ญาติเหยื่อรถไฟตรังยังทำใจไม่ได้กับเหตุสลด

        เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตรัง ได้เดินทางไปยังสมาคมชาวย่านตาขาว ริมถนนสายตรัง-ปะเหลียน เขตเทศบาลตำบลย่านตาขาว อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ นางอรพินน์ ใจจิตร อายุ 44 ปี และเด็กหญิงกนกลักษณ์ หรือ น้องออม ถาวรบุญเรือง อายุ 1 ปี 11 เดือน 2 ใน 7 เหยื่อที่เสียชีวิตลงจากเหตุการณ์รถไฟ ขบวนรถเร็วที่ 84 ตรัง-กรุงเทพฯ วิ่งตกรางที่สถานีรถไฟเขาเต่า อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 5 ตุลาคม 2552 ที่ผ่านมา โดยคณะญาติพี่น้องได้นำศพทั้ง 2 คน กลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านเกิด บรรยากาศทั่วไปเป็นไปอย่างเศร้าสลด เนื่องจากครอบครัวและญาติพี่น้องยังทำใจไม่ได้ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ต้องมาสูญเสียคนในครอบครัวคราวเดียวกันถึง 2 ราย

        นายฉัตรชัย วงศ์ตัดล่อง ซึ่งเป็นบุตรชายของ นางอรพินน์ กล่าวว่า ตนเองต้องสูญเสียแม่ และน้องออม ซึ่งเป็นญาติลูกพี่ลูกน้องไปอย่างไม่มีวันกลับ โดยแม่ของตนเป็นคนที่เลี้ยงดูน้องออมเอง ฉะนั้น โดยส่วนตัวจึงถือว่าน้องออม เป็นน้องคนเล็กสุด และกำลังอยู่ในวัยน่ารัก เป็นขวัญใจหัวแก้วหัวแหวนของตนและของครอบครัว ถือเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของครอบครัว มาถึงเวลานี้ทุกคนยังทำใจไม่ได้ต่อเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้ทางครอบครัวจะได้รับเงินช่วยเหลือมาบ้าง แต่ก็ไม่สามารถเทียบเท่าได้กับความสูญเสียที่ครอบครัวของตนได้รับ และอยากให้ผู้รับผิดชอบแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้เหตุการณ์รถไฟตกรางครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย

        นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า นอกจากนั้น นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นางภาวิณี อินทุสุต นายกเหล่ากาชาดจังหวัดตรัง และนายปลื้ม ดวงสุวรรณ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง ก็ยังได้เดินทางมาสมาคมชาวย่านตาขาว เพื่อนำพวงหรีดไปเคารพศพ นางอรพินน์ และน้องออม เพื่อแสดงความไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิต พร้อมมอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่งให้ ในนามผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เหล่ากาชาดจังหวัดตรัง และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง แต่การช่วยเหลือจากส่วนอื่นๆ นั้นยังไม่มี ซึ่งก็ไม่รู้ว่าท้ายที่สุดแล้วจะมีการดำเนินการอย่างไร