จ่อเอาผิด ‘หมอ’ ถูกร้องหลังคนไข้เสียชีวิต 2 ราย

จ่อเอาผิด ‘หมอ’ ถูกร้องหลังคนไข้เสียชีวิต 2 ราย

ตามที่มีทนายความออกมาเปิดเผยกรณีญาติผู้เสียชีวิตเข้าร้องเรียนหลังพบว่า มีแพทย์รายหนึ่งได้เปิดคลินิกศัลยกรรมตกแต่งที่จ.สมุทรปราการ และได้ผ่าตัดพริตตี้จนทำให้เสียชีวิตขึ้น ก่อนจะมีการปิดคลินิกและได้มาเปิดคลินิกใหม่ย่านพระราม 9 จนทำให้มีผู้เสียชีวิตซ้ำอีกจากการผ่าตัดใบหน้ารูปเรียว โดยได้ร้องเรียนให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) และแพทยสภาตรวจสอบนั้น

เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พญ.ชัญวลี ศรีสุโข โฆษกแพทยสภา กล่าวว่า เรื่องนี้แบ่งออกเป็น 2 กรณี โดยกรณีแรกเกิดขึ้นประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ได้มีการแจ้งเรื่องเข้ามาทางแพทยสภา ซึ่งได้ส่งทีมลงไปตรวจสอบและติดตามนายแพทย์ดังกล่าว ทุกวิถีทาง แต่ไม่พบในฐานข้อมูล อาจเพราะเปลี่ยนชื่อสกุลใหม่ และไม่มาแจ้งกับทางแพทยสภา ซึ่งไม่สามารถติดตามตัวได้เลย จนกระทั่งเมื่อเดือนเดือนกันยายน 2559 ได้มีการร้องเรียนจากญาติผู้เสียชีวิตในกรณีที่ 2ประกอบกับทาง สน.ห้วยขวางได้ส่งสำนวนคดีเพื่อให้ทางแพทยสภาลงไปตรวจสอบ จึงพบว่า ทั้ง 2 กรณีเป็นแพทย์คนเดียวกันทำ ซึ่งในกรณีที่ 2 หลังจากได้รับข้อมูลจากทางญาติผู้เสียชีวิต ก็พยายามติดตามแพทย์ผู้นี้ แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมืออีก

พญ.ชัญวลี กล่าวอีกว่า หลังจากไม่สามารถติดต่อนายแพทย์ผู้นี้ได้ และทราบว่าเป็นคนเดียวกัน ล่าสุดแพทยสภาจะมีการตรวจสอบเรื่องจริยธรรม โดยในกรณีแรกจะตรวจสอบในเรื่องมาตรฐานการให้บริการเรื่องระงับความรู้สึก เนื่องจากแพทย์เป็นผู้ให้ยาสลบเองโดยไม่มีวิสัญญีแพทย์หรือหมอดมยา และในกรณีที่ 2 จะมีการตรวจในเรื่องมาตรฐานเพราะทราบว่ามีการผ่าตัดไปโดนเส้นเลือดดำจนทำให้ถึงแก่ชีวิต ทั้งนี้การตรวจสอบจริยธรรมสามารถทำได้เลยโดยไม่ต้องรอข้อสรุปทางกฎหมาย โดยโทษสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพก็จะมีตั้งแต่ ตักเตือน ภาคทัณฑ์ ไปจนถึงยึดใบใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ เลย และเมื่อได้ข้อสรุปทางกฎหมายก็อาจจะมีการเพิ่มโทษในภายหลังได้อีก

นางปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา ประธานเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นนั้น ควรมีการดำเนินการตรวจสอบแพทย์ว่ามีความผิดอย่างไรอย่างรวดเร็วกว่านี้ แต่ความเป็นจริง กลับพบว่า

 1.การพิจารณาของแพทยสภาเป็นไปด้วยความล่าช้า

 2.การทำงานของพนักงานสอบสวน ต้องรอการพิจารณาของแพทยสภา นอกจากผู้เสียหายไม่ได้รับความเป็นธรรม ผู้กระทำผิดไม่ถูกลงโทษ ยังเปิดโอกาสให้มีการกระทำผิดซ้ำได้อีก 

3.การพิจารณาให้ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล และใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล โดยพิจารณาเพียงว่าผู้ขอใบอนุญาตดำเนินการสถานพยาบาล มีใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะอย่างเดียว โดยไม่นำเอาพฤติกรรมการกระทำความผิดของผู้ขออนุญาตมาพิจารณา ทั้งทีทราบดีอยู่แล้ว เห็นว่าเป็นการละเลย ไม่ใส่ใจคุ้มครองประชาชน ซึ่งอาจมีประชาชนได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นได้

Cr:: matichon.co.th


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์