ด.ญ.6ขวบตายแทนพ่อ ขวางทางปืนรับกระสุนแทน

เศร้าสลดสุดจะบรรยายกับเหตุการณ์ผู้ใหญ่ทะเลาะกันแต่เด็กต้องมารับเคราะห์แทน



วิ่งเข้ามาขวางทางปืนแทนพ่อจนตัวเองต้องจบชีวิตลงในที่สุด!??

ด.ญ.ธนิพร ทองย้อย อายุ 6 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนวัดบ่อเงิน คือเหยื่อกระสุนของผู้ใหญ่ขาดสติ เห็นพ่อทะเลาะอยู่กับคู่อริอย่างรุนแรง จนกระทั่งเหตุการณ์บานปลายถึงขั้นคู่กรณีชักปืน .38 ออกมาจ่อยิง


ด้วยความรักพ่อน้องธนิพรจึงวิ่งปราดเข้าไปกอดพ่อ พลางร้องตะโกนเสียงหลงว่า "อย่ายิงพ่อหนู"



จนในที่สุดตัวเองต้องตกเป็นเหยื่อกระสุนแทน!??



เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นตอนบ่ายวันที่ 11 ก.ค. บรรยากาศที่บ้านเลขที่ 140 ม.13 ต.โพธิ์เก้าต้น อ.เมือง จ.ลพบุรี เกิดความตึงเครียดขึ้นมาทันที เมื่อนายไพรวัลย์ หอมทรัพย์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86/2 ม.13 ต.โพธิ์เก้าต้น อ.เมือง จ.ลพบุรี ซึ่งนั่งล้อมวงกินเหล้าอยู่กับเพื่อนๆ เกิดเจอกับนายโอภาส อ่อนเงิน อายุ 27 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 ต.โพธิ์เก้าต้น อ.เมือง จ.ลพบุรี ที่ผ่านมาทำธุระแถวนั้นพอดี


ด้วยความที่ไม่ชอบขี้หน้ากันมานานแล้ว เพราะก่อนหน้านี้นายไพรวัลย์

ถูกตำรวจบุกค้นบ้านหายาเสพติดและรู้ทีหลังว่าคนแจ้งเบาะแสคือผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านคนนี้

ทั้งคู่จึงเปิดศึกน้ำลายเข้าใส่กัน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความสนใจให้กับด.ญ.ธนิพร ลูกสาวนายไพรวัลย์ที่วิ่งเล่นอยู่แถวนั้นยิ่งนัก เมื่อเห็นพ่อทะเลาะกับคนอื่นจึงวิ่งเข้ามาดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น


จังหวะนั้นด.ญ.ธนิพรเห็นว่าอาจจะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับพ่อ ด้วยสัญชาตญาณของความเป็นลูกจึงวิ่งเข้าไปสวมกอดพ่อเอาไว้ พร้อมร้องตะโกน "อย่ายิงพ่อหนู"

แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อนายโอภาสเกิดลุแก่อารมณ์ ชักอาวุธปืน .38 คู่กายออกมาจากเอวยกปากกระบอกปืนเล็งไปที่นายไพรวัลย์ ที่ยืนท้าทายอยู่ตรงหน้า


แต่เสียงอ้อนวอนของหนูน้อย มิอาจยับยั้งอารมณ์โกรธของนายโอภาสได้ เสี้ยววินาทีนั้นนายโอภาส ได้สับไกลั่นกระสุนไปถูกหนูน้อยเข้าอย่างจัง จนล้มทรุดฮวบลงไปกองกับพื้น




กระสุน .38 พุ่งตรงเข้าเจาะเอวด้านซ้ายทะลุขวา เลือดทะลักอกมาเป็นลิ่มๆ ร่างของหนูน้อยกระตุกเฮือกตามจังหวะหายใจ

ก่อนกระซิบประโยคสุดท้าย ว่า "พ่อจ๋า แม่จ๋า ช่วยหนูด้วย หนูทนไม่ไหวแล้ว" แล้วหมดสติไป นอกจากนี้ คมกระสุนยังทะลุทะลวงไปถูกโคนขาซ้ายของนายไพรวัลย์ ได้รับบาดเจ็บไปอีกราย

ระหว่างนั้นชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ช่วยกันหามร่างสองพ่อลูกส่งโรงพยาบาลเบญจรมณ์ แต่ด.ญ.ธนิพรทนพิษบาดแผลไม่ไหว สิ้นใจตายระหว่างทาง ส่วนนายโอภาสมือปืนผู้ลั่นกระสุนสังหาร อาศัยช่วงจังหวะชุลมุนหลบหนีไป


หลังเกิดเหตุพ.ต.อ.พงษ์เดช แพทย์เจริญ ผกก.สภ.ต.ท่าหิน พ.ต.ต.อลงค์เดช สะอาดบัว สารวัตรเวรฯ เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ

