ชิดชัย ปัดชักใยตำรวจ จับ สนธิ โวยลั่นถูกปล่อยข่าวทำลาย

ชิดชัย ปัดชักใยตำรวจ จับ สนธิ โวยลั่นถูกปล่อยข่าวทำลาย

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 2 เมษายน 2549 21:34 น.

ชิดชัย ปฏิเสธลั่นอยู่เบื้องหลังชักใยตำรวจ จับ สนธิ ให้ดำเนินคดีหมิ่นเบื้องสูง อ้างที่ผ่านมาถูกปล่อยข่าวทำลายมาตลอด ย้ำทุกอย่างต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ไม่เคยเข้าไปแทรกแซงแม้แต่น้อย

วันนี้ (2 เม.ย.) พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีข่าวว่า รัฐบาลมีการดำเนินคดี กับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ว่า ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจเป็นผู้ดำเนินการ แต่สิ่งที่น่าเกลียดที่สุดขณะนี้ คือ มีการไปปล่อยข่าวในรายการวิทยุ ว่า ตนไปหารือกับราชเลขาธิการ เพื่อสั่งให้ตำรวจดำเนินคดีกับนายสนธิ ในข้อหาหมิ่นเบื้องสูง ทั้งที่ไม่เป็นความจริงเลย

เป็นการปล่อยข่าวเพื่อให้เหตุการณ์บานปลายออกไป เพื่อให้เห็นว่า ผมเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการทำงานของตำรวจ ทั้งที่ความจริงแล้วผมอยู่ฝ่ายการเมือง พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวอ้าง

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสนธิ ยืนยันว่า ไม่ได้พูดหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ พล.ต.อ.ชิดชัย ตอบว่า เป็นสิ่งที่สามารถพูดได้ แต่เรื่องทั้งหมด ศาลจะเป็นผู้พิจารณาเองว่า อะไรถูกหรือไม่

ทั้งนี้ ในกรณีดังกล่าวมีนักวิชาการพร้อมทั้งนักกฎหมายหลายคนต่างออกมากล่าวแทบจะเป็นเสียงเดียวกัน ว่า ตำรวจต้องไม่เลือกปฏิบัติ โดยตั้งข้อสังเกตว่าหากต้องดำเนินคดีกับ นายสนธิ ก็ต้องดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีด้วย จากคำพูดที่มีลักษณะหมิ่นเบื้องสูงหลายครั้งมีทั้งภาพและเสียงชัดเจน

ตร.ดึงอัยการร่วมปรึกษาคดีกล่าวหา สนธิ หมิ่นเบื้องสูง

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 3 เมษายน 2549 15:27 น.

ตำรวจขอพนักงานอัยการร่วมปรึกษาการดำเนินคดีกับ สนธิ ลิ้มทองกุล ตามที่ผู้แจ้ง 37 รายให้ดำเนินคดีหมิ่นเบื้องสูง ย้ำเพื่อความโปร่งใส แม้หัวหน้าพนักงานสอบสวนจะเป็นเพื่อนร่วมรุ่น นรต.เดียวกันกับนายกรัฐมนตรีก็ตาม ยืนยันไม่เคยส่งตำรวจตามประกบ ไม่เคยคิดออกหมายจับ สนธิ

วันนี้ (3 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ผู้ช่วย ผบ.ตร. และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพว่า เนื่องจากเรื่องนี้เป็นคดีสำคัญทางหัวหน้าพนักงานสอบสวน คือ พล.ต.ท.ชลอ ชูวงศ์ ผู้ช่วยผบ.ตร.ได้ทำหนังสือ ตช.0001(ปป 2)/113 ลงวันที่ 29 มี.ค.2549 เรื่องของพนักงานอัยการเป็นที่ปรึกษาในการสอบสวนดำเนินคดี ซึ่งทางสำนักงานอัยการสูงสุดได้ส่ง นายวันชัย สร้อยทอง อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา มาร่วมเป็นที่ปรึกษาในการสอบสวนดำเนินคดีนี้ โดยพนักงานสอบสวนจะหารือกับตัวแทนที่มาจากสำนักงานอัยการสูงสุดทุกประเด็น ส่วนการสรุปสำนวนคดีอย่างไรนั้น เมื่อเสร็จสิ้นตำรวจจะแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบทันที ส่วนชั้นนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน เอกสาร วัตถุพยานและการสอบสวนพยานบุคคล และขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานเพิ่มเติมว่ามีการแจ้งความเพิ่มเติม ยังคงมีผู้แจ้งทั้งหมด 37 ราย ซึ่งเราจะรวบรวมเป็นคดีเดียวในการดำเนินการ

