ญาติแพะคดีฆ่าเมียอธิบดีอัยการบนหัวหมู 106 หัว

เมื่อเวลา 17.30 น. วันนี้ (11 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวมาว่า ที่บ้านพักของ นายเจน - นางสุจิตร นวลจีน

เลขที่ 160/2 หมู่ 11 ต.บ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นบิดาและมารดาของ นายวินัย นวลจีน อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาคดีฆ่า นางอุนิตา ยิ้มสินสมบูรณ์ ภรรยานายจรัญ ยิ้มสินสมบูรณ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว สำนักอัยการสูงสุด มีบรรดาญาติและชาวบ้านที่ทราบข่าวว่า ตำรวจจับกุมตัว นายธนพงษ์ หรือ บัติ ทิศแสง อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101/329 หมู่ 7 แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กรุงเทพฯ ฆาตกรโหดตัวจริงได้แล้ว พากันไปสอบถามข้อเท็จจริง แต่ไม่พบนายเชน และนางสุจิตร ซึ่งเดินทางไปพบทนายความในตัวเมืองพิษณุโลก ทำให้ผิดหวังไปตาม ๆ กันรวมทั้งบรรดาสื่อมวลชนที่ไปเฝ้ารอสัมภาษณ์เพื่อเสนอข่าว 
 

อย่างไรก็ตาม นายเจน บิดาของนายวินัย ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวไทยรัฐก่อนหน้านี้


ว่า ญาติทุกคนรวมทั้งอาจารย์ที่เคยสอนและเพื่อน ๆ นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา สาขาเครื่องจักรกลทางการเกษตรด้วยกันทุกคน เชื่อว่า ลูกชายของตนบริสุทธิ์ แต่เกรงว่าผลการตรวจดีเอ็นเอของคราบเลือดที่พบที่เล็บนิ้วของลูกชายของตนทั้ง 10 นิ้ว จะไม่ชอบมาพากล แม้จะเป็นการตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ก็ตาม เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ ผลตรวจเบื้องต้น ระบุได้ว่าเป็นเลือด แต่ไม่รู้ว่าเลือดสัตว์ หรือ เลือดมนุษย์ เนื่องจาก ลูกชายของตนไม่ได้กระทำผิด แต่ตำรวจบอกว่าลูกชายตนเซ็นรับสารภาพแล้ว ตนก็ไม่รู้ว่าเหตุผลกลใดลูกชายจึงยอมเซ็นชื่อรับสารภาพ ดังนั้นบรรดาญาติพี่น้องจึงต้องพึ่งบารมีองค์หลวงพ่อพระพุทธชินราช และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่แต่ละคนนับถือ รวมทั้งเจ้าที่เจ้าทาง ด้วยการบนหัวหมู นับรวมกันแล้วที่บนไปเป็นหัวหมูทั้งหมดตอนนี้ประมาณ 106 หัว สิ่งของอื่น ๆ อีกจำนวนมาก
 


นายเจน กล่าวอีกว่า ในการทำแผนประกอบคำรับสารภาพของตำรวจเมื่อวานนี้ ตนไม่ได้ไปดูเพียง แต่ไปดูหน้านายธนพงษ์ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก


พร้อมกับนางสุจิตรผู้เป็นภรรยา อย่างเงียบ ๆ ไม่ได้แสดงตนแต่อย่างใด สิ่งที่ตนอยากได้รับความเป็นธรรมในขณะนี้ก็คือ ขอให้ตำรวจปล่อยตัวลูกชายของตนออกมาจากเรือนจำโดยเร็ว และทันทีที่ผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอมาถึง แล้วปรากฏว่าลูกชายของตนไม่มีความผิด ตนและภรรยารวมทั้งญาติพี่น้องจะไม่เอาผิดกับตำรวจ จะไม่มีการฟ้องร้องใด ๆ เพราะไม่อยากขึ้นศาล เสียเวลาทำมาหากิน แต่ทางตำรวจต้องให้ความเป็นธรรม ถ้าลูกตนพ้นผิด ต้องมีการแถลงข่าวเพื่อให้ลูกตนขาวสะอาด แม้จะไม่เหมือนเดิมแต่ก็ขอให้อยู่ในสังคมได้ ที่สำคัญลูกของตนจะต้องซ้อมรับปริญญาในวันที่ 19 มี.ค. และรับพระราชทานปริญญาบัตรในวันที่ 24 มี.ค.2552 หากคดียังไม่สิ้นสุดก็คงหมดโอกาสและเสียอนาคตไปในที่สุด หากเป็นเช่นนั้นใครจะรับผิดชอบ

เพราะตนมีพยานหลักฐานหลายอย่างรวมทั้งพยานบุคคลที่สามารถยืนยันได้ว่า ช่วงเกิดเหตุลูกของตนอยู่ที่ไหนกับใคร และเลือดที่พบคือเลือดอะไร ตอนนี้ตนยังไม่อยากระบุจนกว่าผลการตรวจดีเอ็นเอจะมาถึงมือพนักงานสอบสวนก่อน


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์