ พร้อมกับบอกว่ามาคุยเรื่องรถ ทำให้รู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์ ขณะที่ ด.ต.เอกฉัตรไม่ทราบเรื่อง เพราะมีเหตุจำเป็นส่วนตัวจึงนำรถเข้าไฟแแนนซ์โดยไม่ได้บอกให้ ด.ต.เอกฉัตร 

จากนั้นได้พูดคุยกับพนักงานไฟแนนซ์บอกให้ไปคุยกันที่บ้าน ซึ่งไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุ แต่พนักงานไฟแนนซ์ไม่ยอม และไม่ยอมให้ปิดประตูรถ จึงโทรศัพท์บอก ด.ต.เอกฉัตร ว่ารถโดนปล้น ให้รีบเดินมา ขณะนั้นก็มีการถ่ายคลิปวีดิโอตั้งแต่ต้นจึงบอกกลับไปว่า "พี่ถ่ายแบบนี้เราไม่ได้อนุญาต พี่ถ่ายได้อย่างไร" ถ้าเขาแสดงบัตรออกมาว่าเป็นพนักงานเราก็ไม่ว่า

"อยากให้มองภาพด้วยว่าเหตุการณ์เป็นมาอย่างไร ส่วนตัวยอมรับว่าทำผิดที่ไม่ส่งไฟแนนซ์ แค่อยากรู้ว่าใครเป็นคนปล่อยคลิป เพราะทำให้คนรอบข้างเดือดร้อนต้องเครียดไปด้วย กับสิ่งที่เราทำแล้วเขาไม่รู้เรื่อง แฟนเมื่อได้ยินว่ามีคนมาปล้นรถด้วยความที่ห่วงเรา เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น"น.ส.นพวรรณกล่าว

ด้าน ด.ต.เอกฉัตร กล่าวว่า วันเกิดเหตุ ภรรยาได้โทรมาพูดว่ารถถูกปล้นและพูดเร็วๆ และได้ยินเสียงมีผู้ชายยื้อแย่งเอาโทรศัพท์ไป ด้วยความงัวเงียจึงคิดว่าภรรยาแกล้งในวันเกิด กระทั่งภรรยาเดินมาเรียกซ้ำว่าช่วยด้วยรถถูกปล้น ด้วยความที่ตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจรถคันนี้เคยใช้ทำงานมาหลายครั้งและไม่ทราบมาก่อนว่าภรรยานำรถไปเข้าไฟแนนซ์และเป็นหนี้ จึงคิดว่าเป็นกลุ่มไม่หวังดี จึงออกไปพร้อมปืนกระบอกดังกล่าวแต่ไม่ได้มีการนำไปข่มขู่แต่อยากใดแต่ตามคลิปและรูปที่มีผู้นำมาลงพยามหยุดในช่วงที่ตนต้องใช้อีกมือปิดประตูรถปืนเลยอยู่ในลัษณะคล้ายชี้ไปทางกลุ่มของไฟแนนซ์

น.ส.นพวรรณ กล่าวอีกว่า ได้ทำไฟแนนซ์กับนายหน้ารายหนึ่ง ซึ่งเคยติดต่อสอบถามไปว่าจะผ่อนจ่ายอย่างไร เขาบอกว่าให้ไปทำที่ธนาคาร ซึ่งนายหน้าบอกว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง บัตรก็ยังไม่ได้ โดยได้ชี้แจงบอกว่าบัตรจะส่งมาที่บ้านแต่ก็ยังไม่มีมา เอกสารบางอย่างตนเก็บไว้ เพราะ

ยังไม่อยากให้แฟนรู้ อยากจะปิดแฟน ไม่อยากให้เครียด เพราะช่วงนั้นเครียดกันทุกคน แต่เราหาทางออกที่ไม่ปรึกษาแฟน ก็เลยเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เราอยู่ก็ระแวงเหมือนกันว่าจะโดนยึดรถ แต่ไฟแนนซ์ทำไมไม่โทรมา แม้จะมีคนชุดเก่าเคยโทรมาตาม ชุดใหม่ก็น่าจะมีเบอร์โทรตนเช่นกัน บ้านก็ไม่ได้ย้ายหนีไปไหน
ขณะที่ พ.ต.อ.สิงห์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ กับด.ต.เอกฉัตร และจะส่งปืนไปตรวจสอบว่าถูกต้องตามใบอนุญาตพกพาหรือไม่ โดยฝ่ายภรรยาของ ด.ต.เอกฉัตรต้องการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบโดยใช้อำนาจสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงหาต้นตอของผู้ที่เผยแพร่ 

ทั้งนี้การโพสต์ข้อความประจานลูกหนี้ ในลักษณะแบบนี้นั้นอาจเข้าข่าย พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 เรื่องการนำข้อมูลของลูกหนี้ไปเผยแพร่โพสต์ข้อความประจานลูกหนี้ เข้าข่ายความผิด ตามมาตรา 11 ห้ามผู้ทวงถามหนี้กระทําการทวงถามหนี้ วรรค (1)การข่มขู่ การใช้ความรุนแรง หรือการกระทําอื่นใดที่ทําให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และวรรค(3)การแจ้งหรือเปิดเผยเกี่ยวกับความเป็นหนี้ของลูกหนี้ให้แก่ผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทวงถามหนี้ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

อย่างไรก็ตามด.ต.เอกฉัตรได้ให้การภาคเสธและเนื่องด.ต.เอกฉัตรได้เข้ามามอบตัวด้วยตนเองจึงทำการสอบปากคำและปล่อยตัวไป

Cr::posttoday.co.th

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

  1. สาวไฟแนนซ์ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรม บชน. หลังคู่กรณีเป็นตำรวจ
  2. งานเข้า!!! ผู้กำกับบอกดาบตำรวจ ใช้ปืนขู่ไม่ผิด แถมไฟแนนซ์อาจโดนแจ้งข้อหา!!!(มีคลิป)
  3. รู้ตัวแล้ว หนุ่มโหดชักปืนขู่ไฟแนนซ์ ที่แท้เป็นตำรวจ

  4. >> ดูทั้งหมด :หนุ่มโหดชักปืนขู่ไฟแนนซ์


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์