ส่วนการที่หัวหน้าพนักงานสอบสวนเป็นเพื่อนนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีนั้นไม่ต้องเป็น ห่วงเรื่องนี้ต้องยิ่งกว่าโปร่งใสอีก เพราะตำรวจต้องทำงานอยู่ภายใต้การตรวจสอบของสื่อมวลชน เราจะไม่ทำอะไรที่ไม่โปร่งใส เราทำอะไรเองโดยพลการไม่ได้ ในกระบวนการยุติธรรมมีอำนาจในการถ่วงดุลของแต่ละฝ่ายอยู่แล้ว การออกหมายจับหมายค้นเราก็ออกเองไม่ได้ ทุกอย่างต้องรวบรวมพยานหลักฐานเสนอผู้มีอำนาจในการอนุมัติออกหมายจับ และยิ่งเรามีพนักงานอัยการเข้ามาร่วมในการตรวจสอบก็ยิ่งจะทำให้การรวบรวมพยานหลักฐานของตำรวจรอบคอบตรงไปตรงมาแน่นอน ซึ่งคดีสำคัญๆ เราก็มีพนักงานอัยการมาร่วมทำการสอบสวนมาโดยตลอด คดีนี้ไม่ใช่คดีแรก และคดีนี้ตำรวจไม่ได้รับใบสั่งจากใครให้มาดำเนินการ คนออกใบสั่งได้มีแต่ตำรวจจราจรเท่านั้น ส่วนที่มีข่าวว่าตำรวจส่งคนประกบตัวนายสนธิหรือไม่นั้น ยืนยันว่าไม่มีการส่งคนประกบแต่อย่างใด นายสนธิยังไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องหา สามารถไปไหนต่อไหนก็ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้นายสนธิก็ยังออกมาให้สัมภาษณ์ว่าจะขอสู้คดีในชั้นศาล ก็ไม่มีเหตุอะไรที่เราต้องไปประกบเขา พล.ต.ท.อชิรวิทย์ กล่าว

พล.ต.ท.อชิรวิทย์ กล่าวย้ำอีกว่า ในส่วนของการดำเนินคดีขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังสอบปากคำผู้สื่อข่าว ประชาชนที่อยู่ในที่เกิดเหตุ รวมทั้งทำการตรวจสอบหลักฐานแผ่นวีซีดีที่มีการบันทึกไว้ในวันที่นายสนธิกล่าวด้านหลังเวทีปราศรัยที่สะพานมัฆวานฯ เมื่อวันที่ 23 มี.ค.เวลา 22.30 น.ที่ผ่านมา ซึ่งเบื้องต้นนายสนธิอ้างว่ามีการตัดต่อเทป เรื่องนี้ต้องมีการพิสูจน์กันในชั้นศาล หากศาลมีความเห็นว่าไม่มีความผิดก็ยกฟ้องไป ส่วนกรอบระยะเวลาในการดำเนินการสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้กำหนด ขอเพียงให้คดีนี้รอบคอบชัดเจนเท่านั้น ส่วนการสั่งคดีว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้องนายสนธิ และหนังสือพิมพ์ที่นำข้อความไปลงนั้นอาจจะมีการสั่งคดีที่ไม่เหมือนกันก็ได้ เป็นดุลพินิจของพนักงานสอบสวน

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากคดีนี้พนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้องนายสนธิ ผู้ที่เข้าแจ้งความจะเข้าข่ายมีความผิดกรณีให้ผู้อื่นได้รับโทษทางคดีอาญาหรือไม่ โฆษก ตร.กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นกฎหมาย นายสนธิสามารถดำเนินการได้ หากคิดว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่เป็นธรรมก็สามารถดำเนินการได้ เรื่องนี้ไม่ขอวิจารณ์อะไร เพราะกฎหมายมีทางออกเสมอ เรื่องนี้ศาลยุติธรรมจะเป็นผู้ตัดสินเอง

ต่อข้อถามกรณีที่ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าหลังการเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย.จะมีการดำเนินคดีอย่างจริงจังกับม็อบที่ก่อความเดือดร้อนและกระทำผิดกฎหมายบ้านเมือง เรื่องนี้ตำรวจจะดำเนินการทันทีหรือไม่ โฆษก ตร.กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ทราบ ขอให้สื่อมวลชนนำเทปสัมภาษณ์ของ ผบ.ตร.มาให้ดูหน่อย แต่ขอเรียนว่าหากใครกระทำผิดกฎหมายไม่ว่าเรื่องอะไร ตำรวจต้องดำนินคดีทุกราย ส่วนจะจับเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับการรวบรวมพยานหลักฐานครบก็จับทันที ทุกเรื่องหากมีผู้ร้องทุกข์แจ้งความเราก็ดำเนินคดีทุกราย ซึ่งตำรวจมีจุดยืนอยู่ว่าหากจะดำเนินการอะไรลงไปต้องคำนึงถึงประโยชน์ต่อบ้านเมืองเป็นหลัก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์