จับแล้วเมียโจรโหด ปล้นทองฆ่าสยองหนองคาย

ตร.หนองคายจับเมีย-เพื่อนร่วมแก๊งโจรโหดปล้น-ฆ่าร้านทองกลางเมืองเมื่อปลายเดือนต.ค.ที่ผ่านมา แฉเป็นคดีสะเทือนขวัญคนร้ายบุกเดี่ยวยิงน้องชายเจ้าของร้านและกวาดทองไปกว่า 1 ล้านบาท โดยกล้องวงจรปิดจับภาพนาทีโหดได้จะจะ เผยสืบจากเบาะแสรถจยย.ที่คนร้ายใช้ สาวไปถึงสองผัวเมียเพื่อนคนร้ายที่เป็นเจ้าของรถ สารภาพโจรเหี้ยมให้ช่วยซื้อรถให้ ก่อนบุกบ้านเมียจับได้พร้อมเงินของกลางบางส่วน เมียเผยผัวหลังก่อเหตุนำทองไปขายที่ประเทศลาวและกบดานอยู่ที่นั่น นานๆจะโทรศัพท์มาหา โดยไม่ยอมบอกว่าซ่อนอยู่ที่ไหน ตร.แจ้งข้อหาทั้ง 3 คนสนับสนุนและสมรู้ร่วมคิด แฉโจรโหดมีประวัติก่อคดีมาอื้อแถมอยู่ระหว่างหนีประกันชั้นศาลด้วย รวมทั้งพัวพันคดีฆ่าเจ้าลาวแกนนำขตล. เมื่อต้นปีที่ผ่านมาด้วย

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 23 พ.ย.ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย พล.ต.ท.ศุภวุฒิ สังข์อ่อง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.บุญชอบ คงน้อย รองผบช.ภ.4 พล.ต.ต.ปราโมทย์ เอี่ยมทัศน์ ผบก.ภ.จว.หนองคาย พ.ต.อ.สุริยา วรินทรา รองผบก.ภ.จว.หนองคาย พ.ต.อ.จตุพล ปานรักษา รองผบก.ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 พ.ต.อ.วุฒิ ป้อมปักษา ผกก.สภ.อ.เมืองหนองคาย พ.ต.ท.ปัญญา ปุยนุเคราะห์ รองผกก.สส. พ.ต.ท.เกษม มุทาพร สว.สส. ร่วมกันแถลงข่าวและสอบสวน นายสุรชัย หรือหยุย จันทองสุก อายุ 36 ปี ชาวลาว น.ส.ประพัฒน์สร สุริยะเพ็ญ อายุ 28 ปี ภรรยานายสุรชัย อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 4 ต.หาดคำ อ.เมือง จ.หนองคาย และน.ส.เตียง ราชนิจ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ 4 ต.หาดคำ ภรรยาของนายสมบัติ เพิ่มปัญญา หรือแด๊ก อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาคดีปล้นฆ่าร้านทองศรีกาญจนา ถ.มีชัย ต.ในเมือง อ.เมืองหนองคาย พร้อมของกลางทองรูปพรรณ ประเภทสร้อยคอและกำไลแขน น้ำหนักรวม 10 บาท เงินสด 45,120 บาท, บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาหนองคาย, รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กนม 572 หนองคาย ,ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ฮอนด้าบีทสีแดงที่ถูกถอดเป็นชิ้น ๆ และโทรศัพท์มือถือโนเกีย 2 เครื่อง ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวน.ส.ประพัฒน์สร นายสุรชัย และน.ส.เตียง ไปทำแผนการซื้อรถและถอดชิ้นส่วนรถ

สำหรับคดีปล้นทองดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา คนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้าบีทสีแดงคาดขาวเป็นพาหนะ ชิงทรัพย์ร้านทองศรีกาญจนา ได้ทองรูปพรรณหนัก 129 บาท ราคาประมาณ 1,354,500 บาท แล้วใช้อาวุธปืนขนาด 11 ม.ม. ยิงนายไพบูลย์ องคนุสสรณ์ อายุ 36 ปี น้องชายเจ้าของร้าน 2 นัด เสียชีวิต ตำรวจได้เบาะแสจากรถจักรยานยนต์คนร้ายจนทราบว่าน.ส.ประพัฒน์สร และนายสุรชัย ไปติดต่อขอซื้อรถจักรยานยนต์มือสองจากร้านเอกออยล์ ที่ตลาดชัยพร อ.เมืองหนองคาย โดยระบุยี่ห้อฮอนด้าบีท ราคาเงินสด 9,700 บาท เจ้าหน้าที่จึงติดตามตัวไปที่บ้านและควบคุมตัวมาสอบสวน

