จำคุกแก๊งวัยรุ่น รุมโทรมเพื่อน-น้องสาวข้ามคืน

ศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิตแก๊งโจ๋จับเพื่อนสมัยเรียนประถมกับน้องสาว ไปให้พวกแย่งกันข่มขืมมาราธอนข้ามคืน


ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลพิพากษานายกฤษดา หรือ เบียร์ สามลา อายุ 19 ปี จำเลยที่ 1 ในความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราในลักษณะโทรมหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี และกักขังหน่วงเหนี่ยวเพื่อการอนาจาร เป็นเวลา 14 ปี 8 เดือน แต่คำรับสารภาพเป็นประโยชน์ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 7  ปี 4 เดือน และพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต นายจตุพร แสงอุทัย จำเลยที่ 3 ฐานข่มขืนกระทำชำเราในลักษณะโทรมหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี  ส่วนนายธนพัทธ์ กล้าฤทธิ์ อายุ 20 ปี จำเลยที่ 2 พิพากษายกฟ้อง

ตามฟ้องโจทก์สรุปว่าเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2548 เวลากลางวัน

ขณะที่ น.ส.นิด (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี และ ด.ญ.หน่อย (นามสมมติ) อายุ 13 ปี สองพี่น้องผู้เสียหาย กำลังเดินทางไปหาเพื่อนที่คลองเปรมประชากร ย่านดอนเมือง จำเลยที่ 1-3 กับพวกที่ยังจับตัวไม่ได้ ซึ่งเป็นเพื่อนเรียนสมัยประถมขี่รถจักรยานยนต์มาพบและใช้กำลังบังคับพา น.ส.นิด ซ้อนรถจักรยานยนต์ไปยังบ้านพักใน ซ.แสงอรุน ลงมือข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่คนละ 1 ครั้ง แล้วกักขังให้อยู่ในห้องดังกล่าวเพื่อข่มขืนอีกคนละ 1 ครั้ง จนกระทั่งรุ่งขึ้นได้ปล่อยออกไป


ส่วน ด.ญ.หน่อย ขอให้ละเว้น จำเลยที่ 3 ยอมเดินออกจากห้องไป


ส่วน ด.ญ.หน่อย ซึ่งถูกจำเลยที่  1-3 กับพวก จับพามาบังคับข่มขืนที่บ้านอีกหลังหนึ่งใกล้กันกับบ้านที่เกิดเหตุแรก และลงมือข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.หน่อย จนสำเร็จความใคร่ทีละคนเช่นกัน ซึ่งขณะที่จำเลยที่ 3 จะลงมือนั้น ด.ญ.น้อยขอให้ละเว้น จำเลยที่ 3 ยอมเดินออกจากห้องไป แต่ยังยอมให้พวกเข้ามาข่มขืนแล้วจึงปล่อยตัวไป ต่อมาบิดาผู้เสียหายทั้งสองเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ติดตามจับกุมตัว จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ ส่วนจำเลยที่ 2 และ 3 ให้การปฏิเสธอ้างว่าไม่รู้เห็นเกี่ยวกับพฤติการณ์ตามที่โจทก์ฟ้อง

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่ทั้งสองฝ่ายนำสืบแล้วเห็นว่า โจทก์มีประจักษ์พยานผู้ประสบเหตุร้ายด้วยตนเอง

เบิกความได้สอดคล้องเชื่อมโยงกันมีรายละเอียดเป็นขั้นตอน ยากแก่การปั้นแต่ง ประกอบกับผู้เสียหายทั้งสองไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน หากไม่เกิดเหตุการณ์จริงคงไม่นำเรื่องที่น่าอับอายเช่นนี้มาเบิกความกล่าวหา เชื่อว่าจำเลยที่ 1 ทำผิดตามฟ้อง ส่วนจำเลยที่ 2 ต่อสู้ว่าเป็นคนละคนกับผู้ที่ลงมือก่อเหตุนั้น จำเลยที่  1 และ 3 เบิกความว่าไม่รู้จักจำเลยที่ 2 เชื่อว่าไม่ได้เป็นการเบิกความเพื่อช่วยเหลือ สำหรับจำเลยที่ 3 แม้ไม่ได้ร่วมข่มขืน แต่ก็ถือเป็นตัวการร่วมให้พวกของจำเลยเข้าไปข่มขืน จึงมีลักษณะความผิดอันเป็นการโทรมหญิง พิพากษาจำคุกจำเลยที่  1 และ 3 โดยให้พิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 2 ดังกล่าว

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์