ฉุนหลวงพ่ออมเงินกฐินบุกกุฎิกระทืบ

เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 23 พ.ย. ร.ต.ท.กิตติศักดิ์ เครือบุตร ร้อยเวร สภ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา

ได้รับแจ้งว่ามีคนทำร้ายร่างกายพระภิกษุสงฆ์ที่สำนักสงฆ์ชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.สูงเนิน จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ. ดำรง รอดโพธิ์ทอง ผกก.พ.ต.ต.สิทธิศักดิ์ เจติกานนท์ สว.สป. และมูลนิธิสว่างแสงธรรมสูงเนิน ที่เกิดเหตุเป็นกุฏิสร้างด้วยไม้ยกพื้นสูงมีขนาดเล็กสำหรับพระภิกษุจำวัดได้หลังละ 1 รูป พบว่าที่บานประตูห้องถูกกระแทกอย่างแรงจนหลุดออก ภายในห้องข้าวของล้มระเนนระนาดและพบร่างพระสำลี จิตฺตปาโล อายุ 51 ปี นอนฟุบจมกอง เลือดอยู่ด้วยในสภาพตามร่างกายมีร่องรอยฟกช้ำเขียวทั้งตัว และที่ศีรษะถูกตีด้วยของแข็งจนแตกเป็นแผลฉกรรจ์ เลือดไหลนอง จึงช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลสูงเนิน

สอบสวนพระสำลีให้การแบบกระท่อนกระแท่นว่า ก่อนเกิดเหตุขณะกำลังจำวัดอยู่ภายในกุฏิเพียงลำพังก็ต้องสะดุ้งตื่นเพราะมีคนมาเคาะประตูเรียก

ซึ่งจำเสียงได้ว่าเป็นนายลิ่มยา วงศ์ประดิษฐ์ อายุ 26 ปี ภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ 42 หมู่ 4 ต.รำมะสัก อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นลูกศิษย์วัด แต่อาตมาไม่ยอมเปิดประตูรับ เนื่องจากนายลิ่มยาอยู่ในอาการเมาสุราจึงตะโกนบอกไปว่า มีธุระอะไรก็ขอให้มาคุยกันหลังจากหายจากเมาแล้ว แต่นายลิ่มยาไม่ยอมฟังเสียงได้พูดจาหยาบคายและพูดท้าทายอยู่นอกห้อง เมื่ออาตมาไม่ยอมออกไปพบนายลิ่มยาจึงถีบประตูห้องจนพัง

อาตมาเห็นท่าไม่ดีพยายามจะวิ่งหนี แต่ถูกนายลิ่มยาจู่โจมเข้ามาจับจีวรที่ห่มอยู่แล้วกระชากจน ล้มลงศีรษะไปกระแทกกับฝาผนังห้องจนแตกเลือดอาบก่อนจะเตะ ต่อย อาตมาจนเขียวช้ำไปทั้งตัว เมื่อเห็นท่าไม่ดีอาตมาจึงคว้าไม้เท้าตีเข้าไปที่หางคิ้วของนายลิ่มยาจนแตกเลือดอาบหน้า นายลิ่มยาจึงกระโดดกุฏิหลบหนีไป

หลังรับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สูงเนิน จึงวิทยุสกัดจับคนร้ายทุกเส้นทาง จนกระทั่งเวลาต่อมาตำรวจสามารถจับกุมตัวนายลิ่มยาไว้ได้

ขณะขับรถปิกอัพยี่ห้อโตโยต้าสีบรอนซ์ ทะเบียน 5 ฒ-0802 กรุงเทพมหานคร ได้ที่สี่แยกบ้านหนองไม้ตาย ขณะกำลังจะหลบหนี ซึ่งพบว่าที่หางคิ้วด้านซ้ายถูกตีด้วยของแข็งจนแตกเป็นแผลฉกรรจ์เลือดอาบใบหน้าตำรวจจึงนำตัวไปทำแผลที่โรงพยาบาลสูงเนินก่อนจะควบคุมตัวมาสอบสวน

ให้การว่า ที่ตนต้องทำร้ายร่างกายพระสำลีในครั้งนี้ก็เนื่องจากตั้งแต่ช่วงออกพรรษามาตนกับพระสำลีจะออกบอกบุญแจกซองกฐินสามัคคีกับญาติโยมผู้ใจบุญทั่วไป ซึ่งตนเป็นลูกศิษย์พระสำลี มีหน้าที่คอยขับรถส่วนพระสำลีจะเดินแจกซองกฐินและรับเงินจากญาติโยม ซึ่งช่วงแรก ๆ จะได้เงินที่มีผู้ใจบุญร่วมทำบุญมาวันละไม่ต่ำกว่า 5,000-6,000 บาท หลังจากได้เงินมาแล้วก็จะนำมาแบ่งกัน

โดยส่วนหนึ่งก็จะแบ่งให้กับสำนักสงฆ์บ้างเพื่อเป็นการตอบแทนที่ตนกับพระสำลีเอาชื่อสำนักสงฆ์ไปแอบอ้าง

ว่าจะนำเงินที่ได้ไปสร้างที่พักสงฆ์ที่ยังขาดแคลนปัจจัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ต่อมาระยะหลังเงินที่ญาติโยมบริจาคมาได้ลดลงทุกวันตนจึงสงสัยว่าพระสำลีจะคิดไม่ซื่อจึงจับตาดูอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งพบว่าพระสำลีแอบขโมยเงินที่ได้จากการเรี่ยไรกฐินเข้าเก็บไว้เอง นายลิ่มยาให้การอีกว่า เมื่อตนจับได้จึงบอกให้พระสำลีเลิกพฤติการณ์ดังกล่าวเสียเพื่อจะได้นำเงินที่ได้มาแบ่งกันเหมือนเดิม ซึ่งพระสำลี ก็รับคำ แต่ในที่สุดพระสำลีก็ยังไม่ยอมเลิกพฤติการณ์ดังกล่าว ก่อนเกิดเหตุตนจึงมาหาพระสำลีกลางดึกเพื่อยุติปัญหา แต่พระสำลีไม่ยอมเปิดประตูให้แถมยังดุด่าตนจึงเข้าไปก่อเหตุดังกล่าว ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บและควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์