ญาตินศ.วิศวะไม่เชื่อฆ่าตัวตายพ่อแม่เผยก่อนตายถูกกีดกันรักแถมขู่ฆ่า

"ไม่เชื่อลูกโดดตึกตาย"


พ่อแม่นิสิตวิศวะไม่เชื่อกระโดดตึกตาย ตั้งข้อสงสัยชั้น 10 ไม่พบกระจกแตก-สภาพศพไม่มีเลือดออกปากจมูก เผยก่อนตายลูกคบหาสาวคนหนึ่งแต่ถูกพ่อแม่ฝ่ายหญิงกีดกัน แถมส่งคนมาขู่ให้เลิกคบ ไม่งั้นจะตบให้ตกตึก ยันไม่ติดใจคดี แค่ต้องการให้ลูกสงบ

จากกรณีที่นายกิตติพันธ์ บำรุงการ หรือ น้องเอ็กส์ อายุ 24 ปี นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาการสำรวจ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กระโดดจากชั้น 10 ตึกหอพักเสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์นั้น เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 47/1 หมู่ 4 ต.วิสัยเหนือ อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งเป็นที่ตั้งร้านวิสัยคาร์แคร์ พบกับนายมาโนช นางอรอุมา บำรุงการ พ่อแม่ของนายกิตติพันธ์ ในสภาพที่อิดโรย และโศกเศร้า

นายมาโนช อายุ 50 ปี พ่อผู้ตาย กล่าวว่า ข่าวหลายกระแสออกมาไม่ตรงกับความเป็นจริงเท่าที่ควร หากถามว่าเสียใจหรือไม่กับการจากไปของลูกชาย ต้องบอกว่าเสียใจที่สุด แต่หากจะถามว่าลูกเครียดจากการเรียนจนฆ่าตัวตายนั้น ยังรับไม่ได้ เพราะทราบดีว่าลูกชายมีนิสัยอย่างไร เรียนเก่งพูดคุยสนุกกับทุกคน แต่ไม่ชอบเอะอะแบบผู้ชายทั่วไป

"หากคิดจะฆ่าตัวตายต้องมีเหตุมาก่อนบ้าง แต่นี้ไม่มีเลย ก่อนหน้านี้เป็นไข้เลือดออกและล้มหน้ากระแทกพื้น ฟันหน้าหัก 3 ซี่ จนเมื่อ 3-4 วันก่อนตายยังโทรศัพท์มาขอเงินแม่ 8,000 บาท เพื่อขอไปทำฟัน แล้วอย่างนี้หรือที่จะเตรียมการฆ่าตัวตาย เพราะเครียดเรื่องการเรียน" พ่อผู้ตาย กล่าว

"สภาพเหมือนจัดฉาก"


นายมาโนช กล่าวอีกว่า จากที่ได้ไปดูที่เกิดเหตุ บางคนบอกเหมือนกับตาเห็น บางคนอธิบายได้อย่างดีเหมือนมีการจัดฉาก และบนพื้นที่ตกก็ห่างจากแนวดิ่งของตึกมากด้วย ที่สำคัญเลือดไม่ออกจากปาก หู จมูกเลยเมื่อตกถึงพื้นตามหลักวิทยาศาสตร์ ซึ่งญาติที่เป็นหมอเล่าให้ฟังว่า เลือดจะต้องออกมากกว่านี้ แต่หากตายก่อนตกตึก เลือดจะไม่มี ที่สำคัญตกลงมาในสภาพที่ร่างกายไม่มีการแตกหักมากนัก มีเพียงแขนหัก ตามตัวไม่มีรอยกระจกเหมือนกับที่บางคนบอกว่ามีเสียงกระจกแตก นอกจากนี้ลูกชายพักชั้น 3 แต่ตกจากชั้น 10 จึงน่าสงสัยว่าขึ้นไปทำไม โทรศัพท์เพลินถึงชั้น 10 เลยหรือ

ด้าน นางอรอุมา อายุ 48 ปี แม่ของผู้ตาย เล่าไปร้องไปด้วยความเสียใจว่า ภาพที่เห็นในวันนั้นมองว่าไม่ใช่ลูกเพราะอยู่ในสภาพบวมมากๆ ทั้งที่ตายเพียงไม่กี่ชั่วโมง คิดว่าไม่เชื่อเหตุผลของการฆ่าตัวตายตามที่หลายคนบอก แต่ไม่กล้าพูดในเวลานั้น

"ลูกเคยเล่าให้ฟังว่า มีลูกสาวของประธานกรรมการบริษัทแห่งหนึ่งมาชอบพอกันชื่อน้องลี แต่เมื่อไม่นานมานี้ พ่อแม่ของฝ่ายหญิงทราบเรื่อง จึงให้ตำรวจและนักสืบมาสืบสภาพครอบครัวของน้องเอ็กส์ และรู้ถึงขนาดว่ามีน้องสาวเรียนสถาบันไหน ซึ่งลูกบอกว่า พ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่ชอบ พยายามกีดกัน" นางอรอุมา กล่าว

"เชื่อตายก่อนตกจากตึก"


นางอรอุมา กล่าวต่อว่า ได้พยายามบอกว่าอย่าไปสนใจ แต่ลูกชายก็ไม่ยอม เพราะนิสัยลูกชายหากกีดกันก็จะสู้ จนเมื่อไม่นานมานี้ลูกชายได้โทรมาบอกว่ามีตำรวจโทรมาหาและขู่ว่า "หากยังขืนยุ่งกับน้องลี กูจะตบให้ตกตึกเลยมึง" ทำให้กลัวว่าลูกจะมีอันตราย จึงขึ้นมากรุงเทพฯ และมาพูดกับอาจารย์ขอให้ช่วยดูแลลูก

ต่อมาทราบว่าญาติของผู้หญิงได้แจ้งความไว้ที่ สน.ปทุมวัน และให้ตำรวจสายสืบชื่อ ด.ต.วิจักร มาเฝ้าติดตามพฤติกรรมของลูก บางครั้งทราบว่า ขนาดลูกชายจะใช้โทรศัพท์ ก็ยังต้องใช้ของตำรวจ

แม่ผู้ตาย กล่าวว่า ไม่ต้องการจะมีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลเพราะลูกตายไปแล้ว แต่ที่พูดเพราะมั่นใจว่าลูกชายไม่ได้กระโดดตึกตายเท่านั้น น่าจะมีสาเหตุอื่น โดยเฉพาะจุดเกิดเหตุที่ตำรวจบอกว่าลูกได้เดินขึ้นไปบนชั้น 10 แต่ชั้น 10 ไม่มีรอยกระจกแตกหรืออะไรที่บ่งบอกว่าได้มีการทุบเพื่อกระโดด และตึกมีชั้นที่ 9 เท่านั้นที่มีหน้าต่าง และสิ่งของที่แตกกระจายในลักษณะของการทำลายแสดงถึงการจงใจทำ เชื่อว่าน่าจะตายก่อนจะตกลงมา

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์