จําคุก 20 ปี! พระนักเลง

"พระซ่าโดนข้อหาพยายามฆ่า"


ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ วันที่ 7 มี.ค. ศาลมีคำพิพากษา ในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องนายเทพธิคุณ รื่นเริง อายุ 45 ปี หรือพระหมี อดีตพระลูกวัดวัดแก้วฟ้าจุฬามณี เป็นจำเลยฐานพยายามฆ่าผู้อื่นและพกพาอาวุธมีด จำเลยให้การปฏิเสธ

โจทก์ฟ้องและนำสืบว่า เมื่อวันที่ 29 ม.ค.49 เวลา 20.00 น. จำเลยขณะเป็นพระพาพวกไปฟังสวดพระอภิธรรมศพ ที่ศาลา 2 วัดแคนางเลิ้ง แขวงโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. ระหว่างเดินผ่านหอระฆัง หน้ากุฏิหลวงปู่ธูป จำเลยได้พบพระอู๊ด ฐิติวีโร หรืออู๊ด คงพากเพียร อายุ 30 ปี กับพระเบิร์ด หรือพงษ์อมร ชิตวิชัย อายุ 24 ปี ผู้เสียหายที่ 1 และ 2 กับสามเณรก้านกมล ชื่นชม พอดีมีเสียงระฆังดัง จำเลยจึงมองขึ้นไปดู และพบผู้เสียหายมองมาที่จำเลย ทำให้จำเลยไม่พอใจ พูดว่ามึงมองหน้าหาอะไรวะ พร้อมกับแสดงพฤติกรรมจะเอาเรื่องผู้เสียหายที่ 1 จึงไล่สามเณรกับเด็กวัดให้ขึ้นกุฏิไปก่อน แล้วพูดกับจำเลยถ้าอยากมีเรื่องตรงนี้เลยก็ได้

"อ้างถูกท้าทาย เลยป้องกันตัว"


จากนั้นเกิดการโต้เถียงกัน โดยจำเลยโต้ตอบไปว่ามึงถอดจีวรมาชกกับกูเลยดีกว่า ขณะที่ผู้เสียหายไม่ทันตั้งตัว จำเลยได้ใช้มีดพกยาว 6 นิ้ว แทงผู้เสียหายที่ 1 เข้าบริเวณชายโครงซ้ายจนล้มฟุบ ผู้เสียหายที่ 2 จะเข้าไปช่วย จำเลยพยายามใช้มีดแทงอีก แต่ไม่ถูก จึงเรียกนายบอล ไม่ทราบนามสกุล เด็กวัดฝ่ายจำเลยที่ติดตามไปด้วยให้ช่วยจับล็อกตัวผู้เสียหายที่ 2 แล้วแทงเข้าที่ลิ้นปีล้มจมกองเลือด อาการสาหัส ต่อมาพระทวี บุตรดี กับพระทรงพล ศรีผดุง พระผู้ใหญ่ของวัดแคนางเลิ้งมาประสบเหตุแจ้งตำรวจ พร้อมกับนำคนเจ็บส่ง รพ.กลาง ต่อมาตำรวจติดตามจับกุมตัวจำเลยได้ที่กุฏิวัดแก้วฟ้าจุฬามณี พร้อมมีดพกของกลาง นำตัวไปสึกดำเนินคดี จำเลยให้การปฏิเสธ อ้างว่าไปเที่ยววัดแคนางเลิ้ง แล้วพบผู้เสียหายพูดจาท้าทาย ก่อนจะเข้าทำร้าย จึงต่อสู้ป้องกันตัว

ศาลพิเคราะห์ว่า คดีมีประจักษ์พยานหลายปากเป็นเยาวชน ประกอบด้วยสามเณรก้านกมล อายุ 13 ปี เบิกความว่า พบเห็นเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด ในขณะที่มีแสงไฟนีออนส่องสว่างมองเห็นได้ชัดเจน พยานไม่ได้เป็นญาติหรือคนใกล้ชิดของผู้เสียหาย จึงไม่เชื่อว่าจะเบิกความช่วยเหลือผู้เสียหายเพื่อปรักปรำจำเลย หรือเข้าข้างผู้เสียหาย อีกทั้งตำรวจพบมีดพกเปื้อนเลือด เมื่อพิจารณาจากอาวุธ ลักษณะการแทง และบาดแผลแล้ว เชื่อว่าจำเลยมีเจตนาเลือกแทงอวัยวะสำคัญของร่างกาย หากไม่มีผู้ส่งตัวไปรักษาพยาบาล อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต ถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าและลงมือกระทำไปโดยตลอดแล้ว แต่ยังไม่บรรลุผล ต้องรับผิดฐานพยายามฆ่าและพกพาอาวุธมีด การกระทำของจำเลยทำกับผู้เสียหาย 2 คน จึงเป็น 2 กรรม ให้ลงโทษกรรมละ 10 ปี รวมโทษจำคุก 20 ปี ส่วนข้อหาพกพาอาวุธมีด ลงโทษปรับ 100 บาท จากนั้นให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์