น.ส.ประพัฒน์สร ให้การว่า คนที่นำรถจักรยานยนต์ไปก่อเหตุคือนายสมบัติ หรือแด๊ก ซึ่งเป็นเพื่อนกัน ว่าจ้างให้ช่วยซื้อรถจักรยานยนต์ให้ 1 คัน นายแด๊กให้เงินมา 12,000 บาท ตนนำไปซื้อรถ 9,700 บาท โดยนายแด๊ก ให้นำรถไปจอดไว้ที่วัดเนินพระเนาว์ พร้อมทั้งขอยืมหมวกกันน็อกของตนด้วย ต่อมาทราบว่ามีเหตุปล้นร้านทอง ดูข่าวเห็นหมวกกันน็อกที่คนร้ายใส่ จึงมั่นใจว่านายแด๊กจะเป็นคนลงมือก่อเหตุแล้วหลบหนี

"หลายวันต่อมานายแด๊กโทรศัพท์มาหา บอกว่าขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าบีทไปทิ้งลงสระน้ำ บริเวณป่าละเมาะระหว่างหมู่บ้านดงเจริญ และบ้านดอนซูด ต.หาดคำ พร้อมทั้งให้นางเตียงภรรยาของนายแด๊ก ว่าจ้างนายสุรชั และนายทรงพล ภาษาเวทย์ นำรถจักรยานยนต์ขึ้นมาจากน้ำแล้วนำมาถอดชิ้นส่วน ทำลายหมายเลขประจำตัวรถและหมายเลขเครื่องยนต์ หลังจากถอดชิ้นส่วนรถแล้วทิ้งไว้จะมาทำต่อในวันหลัง ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจยึดไปก่อน" น.ส.ประพัฒน์สรให้การ

หลังจากได้เบาะแสจากนางน.ส.ประพัฒน์สร แล้วตำรวจนำหมายค้นของศาลจังหวัดหนองคาย ไปตรวจค้นบ้านของน.ส.เตียง ราชนิจ ภรรยาของนายแด๊ก พบเงินสดจำนวน 45,120 บาท ซึ่งน.ส.เตียงยอมรับสารภาพว่าสามีโอนมาให้จากประเทศลาวทั้งหมด 60,000 บาท หลังนำทองที่ปล้นไปขายที่ประเทศลาว แต่ต้องแบ่งให้กับเพื่อนร่วมแก๊งอีก ส่วนทองรูปพรรณที่อยู่ที่บ้านนั้น เป็นทองคำส่วนตัวและทองของแม่กับน้องสาวไม่เกี่ยวกับทองที่ปล้นมา

น.ส.เตียง ให้การอีกว่า ขณะนี้สามีหลบหนีอยู่ที่ประเทศลาวและจะเป็นฝ่ายติดต่อมาหาตนทุกครั้ง จึงไม่ทราบว่าสามีอยู่ที่ไหน แต่ละครั้งก็จะโทร.มาถามข่าวลูกที่เพิ่งคลอดได้เพียง 8 เดือนเท่านั้น ซึ่งนายแด๊กมีคดีติดตัวอยู่หลายคดีด้วยกัน และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ติดต่อให้สามีมามอบตัว ก่อนหน้านี้ครอบครัวทำอาชีพเลี้ยงปลาขายแต่ก็ขาดทุนหมด ประกอบกับมีลูกเล็กต้องใช้จ่ายจำนวนมาก คาดว่าจะเป็นสาเหตุให้สามีตัดสินใจก่อเหตุปล้นทอง

ด้านตำรวจแจ้งข้อหาน.ส.เตียง เป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นชิงทรัพย์ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการที่กระทำความผิดอย่างอื่น, ช่วยผู้อื่นเพื่อมิให้ต้องรับโทษหรือได้รับโทษน้อยลง, ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด, ช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดหรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดอันมิใช่ความผิดลหุโทษเพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้ที่พำนักแก่ผู้นั้นโดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดๆ เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม

ส่วนน.ส.ประพัฒน์สร ถูกแจ้งข้อหาเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการที่กระทำความผิดอย่างอื่น นายสุรชัย จันทองสุก ถูกแจ้งข้อหาเช่นเดียวกับน.ส.ประพัฒน์สร และเพิ่มข้อหาช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษหรือให้รับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสียหรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด

สำหรับนายสมบัติ หรือแด๊ก ตำรวจออกหมายจับในความผิดฐาน ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อสะดวกในการกระทำผิดอย่างอื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควร อีกทั้งต้องคดีฆ่าผู้อื่นในท้องที่สภ.อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี, คดีพยายามฆ่าในเขตท้องที่ สภ.อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ซึ่งขณะนั้นตำรวจจับกุมตัวได้แล้วแต่นายแด๊กหลบหนีประกันในชั้นศาล และตำรวจยังสงสัยว่านายแด๊กจะเกี่ยวข้องหรือเป็นผู้ลงมือสังหารสองสามีภรรยาชาวลาว ที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าลาวที่ศาลาแก้วกู่เมื่อต้นปีที่ผ่านมาด้วย

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด