จับแม่กับพ่อเลี้ยง พาลูกสาวขอทาน สารภาพ-รายได้ดี

เรื่องราวหดหู่ใจสะท้อนสังคม แม่ร่วมกับผัวใหม่บังคับลูกสาว 2 คน
 
ตระเวนขอทานหาเงินส่งค่างวดรถปิกอัพรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 16 พ.ค. พ.ต.อ.รวีโรจน์ กองกันภัย ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีเด็กหญิง 2 คน เดินเร่ขอทานอยู่ในตลาดเทศบาล 1 ต.ตลาดหลวง จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.ไพศาล แย้มบางยาง รอง ผกก.สส. และ พ.ต.ท.เสวก เอี่ยมมงคล รอง ผกก.ป. นำกำลังชุดสืบสวนไปตรวจสอบ พบ ด.ญ.เอ๋ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี จูงมือ ด.ญ.อ้อม (นามสมมติ) อายุ 5 ขวบ น้องสาวเดินขอเงินชาวบ้านที่มาจับจ่ายซื้อข้าวของในตลาด ตรวจสอบในกระเป๋าพบเงินเหรียญชนิดต่างๆถึง 436 บาท 


สอบถาม ด.ญ.เอ๋ให้การว่า

ถูกแม่แท้ๆและพ่อเลี้ยงใช้ให้มาขอทาน โดยขับรถปิกอัพพาตนและน้องมาปล่อยไว้หน้าตลาดตั้งแต่ 3 โมงเช้า เพื่อให้เดินขอทานตามร้านค้าและประชาชนที่เดินจับจ่ายซื้อของในตลาด อ้างว่าจะเอาไปซื้อข้าวกินกับน้อง ส่วนใหญ่คนก็จะสงสารเพราะเห็นมีน้องมาด้วย มักให้เงินตนเกือบทุกราย บางคนนอกจากให้เงินแล้วยังซื้ออาหารและขนมให้กินด้วย ส่วนแม่และพ่อเลี้ยงหลังมาส่งแล้วจะไปจอดรถปิกอัพรออยู่ที่ข้างศาลเจ้าอ่างทอง กระทั่งเวลาประมาณ 5 โมงเย็น ตนก็พาน้องไปหาและเอาเงินที่ขอทานได้ทั้งหมดให้แม่และพ่อเลี้ยง


หลังทราบรายละเอียดเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจรีบพาเด็กหญิง 2 พี่น้องขึ้นรถสายตรวจไปหาแม่และพ่อเลี้ยงทันที

เมื่อไปถึงพบทั้งคู่นอนรอในรถปิกอัพยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ 4 ประตู สภาพใหม่ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน รฐ 9220 กรุงเทพมหานคร โดยจอดรออยู่ข้างศาลเจ้าอ่างทอง ค้นในรถพบเงินเหรียญชนิด 1 บาท 5 บาท และ 10 บาท ใส่ไว้เต็มกระสอบปุ๋ยใบเล็ก รวม 15,000 บาท ส่วนกระบะท้ายรถมีกระเป๋าเสื้อผ้าและกระติกน้ำคลุมผ้าใบมิดชิด คุมตัวมาสอบสวนที่โรงพัก โดยมี พล.ต.ต. ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบก.ภ.จ.อ่างทอง ร่วมสอบปากคำด้วยตัวเองทราบชื่อผู้เป็นแม่คือ นางอ้อย (นามสมมติ) อายุ 32 ปี บ้านอยู่ อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ส่วนพ่อเลี้ยงของเด็กทั้ง 2 ซึ่งเป็นสามีใหม่ของนางอ้อยชื่อนายสถิตย์ มิตมาตย์ อายุ 43 ปี  

ทั้งคู่ยอมรับสารภาพว่า
 
ใช้ให้ลูกสาวทั้ง 2 คนออกเร่ขอทานหาเงินจริง เริ่มออกเดินทางจากบ้านช่วงสงกรานต์ตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา แล้วตระเวนขอเงินตามตลาดและแหล่งชุมชนเรื่อยมาไล่ตั้งแต่ จ.ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี เพิ่งมาขอที่ จ.อ่างทอง ได้เพียง 2 วัน โดยลูกสาวทั้ง 2 คน จะขอทานได้เงินเฉลี่ยวันละ 600-1,200 บาท ตั้งใจว่าจะพาลูกขอทานใน จ.อ่างทองจนครบทั้ง 7 อำเภอ เสร็จแล้วจะเดินทางกลับบ้านเพื่อนำเงินที่ขอทานได้ไปส่งงวดค่ารถปิกอัพคันดังกล่าว รวมทั้งรถ จยย.อีก 1 คัน ซึ่งจอดไว้ที่บ้าน แต่มาถูกตำรวจจับเสียก่อน   ภายหลังสอบปากคำพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาทั้งคู่ในข้อหาบังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม ยินยอมหรือกระทำด้วยประการใดให้เด็กไปเร่ร่อน หรือใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการขอทาน หรือกระทำด้วยประการใดอันเป็นการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก ก่อนควบคุมตัวแม่และพ่อเลี้ยงของเด็กทั้ง 2 คน ดำเนินคดีต่อไป 

ขณะเดียวกัน นายธนโภคิน รักซ้อน เจ้าหน้าที่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จังหวัดอ่างทอง เดินทางมาร่วมสอบปากคำเด็กเพิ่มเติม โดย ด.ญ.เอ๋ เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า
 
พ่อและแม่ของตนแยกทางกันตั้งแต่อายุได้ 9 ขวบ ตอนนั้นแม่มีอาชีพขายลูกโป่งและเครื่องดื่มตามตลาดนัด แต่ขายไม่ค่อยดี ทำให้ ทุนหมด ขณะนั้นกำลังเรียนหนังสืออยู่ชั้น ป.3 ที่โรงเรียนในหมู่บ้าน ส่วน ด.ญ.อ้อม น้องสาวยังเล็กมากอายุแค่ 5-6 เดือน กระทั่งแม่มีสามีใหม่และถูกเพื่อนของพ่อเลี้ยงแนะนำให้แม่ใช้ตนอุ้มน้องออกไปขอทานที่ตลาดนัดใน จ.ชัยภูมิ วันแรกได้เงินมา 400 บาท แม่นำไปซื้อของมาขาย


ด.ญ.เอ๋เล่าอีกว่า

ต่อมาเมื่อเห็นว่าขอทานได้เงินเยอะ แม่ให้ตนลาออกจากโรงเรียนแล้วพาไปขอทานตามตลาดที่แม่ไปขายของด้วย ก่อนหน้านี้ก็เคยถูกตำรวจจับมา 3-4 ครั้ง แต่ตำรวจสงสารจึงตักเตือนไม่ให้แม่ใช้ลูกขอทานอีก แต่แม่ก็ไม่ยอมเลิก ต่อมาพ่อเลี้ยงและแม่ได้ซื้อรถปิกอัพขับพาออกขอทานไปทั่วหลายจังหวัด และอาศัยนอนตามศาลาริมถนนและวัด ส่วนวิธีการตนจะจูงมือน้องสาวเดินขอทานไปด้วย ทำให้คนสงสารให้เงินมากเกือบทุกวัน แม่จะพาไปขอทานครั้งละ 1 เดือน พอได้เงินมากพอก็จะพากลับบ้านเอาเงินไปส่งค่ารถ หลังสอบสวนเสร็จสิ้นนายธนโภคินได้รับเด็กหญิง 2 พี่น้องไปไว้ที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.สระบุรี เพื่อให้การดูแลชั่วคราวก่อนรอญาติมารับไปอุปการะต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์