สอบปากคำพยานแวดล้อม ซึ่งปฐมเหตุของการยิงกันครั้งนี้ นายไพรวัลย์อ้างว่า เกิดจากการที่ตนเองไปสอบถามนายโอภาสเรื่องที่ไม่มีชื่อในการสำรวจทะเบียนบ้าน เลยไม่ได้รับการช่วยเหลือจากโครงการช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากของอบจ. ที่กำลังจะเอาของไปแจกชาวบ้านในเร็ววันนี้ จนเกิดมีปากเสียงกับนายโอภาสแล้วจึงเกิดการยิงกัน แต่ลูกสาวต้องมารับกระสุนแทน

ตำรวจขออนุมัติหมายจับนายโอภาสทันที



แต่ก่อนที่ตำรวจจะตามตะครุบมือปืนรายนี้ไว้ได้ เช้าวันรุ่งขึ้นนายโอภาสเดินทางเข้ามอบตัวกับพ.ต.อ.อุดมชัย อมาตยกุล รอง ผบก.ภ.จว.ลพบุรีที่สภ.ต.ท่าหิน พร้อมให้การรับสารภาพตลอดข้อหา ยอมรับว่าเสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ที่ทำไปเพราะตนเองเป็นฝ่ายถูกด่า ทั้งๆ ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่รวบรวมรายชื่อคนจนให้กับทางการ

ที่สำคัญไม่ได้ตั้งใจยิงเด็กเพราะตอนนั้นเป็นช่วงชุลมุน

"ผมไม่ได้ตั้งใจยิงใคร เพียงแต่จะขู่นายไพรวัลย์เท่านั้น เพราะว่าวันนั้นนายไพรวัลย์กำลังกินเหล้าอยู่กับเพื่อนๆ และอยู่ในอาการมึนเมา ประกอบกับนายไพรวัลย์ไม่ชอบขี้หน้าผมอยู่แล้ว สาเหตุเกิดจากการที่ผมเป็นสมาชิกแจ้งข่าวอาชญากรรม เคยแจ้งตำรวจให้มาค้นบ้านนายไพรวัลย์ เพราะสงสัยว่าจะมียาบ้าซุกซ่อนอยู่ เพราะนายไพรวัลย์เคยติดคุกในคดียาบ้ามาแล้ว 2 ครั้ง เพิ่งพ้นโทษออกมา การค้นบ้านในวันนั้นไม่พบยาบ้า แต่พบปืนเถื่อน เลยทำให้นายไพรวัลย์ผูกใจเจ็บตลอดมา"

"เมื่อเจอนายไพรวัลย์ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมา เขาก็ด่าผมอย่างหยาบคาย และท้าทายต่างๆ นานา พร้อมกับถือขวดและอุ้มไหเหล้าลุกขึ้นยืน ผมกลัวถูกทำร้ายจึงชักอาวุธปืน .38 ออกมาขู่ แต่ปืนเกิดลั่นขึ้นมา เป็นจังหวะเดียวกับด.ญ.ธนิพรวิ่งเข้ามาพอดี เลยถูกกระสุนเข้าอย่างจัง"

คือคำกล่าวอ้างของมือปืนรายนี้



ตำรวจนำตัวนายโอภาสไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางความสนใจของชาวบ้านที่เห็นใจทั้งสองฝ่าย ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุนายโอภาส ได้โยนทิ้งริมคลองระหว่างการหลบหนี

หลังทุกอย่างผ่านไป นายโอภาสถึงกับร่ำไห้ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ทำลงไป บอกว่าสงสารเด็กและขอรับผิดชอบเป็นธุระจัดการเรื่องศพน้องธนิพรตามประเพณี

คดีนี้ตำรวจให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ทำเรื่องคัดค้านการประกันตัวนายโอภาส และจะสรุปสำนวนส่งฟ้องให้เร็วที่สุด ขณะที่ทางอำเภอเมืองลพบุรีมีคำสั่งปลดนายโอภาสออกจากตำแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เพื่อให้เกิดความยุติธรรมในการดำเนินคดี

ส่วนในเรื่องที่นายไพรวัลย์มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดนั้น ทางตำรวจพอมีข้อมูลอยู่แล้ว จะได้ทำการสอบสวนขยายผลอีกครั้ง แต่ในคดีนี้นายไพรวัลย์เป็นผู้เสียหาย จึงต้องดำเนินการไปตามนั้น

การตายของด.ญ.ธนิพร สร้างความเศร้าเสียใจให้ญาติพี่น้องยิ่งนัก เนื่องจากหนูน้อยกำลังอยู่ในวัยน่ารัก เป็นที่รักใคร่ของใครๆ ทุกคนในย่านนี้

ต้องมาตายเพราะอารมณ์ผู้ใหญ่จนได้



แหล่งที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์