ช็อก หญิงมะกันเผยชีวิตเสพติดทำแท้ง ลูกตาย 15 คนในช่วง 17 ปี

หญิงอเมริกันออกหนังสือแฉชีวิตเหลือเชื่อ เสพติดการทำแท้ง ปล่อยลูกตาย 15 คน ในเวลา 17 ปี ขณะที่สังคมอเมริกันโจษจัน-แตกแยกหนัก บางกลุ่มประกาศประนามพฤติกรรม-ขู่เอาชีวิต

"เดลี่ เมล์"รายงานเมื่อวันที่ 14 ต.ค.ว่า นางไอรีน วิลาร์ หญิงอเมริกัน วัย 40 ปี แม่ลูกสอง

ได้ออกหนังสือสร้างความฮือฮาให้แก่สังคมสหรัฐ ชื่อเรื่อง"Impossible Motherhood :Testimony of an Abortion Addcit" หรือ"ความเป็นแม่ที่ไม่มีทางเป็นไปได้:คำให้การของผู้เสพติดการทำแท้ง"เนื้อหาระบุว่า เธอเคยเป็นโรคเสพติดการทำแท้ง ซึ่งเป็นสาเหตุให้ลูกในท้อง 15 คน ต้องเสียชีวิต ในช่วงระยะเวลา 17 ปี สาเหตุจากสามีของเธอซึ่งไม่ต้องการให้เธอมีลูก

หนังสือดังกล่าวของนางไอรีนเล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเธอแต่งงานครั้งแรก และพฤติกรรมเสพติดการทำแท้งดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เธออายุ 16 ปี ถึงอายุ 33 ปี

โดเธอได้แต่งงานกับนายเปโดร คูเปอร์แมน ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยไซคาคูเซ่ ในนิวยอร์ก ที่ไม่ต้องการมีลูก ทำให้เธอขับข้องใจเพราะไม่อยากให้สามีทิ้งเธอ แต่ก็เกิดปฎิกิริยาต่อต้านคำสั่งห้ามของสามี โดยปล่อยให้ตัวเองมีท้องโดยไม่กินยาคุมกำเนิด ก่อนจะต้องทำแท้ง และเป็นเช่นนี้ถึง 15 ครั้ง ในช่วงเวลา 17 ปี โดยในการตั้งท้องแต่ละครั้ง เธอทั้งรู้กลัวและตื่นเต้น และว่าเธอไม่ได้คิดตั้งใจจะทำแท้งครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะในแต่ครั้ง จิตสำนึกของเธอจะบอกให้ตัวเองหยุดได้แล้ว นอกจากนี้ เธอยังคิดจะฆ่าตัวตายหลายหนด้วย

นอกจากนี้ ไอรีนเล่าด้วยว่า เธอยังมีอาการถูกหลอกหลอนจากอดีต เนื่องจากย่าของเธอเคยติดคุก 25 ปี ในข้อหาพยายามโค่นล้มรัฐบาล จากเหตุการณ์บุกสภาด้วยอาวุธปืนในปี 1954 นอกจากนี้ เธอยังมีพี่น้องสองคนมีประวัติติดเฮโรอีนด้วย

"ผู้หญิงมักจะเขียนบันทึกความทรงจำเกี่ยวกับโรคอยากผอมหรือโรคกินเพื่อระบายความเครียด และอธิบายว่าอะไรเป็นแรงผลักดันพฤติกรรมเสพติดของพวกเขา หนังสือของฉันเล่มนี้ก็เช่นกัน"นางไอรีนกล่าว

รายงานระบุว่า ภายหลังการตีพิมพ์หนังสือดังกล่าว ได้ก่อให้เกิดความตกตะลึงและความแตกแยกทางสังคมอเมริกัน

ซึ่งยังคงถกเถียงถึงปัญหาการทำแท้งอยู่ในปัจจุบัน โดยกลุ่มต่อต้านได้ประนามโจมตีนางไอรีนทางอินเตอร์เน็ต รวมทั้งขู่ฆ่า และเรียกร้องให้ทางการจับกุมเธอไปเข้าคุกด้วย ขณะที่นางไอรีนบอกว่า เธอรู้สึกกลัวต่อความปลอดภัยของตัวเอง และเมลขู่เอาชีวิต


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์