ชาวบ้านหนีตาย แก๊สแอมโมเนียรั่วกลางกรุง!

เมื่อเวลา 01.30 น.พ.ต.ต.วัฒนากร อู่นาท สารวัตรเวร สน.วัดพระยาไกร ได้รับแจ้ง


มีแก๊สแอมโมเนียจำนวนมากรั่วไหลออกจากโรงงานห้องเย็นอยู่ยง เลขที่ 523/1 ซอยเจริญกรุง 107 แยกประดู่ 33 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม.

จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และรถน้ำจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และรถกู้ชีพมายังที่เกิดเหตุ รวมกว่า 20 คัน



ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานมีพื้นที่ประมาณ 2 ไร่


ซึ่งอยู่ติดกับคลองบางโคล่สาร พบว่ามีแก๊สแอมโมเนียจำนวนมากฟุ้งกระจายจากโรงงานซึ่งเป็นห้องเย็นสำหรับแช่อาหารสด เช่น เห็ดหูหนุ เห็ดหอม ไปทั่วบริเวณมีวงกว้างประมาณ 1 กิโลเมตร

เจ้าหน้าที่ต้องรีบอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่ภายในซอยประดู่ 33 ที่อยู่ด้านหลังของโรงงานที่เป็นซอยตันกว่า 700 หลังคาเรือน รวมถึงประชาชนบริเวณใกล้เคียงนับพัน ให้ออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด ท่ามกลางความโกลาหล วุ่นวาย ต่างคนต่างวิ่งเอาชีวิตรอด

บางคน เริ่มมีอาการแสบตา แสบจมูก จนต้องพากันเอามือหรือผ้าที่มีติดตัวปิดจมูก และออกนอกพื้นที่เพื่อหาอากาศบริสุทธิ์หายใจ บางรายถึงกับเป็นลมเนื่องจากสูดดมแก๊สดังกล่าวเข้าไปมาก

โดยเฉพาะเด็กและคนชรา ที่อาศัยอยู่ในซอยเป็นจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่จึงกระจายนำคนเจ็บ กว่า 300 คนส่งโรงพยาบาล.ตากสิน รพ.เจริญกรุง และ รพ.เลิศสิน ซึ่งเป็นโรงพยาบาลในสังกัด กทม.เพื่อทำการปฐมพและให้การช่วยเหลือ


ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อีกจำนวนหนึ่งได้ใช้น้ำฉีดระงับสารพิษ


รวมทั้งสูบน้ำจากคลองบางโคล่สาร ฉีดเข้าไปในโรงงานด้วยเพื่อให้แก๊สดังกล่าวเจือจางลง

จนเวลาผ่านไปกว่า 4 ชั่วโมง สารพิษจากแก๊สเริ่มเบาบางลง ทางเจ้าหน้าที่จากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่

ซึ่งแบ่งเป็นชุดสวมชุดหน้ากากอากาศพร้อมถังออกซิเจนผลัดกันเข้าไปตรวจดูภายในโรงงานเพื่อหาจุดรั่วไหลของแก๊ส


จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ทราบว่า


ภายในโรงงานดังกล่าวซึ่งทำเป็นห้องเย็นเพื่อแช่ของสดซึ่งการทำความเย็นจะต้องมีแอมโมเนียเป็นตัวช่วย โดยในโรงงานดังกล่าวจะมีถังเก็บกักแอมโมเนียฝังไว้ใต้ดิน และต่อท่อส่งแก๊สมายังท่อพักแก๊สแอมโมเนียเพื่อเตรียมส่งต่อไปยังห้องเย็น แต่ท่อส่งแก๊สที่เชื่อมระหว่างท่อเก็บกัก

และถังพักนั้นเกิดการรั่วไหล เนื่องจากท่อมีสภาพเป็นสนิม เขรอะกรัง โดยภายในโรงงานดังกล่าวจะมีห้องเย็นทั้งหมด 7 ห้อง แต่จะมีเพียง 5 ห้องที่ใช้สารแอมโมเนียในการทำความเย็น

ขณะเกิดเหตุภายในโรงงานไม่มีคนงานทำงานเนื่องจากคนงานจะทำงานช่วงกลางวันเท่านั้น แต่ตอนกลางคืนจะมีช่างเครื่องคอยดูแลควบคุมให้ห้องเย็นทำงาน นอกจากนี้ยังทราบว่าโรงงานดังกล่าวได้เปิดมานานกว่า 10 ปี และไม่เคยเกิดเหตุลักษณะดังกล่าวมาก่อน

แต่เคยเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่บริเวณด้านหลังของโรงงานมาแล้ว และได้ทำการซ่อมแซมไปแล้วเรียบร้อย ต่อมาได้มี น.ส.อารีย์ วงศ์นพรัตน์เลิศ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตบางคอแหลม พร้อมด้วยนางจินตนา เหล่าตรงจริง หัวหน้าฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล เดินทางมาร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ


โดยนางจินตนา เปิดเผยว่า


ในวันนี้เวลาประมาณ 01.30 น.ตนได้รับการประสานงานจาก นายวันชัย ถนอมศักดิ์ ผู้อำนวยการเขตบางคอแหลม ได้มอบหมายให้ตนเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ แต่ในเบื้องต้นทางเขตยังไม่สามารถเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุได้เนื่องจากแก๊สยังคงรั่วไหล และส่งกลิ่นไปทั่ว

ต้องใช้น้ำฉีดเพื่อระงับให้แอมโมเนียเจือจาง ทั้งนี้โรงงานดังกล่าวมีใบอนุญาตถูกต้องในการแช่ถนอมอาหาร จะมีแก๊สแอมโมเนียมาช่วยในการทำความเย็น ซึ่งในทุกๆปีทางเจ้าของโรงงานจะต้องนำเอกสารไปต่ออายุใบอนุญาตประจำปีที่สำนักงานเขต ไม่ใช่ทางสำนักงานเขตมาตรวจสอบที่โรงงาน

เชื่อว่าเกิดจากอุปกรณ์ชำรุดทำให้เกิดแก๊สรั่ว ซึ่งทางกรมควบคุมมลพิษจะเข้ามาดูแลอีกที โดยแก๊สดังกล่าวมีผลต่อระบบทางเดินหายใจของประชาชน หากได้รับมากและโดยตรงอาจทำให้หมดสติได้

ทางด้าน พ.ต.ต.วัฒนากร กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนำตัว นายเทพประทาน จุมศรี อายุ 31 ปี ช่างเครื่องที่อยู่ในที่เกิดเหตุไปสอบสวน ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากความประมาทของผู้หนึ่งผู้ใดหรือไม่ รวมทั้งพยานที่เกี่ยวข้องด้วย อย่างไรก็ตามจะต้องรอให้เจ้าหน้าที่



ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์