29 ก.ย. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกสังคมออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพวีรกรรมของตำรวจตระเวนชายแดน อ.อุ้มผาง จ.ตาก
เจ้าหน้าที่สุขศาลาพระราชทานแม่จันทะ และชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งให้การช่วยเหลือหญิงตั้งครรภ์ 6 เดือน มีอาการตกเลือดต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน แต่ด้วยเส้นทางที่ทุรกันดาร จึงต้องช่วยกันหามเปลผู้ป่วย ออกเดินเท้าจากบ้านแม่จันทะ ผ่านเส้นทางทุรกันดารไปส่งโรงพยาบาล เป็นเวลานานกว่า 12 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่สุขศาลาพระราชทานแม่จันทะ และชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งให้การช่วยเหลือหญิงตั้งครรภ์ 6 เดือน มีอาการตกเลือดต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน แต่ด้วยเส้นทางที่ทุรกันดาร จึงต้องช่วยกันหามเปลผู้ป่วย ออกเดินเท้าจากบ้านแม่จันทะ ผ่านเส้นทางทุรกันดารไปส่งโรงพยาบาล เป็นเวลานานกว่า 12 ชั่วโมง
โดยจุดเริ่มต้นของวีรกรรมครั้งนี้ ถูกแชร์มาจากเฟซบุ๊ก "ตำรวจชายแดน อุ้มผาง"
ซึ่งโพสต์ให้ข้อมูลสั้นๆ เกี่ยวกับภารกิจช่วยเหลือหญิงตั้งครรภ์ตกเลือดไว้ 2 เหตุการณ์ โดยหลังจากโพสต์เรื่องดังกล่าวไปไม่นาน ก็ถูกแชร์ต่อไปอย่างรวดเร็ว ทำให้มีการติดตามและตีแผ่เรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อสาธารณชน
ซึ่งโพสต์ให้ข้อมูลสั้นๆ เกี่ยวกับภารกิจช่วยเหลือหญิงตั้งครรภ์ตกเลือดไว้ 2 เหตุการณ์ โดยหลังจากโพสต์เรื่องดังกล่าวไปไม่นาน ก็ถูกแชร์ต่อไปอย่างรวดเร็ว ทำให้มีการติดตามและตีแผ่เรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อสาธารณชน
วีรกรรมของ ตชด.อุ้มผาง ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน บ้านแม่จันทะ หมู่ 8 ต.แม่จัน อ.อุ้มผาง จ.ตาก ได้มีชาวบ้านเข้ามาแจ้งที่สุขศาลาพระราชทานบ้านแม่จันทะ ว่ามีผู้ป่วยตั้งครรภ์ประมาณ 6 เดือน มีอาการตกเลือด
ต่อมา ส.ต.ท.ชินวัตร คีรีดุจจินดา ครู ตชด. ครูพยาบาลประจำสุขศาลาพระราชทานบ้านแม่จันทะ
พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจสอบพบ น.ส.รัตติกาล จะมุ้ง อายุ 20 ปี มีอาการหน้ามืดและปวดท้องตลอดเวลา รวมถึงมีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก จึงได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น และประสานไปยัง พ.ต.ต.รณรัตน์ อมมสินสมบูรณ์ ผบ.ร้อย ตชด.347 และโรงพยาบาลอุ้มผาง เพื่อนำตัวผู้ป่วยออกมารักษาโดยเร็ว
พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจสอบพบ น.ส.รัตติกาล จะมุ้ง อายุ 20 ปี มีอาการหน้ามืดและปวดท้องตลอดเวลา รวมถึงมีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก จึงได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น และประสานไปยัง พ.ต.ต.รณรัตน์ อมมสินสมบูรณ์ ผบ.ร้อย ตชด.347 และโรงพยาบาลอุ้มผาง เพื่อนำตัวผู้ป่วยออกมารักษาโดยเร็ว
แต่ด้วยสภาพภูมิประเทศที่ไม่เอื้ออำนวย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้ผ้าใบผูกกับเสาไม้ไผ่ขนาดใหญ่ ทำเป็นเปลชั่วคราว
ลำเลียงผู้ป่วยออกมาจากพื้นที่ตั้งแต่เวลา 08.30 น. โดยต้องเดินผ่านเส้นทางทุรกันดาร ต้องกินข้าวกลางป่า บางครั้งต้องต่อแพข้ามลำห้วย รวมถึงสายฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างทุลักทุกเล อีกทั้งต้องคอยปฐมพยาบาลผู้ป่วยเป็นระยะ จนกระทั่งในเวลาประมาณ 20.50 น. รวมแล้วกว่า 12 ชั่วโมง ทีมช่วยเหลือจึงเดินทางมาถึงปากทางเข้าหมู่บ้านหม่องกั๊วะ และส่งตัวผู้ป่วยให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอุ้มผางมารับต่อไปรักษาอย่างเร่งด่วน
ลำเลียงผู้ป่วยออกมาจากพื้นที่ตั้งแต่เวลา 08.30 น. โดยต้องเดินผ่านเส้นทางทุรกันดาร ต้องกินข้าวกลางป่า บางครั้งต้องต่อแพข้ามลำห้วย รวมถึงสายฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างทุลักทุกเล อีกทั้งต้องคอยปฐมพยาบาลผู้ป่วยเป็นระยะ จนกระทั่งในเวลาประมาณ 20.50 น. รวมแล้วกว่า 12 ชั่วโมง ทีมช่วยเหลือจึงเดินทางมาถึงปากทางเข้าหมู่บ้านหม่องกั๊วะ และส่งตัวผู้ป่วยให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอุ้มผางมารับต่อไปรักษาอย่างเร่งด่วน
จากนั้นทีมแพทย์ได้ให้การช่วยเหลือสุดความสามารถ แต่เนื่องจากแม่เด็กเสียเลือดมาก ส่งผลให้บุตรในครรภ์เสียชีวิต ส่วนแม่เด็กนั้นอาการปลอดภัย
โดยต่อมาหลังผู้ใช้เฟซบุ๊ก "ตำรวจชายแดน อุ้มผาง" ได้เห็นเรื่องราวดังกล่าวถูกนำเสนอผ่านโลกออนไลน์ และได้รับการชื่นชมยกย่องเป็นจำนวนมาก จึงได้โพสต์ขอบคุณไว้ดังนี้
" ตชด.อยู่ที่ไหน ชาวบ้านอุ่นใจทุกที่"
ขอบคุณทุกท่านๆ ที่รักและห่วงพวกเรา ตชด.
เรื่องราวที่มีการ "แบกหามผู้ป่วยตกเลือดได้มีการแชร์ไปอย่างมากมาย
หนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ได้ติดต่อมายัง ผู้กองซิ้งค์ ผบ.ร้อย ตชด.347
ตัวผมเองต้องขอบคุณ พ.ต.ต.รณรัตน์ ออมสินสมบูรณ์ ผบ.ร้อย ตชด.347
และ ส.ต.ท.ชินวัตร คีรีดุจจินดา ครูตชด., ครูพยาบาลสุขศาลาพระราชทานแม่จันทะ อ.อุ้มผาง จ.ตาก ที่ได้ให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน ในเหตุการณ์ครั้งนี้
*** ที่ผมนำเสนอเรื่องนี้ ก็เพราะ ภรรยาผมเคยแท้ง ผมเสียใจมาก และผมเองก็ได้ย้ายจาก ตชด.41 ชุมพรตาม ผบ.ร้อย ตชด.347 มาอยู่อุ้มผาง พอผมทราบว่ามีผู้ป่วยตกเลือดเดินทางลำบาก ผมจึงนำเสนอเรื่องราวให้ทุกๆ ท่านได้ทราบ
ชาวบ้าน ตชด.อสม.และเจ้าหน้าที่สามัคคีกันมาก การลำเลียงผู้ป่วย ระหว่างการเดินทางต้องมีการปฐมพยาบาลเป็นระยะ พักทานข้าวกลางป่า ข้ามน้ำโดยใช้แพไม้ไผ่ แบกหามผู้ป่วยเดินบนสะพานแขวน กว่าจะถึงโรงพยาบาลอุ้มผางใช้เวลาในการเดิน 12 ชั่วโมงกว่า
***สุดท้ายแม่ปลอดภัย ลูกในครรภ์เสียชีวิต
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
