จับแล้ว!มือปืน ค่าหัว2แสน จนมุมตร.ภาค8



รวบแล้วมือปืนอันดับ 1 ภาค 8 ค่าหัว 2 แสน หนีโทษประหารชีวิต คดียิงนายก อบต.กลางสภา และมีหมายจับติดตัวอีกรวม 8 หมาย ตำรวจเข้าชาร์ตขณะรอส่งมอบยาบ้า ต่อสู้เลยถูกยิงเข้าขาสาหัส....

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 27 มิ.ย.พ.ต.อ.เอกวัฒน์ โพธิ์เย็นญาติ ผกก.สภ.เขาพนม จ.กระบี่ แถลงการจับกุมตัวนายไพศาล ยั้งเล่ง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114 ม.4 ต.หน้าเขา อ.เขาพนม จ.กระบี่ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกระบี่ 6 หมาย และหมายจับของศาลจังหวัดทุ่งสง ศาลจังหวัดพังงา รวมทั้งสิ้นมีหมายจับ 8 หมาย มีค่าหัว 2 แสนบาท และเป็นมือปืนอันดับที่ 1 ของตำรวจภูธรภาค 8 โดยจับกุมได้ที่ริมถนนสายเขาพนม-ทุ่งใหญ่ ม.2 ต.พรุเตียว อ.เขาพนม จ.กระบี่ ซึ่งขณะจับกุมตัวผู้ต้องหาต่อสู้ ตำรวจจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ 1 นัดกระสุนถูกขาขวา และขณะนี้ได้ส่งตัวผู้ต้องหาไปรักษาตัวโดยมีกำลังตำรวจดูแลอย่างเข้มงวดแล้ว

สำหรับการจับกุมครั้งนี้ เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันที่หน้าโรงงานผลิตน้ำมันปาล์ม นามหงส์ หมู่ที่ 2 ต.พรุเตียว และผู้ค้ายาบ้ารายนี้ น่าจะเป็นมือปืนอันดับ 1 ของจ.กระบี่ และของภาค 8 ที่ตำรวจต้องการตัว จึงได้จัดกำลังตำรวจ 10 นายไปตรวจสอบ โดยเมื่อไปถึงผู้ต้องหาอยู่ภายในโรงงาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ซุ่มปิดล้อม รอจนกระทั่งผู้ต้องหาเดินออกมาจึงแสดงตัวเข้าจับกุม แต่ผู้ต้องหาได้ชักอาวุธปืนออกมาจะยิงต่อสู้ ตำรวจจึงได้ยิงสกัดด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่ขาขวา และเข้าควบคุมตัวไว้ได้ จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง รพ.เขาพนม ก่อนนำส่งต่อ รพ.กระบี่

จากนั้นตำรวจสืบสวน ภ.จว.กระบี่ และ ตำรวจ นปพ.กระบี่รวมกว่า 20 นายเดินทางมาสมทบ เมื่อนำขึ้นรถเพื่อเตรียมส่งต่อ ปรากฏว่า ได้มีรถยนต์กระบะไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับเข้ามาจอดหน้ารถของเจ้าหน้าที่ไม่ให้ออกจาก รพ.เขาพนม เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบชาย 1 คนในรถ และโวยวายไม่ให้นำตัวขัดขวางเจ้าหน้าที่จึงถูกจับกุมทราบชื่อคือ นายวิชาญ ยั้งเล่ง อายุ 28 ปี เป็นน้องชายของนายไพศาล เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวส่งสภ.เขาพนม แจ้งข้อกล่าวหาขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ และตรวจพบฉี่สีม่วง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำผู้ต้องหารายสำคัญนี้ ขึ้นรถแล้วนำส่ง รพ.กระบี่ เบื้องต้นพบมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ขาขวาบริเวณเข่ารวม 9 รู จากนั้นเมื่อทำแผลเสร็จ ได้ส่งไปรักษาโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบรวมกว่า 10 นาย คอยดูแลอย่างใกล้ชิด

พ.ต.อ.เอกวัฒน์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ระหว่างนำผู้ต้องหา ส่ง รพ.กระบี่ ได้มีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ พยายามโทรศัพท์เข้ามาสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการจับกุม และสอบถามถึงจำนวนเจ้าหน้าที่ ที่ควบคุมตัวผู้ต้องหารายนี้หลายครั้ง ซึ่งทำให้น่าเชื่อว่าผู้ต้องหาอาจจะไม่ปลอดภัย หรืออาจมีการชิงตัวได้ จึงได้จัดกำลังเสริมระหว่างนำส่งรวมเกือบ 50 นายและมีรถยนต์เก๋งคันหนึ่ง ขับด้วยความเร็วสูงแซงรถตำรวจและพยามทำบางอย่างที่อาจเป็นการชิงตัว แต่ไม่สำเร็จ เจ้าหน้าที่จดบันทึกทะเบียนรถเพื่อตรวจสอบต่อไปแล้ว และนอกจากนั้นจะได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย เพื่อหาอาวุธปืนของผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งมีอาวุธปืนอาก้า และปืนยิงเร็ว เอ็มซีอยู่อีกอย่างละกระบอกที่ใช้ในการก่อเหตุหลายครั้งต่อไป.


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์