ญาติร้อง บิ๊กตู่ รื้อคดีเสี่ยรับเหมา จ่อเรียกบรรยิน-สาวปริศนาสอบ

ญาติร้อง บิ๊กตู่ รื้อคดีเสี่ยรับเหมา จ่อเรียกบรรยิน-สาวปริศนาสอบ


16 ก.ค. 58 เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงาน ก.พ. นายกันต์ แซ่ตั๊ง ลูกชายนายชูวงษ์ แซ่ตั้ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์ที่มี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ เป็นผู้ขับรถ พร้อมด้วย นางศิริรัตน์ แซ่ตั้ง ภรรยาผู้ตาย นางวันเพ็ญ ธนธรรมศิริ พี่สาวผู้ตาย และทนายความ เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. เพื่อขอให้สืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการตายของนายชูวงษ์ เนื่องจากยังมีข้อสงสัยสาเหตุการตายว่าเป็นการประสบอุบัติเหตุหรือตายเพราะแรงจูงใจในเรื่องทรัพย์สินเงินทองของผู้ตายหรือไม่ เพราะระยะเวลาก่อนหน้านี้ 10 วัน ทางบริษัทหลักทรัพย์แจ้งว่าผู้ตายได้โอนหุ้นในนามผู้ตายเข้าบัญชีหุ้นของผู้หญิงสองคน เป็นเงินประมาณ 300 ล้านบาท โดยทราบภายหลังว่า หญิงสาวทั้งสองคนเป็นตัวแทนของ พ.ต.ท.บรรยิน จึงเป็นชนวนให้เกิดความเคลือบแคลงว่า การตายเป็นการกระทำโดยประมาทหรือจงใจ

ขณะที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้สอบนิติวิทยาศาสตร์ให้ชัดเจน ตนเป็นผู้ดูแลเรื่องสำนวนคดีเอง และได้เรียกสำนวนคดีจาก สน.อุดมสุข มาตรวจสอบ เบื้องต้นจากการดูสำนวนคดีและจากผลนิติวิทยาศาตร์ยังไม่พบพิรุธสาเหตุการตายยังน่าเชื่อว่าเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เพราะแพทย์ยืนยันว่าเสียชีวิตจากกระดูกต้นคอหัก ส่วนสาเหตุการหักก็ต้องทำการสอบสวนใหม่ให้ละเอียดอีกครั้ง และต้องไปสอบสวนญาติผู้ตายอีกว่าติดใจสงสัยประเด็นอะไรบ้าง แต่ตอนนี้ญาติยังไม่ได้มาพบก็เอาข้อมูลที่สงสัยไปสอบถามทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งก็ต้องไปสอบปากคำทางญาติผู้ตายเพิ่มเติม ทั้งนี้ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. เป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องการสืบสวนคลี่คลายคดี คาดว่าต้องใช้เวลาสืบสวนสอบสวนสาเหตุการตายสักระยะ

เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสงสัยการเสียชีวิตเป็น 2 ประเด็น การตายแบบผิดธรรมชาติและการโอนหุ้น พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า โอนหุ้นมันต้องดูอีกเพราะมันคนละเรื่องกับการตาย ถ้าผู้ตายโอนหุ้นไปเพื่อหลบเลี่ยงกฎหมายก็ถือว่ามีความผิด ก็ต้องดำเนินคดีไปอีกส่วนหนึ่ง ต้องถามว่าคนตายโอนหุ้นไปเพราะเหตุใด สุดท้ายพอทำสำนวนขึ้นมา ผู้ตายและญาติผู้ตายอาจถูกดำเนินคดีทางแพ่ง เพราะโอนหุ้นแยกออกไป 200 กว่าล้าน มันต้องมีวัตถุประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง หากสอบสวนพบว่ามีความผิดคือโอนหุ้นไปโดยเท็จ ตาม พ.ร.บ.หุ้น ก็ต้องดำเนินดคีกับคนตายอีก

ด้าน พล.ต.ต.ชาญเทพ กล่าวว่า คดีนี้อยู่ระหว่างดำเนินการสืบสวนในเรื่องการเสียชีวิตว่า เสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุ หรือสาเหตุอื่น ซึ่งก็ต้องเชิญตัว พ.ต.ท.บรรยิน มาสอบสวนเพิ่มเติมเพราะเป็นผู้ขับขี่รถ ซึ่งตอนนี้ก็โดนแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนจะเป็นการฆาตกรรมหรือไม่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนเรื่องที่ญาติมีข้อสงสัยเรื่องประเด็นการโอนหุ้นให้หญิงสาว 2 ราย ญาติได้ไปร้องเรียนที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ซึ่ง บก.ป. ก็จะสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องการโอนหุ้น โดยในวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย.) เวลา 14.00 น. ตนจะเดินทางไปประชุมคลี่คลายคดีดังกล่าวกับชุดสืบสวนที่ สน.อุดมสุข ต่อไป ทั้งนี้มีรายงานว่าในวันนี้ (16 ก.ค.) เวลา 16.00 น. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. จะเดินทางไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุเพื่อนำหลักฐานมาร่วมคลี่คลายคดีด้วย

นอกจากนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า ในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังไปตรวจสอบเอกสารทางธุรกรรมของนายชูวงษ์ที่สำนักงาน พร้อมกับทำการสอบปากคำพนักงานโบรกเกอร์โอนหุ้นจำนวน 4 ราย เพื่อตรวจสอบหาความผิดปกติในการทำธุรกรรม โดยเฉพาะลายเซ็นในเอกสารการโอนหุ้นที่นายชูวงษ์ได้เซ็นไว้นั้นเป็นลายเซ็นของนายชูวงษ์จริงหรือไม่ ตามที่ญาติและครอบครัวของผู้ตายติดใจสงสัยในประเด็นดังกล่าว เบื้องต้นจากการตรวจสอบในวันนี้ยังไม่พบความผิดปกติใดๆ ส่วนกรณีของลายเซ็นนั้นจากการประเมินเบื้องต้นพบว่าลายเซ็นดังกล่าวมีลักษณะคล้ายกับลายเซ็นของผู้ตายจริง แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ในตอนนี้ ซึ่งอาจต้องส่งให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจต่อไป

รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมอีกว่า ขณะที่ในส่วนของบุคคลที่ 3 ซึ่งเป็นผู้ได้รับการโอนหุ้นมูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท จากนายชูวงษ์ นั้น ล่าสุดได้มีการออกหมายเรียก ให้มาเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบที่ไปที่มาของการโอนหุ้นดังกล่าวแล้ว โดยคาดว่าจะเดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในวันที่ 18 ก.ค. ที่จะถึงนี้

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์