ญาติจี้ล่ามือมีดฆ่าแคชเชียร์

พ่อแม่ร่ำไห้ร้องขอความเป็นธรรม ลูกสาวทำงานเป็นแคชเชียร์โรงแรมดังเมืองตรังถูกคนร้ายแทงเสียชีวิต ระทมตำรวจจับคนร้ายไม่ได้ ทั้งที่รู้ว่าเป็นใคร เก็บศพไว้นานกว่าเดือน หวังนำคนร้ายมาขอขมาศพ สุดท้ายใกล้ถึงวันเผาคดีก็ยังไม่คืบ ร้อง"ข่าวสด"ช่วยจี้ตำรวจ ระบุคนร้ายมีญาติเป็นอดีตตำรวจ เคยมาขอเจรจา พร้อมรับปากจ่ายเงินช่วยเหลือ 3 แสน สุดท้ายหายเข้ากลีบเมฆ รองผกก.ตั้งรางวัลนำจับ 2 พันให้แก่ผู้แจ้งเบาะแส ลั่นไม่มีมวยล้ม หากอดีตตร.ญาติคนร้ายมีส่วนช่วยเหลือพามือมีดหนีจริง จะดำเนินคดีไม่ไว้หน้า

เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 13.00 น. พ่อแม่และญาติพี่น้องของน.ส.ทัศนีวรรณ ศรีสุวรรณ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/2 หมู่ที่ 3 ต.นาท่ามใต้ อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นพนักงานแคชเชียร์โรงแรมธรรมรินทร์ ธนา โรงแรมใหญ่ที่สุดของจ.ตรัง เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนด้วยน้ำตานองหน้า ภายในงานเผาศพของน.ส.ทัศนีวรรณ ที่วัดศรีสุวรรณาราม หรือวัดพ่อท่านคลิ้ง ต.นาท่ามใต้ อ.เมือง ตรัง หลังจากถูกคนร้ายใช้มีดแทงจนเสียชีวิต เมื่อคืนวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา เหตุเกิดที่บริเวณริมถนนภายในซอยจำปี บนถนนเพลินพิทักษ์ ต.ทับเที่ยง ในเขตเทศบาลนครตรัง

สืบเนื่องจากขณะที่น.ส.ทัศนีวรรณขี่รถจักรยานยนต์ออกมาซื้อของหน้าปากซอย แต่ถูกนายสมเกียรติ รักษารักษ์ อายุ 25 ปี ชาวหมู่บ้านหินคอกควาย ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ที่มาคอยดักรออยู่ แล้วโบกให้จอดรถเพื่อพูดคุยตกลงทำความเข้าใจกัน หลังจากที่ผ่านมา นายสมเกียรติพยายามติดตามขอความรักจากน.ส.ทัศนีวรรณมานานหลายปี แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมเล่นด้วย ครั้งล่าสุด น.ส.ทัศนีวรรณตอบปฏิเสธความรักอีก ทำให้นายสมเกียรติเกิดความโมโห ชักมีดออกมาแทงน.ส.ทัศนีวรรณเข้าที่บริเวณใต้รักแร้ขวา 1 แผล จนเสียชีวิต

หลังจากเกิดเหตุ 2 วัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อ.เมืองตรังออกหมายจับนายสมเกียรติ ผู้ต้องหารายนี้ทันที ดังนั้น พ่อแม่และญาติพี่น้องของน.ส.ทัศนีวรรณจึงตัดสินใจเก็บศพเอาไว้ เพื่อรอการจับกุมตัวผู้ต้องหา และจะนำตัวมาขอขมาศพผู้ตาย แต่หลังจากระยะเวลาผ่านพ้นไปประมาณ 1 สัปดาห์ ญาติของผู้ต้องหาซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นประทวนนายหนึ่ง สังกัดสภ.อ.เมืองตรัง เดินทางมาพบกับญาติของผู้ตายเพื่อพูดคุยและเสนอจ่ายเงินช่วยเหลือให้ 300,000 บาท แต่ขอให้ทางฝ่ายของน.ส.ทัศนีวรรณยุติเรื่องการติดตามคดี

อย่างไรก็ตาม ต่อมาทางญาติของผู้ต้องหาเงียบหายไป ดังนั้น บรรดาพ่อแม่และญาติพี่น้องของผู้ตายจึงเดินทางมาสอบถามความคืบหน้าของรูปคดี แต่ไม่ได้รับคำตอบใดๆ จากทางสภ.อ.เมือง ตรัง เกรงว่าคดีนี้จะเงียบหายไป เนื่องจากทราบว่าผู้ต้องหามีญาติเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งที่คอยให้ความช่วยเหลือในการหลบหนี ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยกันอาจไม่กล้าจับกุมตัวมาดำเนินคดี

ด้านพ.ต.ท.สพชัย พึ่งพา รองผู้กำกับการ ฝ่ายสืบสวนสอบสวน(สส.)สภ.อ.เมืองตรัง กล่าวถึงคดีนี้ว่า ตนมอบหมายให้ชุดสืบสวนออกติดตามตัวผู้ต้องหารายนี้แล้ว ทราบว่ายังคงหลบหนีอยู่ และก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้

หากญาติของผู้ตายหรือบุคคลใดพบเห็น หรือทราบเบาะแสของผู้ต้องหา สามารถแจ้งรายละเอียดมาได้ที่สภ.อ.เมือง ตรัง หรือแจ้งมายังตนเองได้โดยตรง ซึ่งยินดีจะมอบเงินให้เป็นขวัญกำลังใจ สำหรับผู้ที่ให้ความร่วมมือในการสะสางคดีทันที 2,000 บาท

พ.ต.ท.สพชัยกล่าวต่อว่า หากมีการจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ได้เมื่อไหร่ และผลการสอบสวนโยงใยไปถึงอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกทางฝ่ายญาติผู้ตายกล่าวหานั้นว่าเข้าไปช่วยเหลือผู้ต้องหาในการหลบหนีคดีจริงก็จะต้องมีความผิดและถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ข้อหาให้ความช่วยเหลือและให้ที่พักพิงแก่ผู้ต้องหา ตนจะไม่ไว้หน้า แม้ในอดีตจะทำงานในสังกัดเดียวกันก็ตาม

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด