จับเสธ.เป๊ก หาจ้างฆ่าชาญชัย

จากคดีแก๊งทมิฬเหิมเกริมวางแผนลอบสังหารนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี อดีตประธานศาลฎีกา

แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบภาค 1 ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ และตำรวจกองปราบปราม ทราบความเคลื่อนไหวตะครุบตัวทีมมือปืนได้ก่อน 2 คนคือนายภานุพงศ์ รัตนาไพบูลย์ หรือกอล์ฟ อายุ 32 ปี ทำหน้าที่ขี่รถ จยย. และนายศักดิ์ชาย หรือแบงก์ แซ่ลิ้ม อายุ 27 ปี มือปืนขณะเตรียมก่อเหตุพร้อมของกลางปืนรีวอลเวอร์ .38 พร้อมกระสุน ภาพถ่ายนายชาญชัยเป้าสังหาร ภาพถ่ายรถเบนซ์ทะเบียน ดส 4777 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถประจำตำแหน่ง และภาพถ่ายบ้านของนายชาญชัย ต่อมาได้ขยายผลเข้าจับกุมนายคมิก สุขกาญจนกาศ หรือจ่าเหน่ง อายุ 32 ปี คนชี้เป้าและผู้ติดต่อมือปืนและ พ.ต.เทียนชัย เมืองจันทึก หรือผู้พันอ๊อต อายุ 45 ปี ผู้จ้างวาน สอบสวนให้การรับสารภาพพร้อมแฉจอมบงการยังสั่งให้เตรียมกำลังคนและอุปกรณ์ไว้ลอบเผาธนาคารและวางระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯอีกหลายจุดในวันที่ 8 เม.ย. อยู่ระหว่างสอบขยายผลเพื่อจับกุมจอมบงการที่ระบุเป็นนายทหารยศพันเอก
 

ความคืบหน้าคดีลอบสังหารองคมนตรี เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 เม.ย. ที่ห้องประชุมสารสิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พร้อม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.
1 นำตัว พ.ต.เทียนชัย นายคมิก นายภาณุพงศ์ และนายศักดิ์ชาย ผู้ต้องหาคดีลอบสังหารนายชาญชัยพร้อมของกลางมาแถลงผลการจับกุม ส่วนรายละเอียดการลอบสังหาร พ.ต.เทียนชัย เป็นผู้ที่ติดต่อนายคมิกจัดหามือปืนสังหารในราคา 5 แสนบาท โดยหลอกว่านายชาญชัยเป็นนักธุรกิจภาคเหนือ นายคมิกจึงติดต่อนายภาณุพงศ์จัดหามือปืนและ จยย. และนายภาณุพงศ์ได้จ้างวานนายศักดิ์ชายมือปืน โดยมอบรูปถ่ายนายชาญชัย รูปถ่ายบ้านพัก ทะเบียนรถยนต์ และขี่รถไปดูบ้านเป้าหมายหลายครั้ง กำหนดลงมือสังหารในวันที่ 4 เม.ย. แต่ไม่สบโอกาสลงมือก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบความเคลื่อนไหวตามรวบตัวได้ทั้งทีม

 

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีสำคัญ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมทุกคนให้การรับ สารภาพและได้พยานหลักฐานครบถ้วน ขอยืนยันว่าผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมเป็นผู้ต้องหาตัวจริงและเป็นคดีที่เกิดขึ้นจริง ผู้ต้องหาพยายามลงมือก่อเหตุถึง 3 ครั้งแต่ไม่สำเร็จ

 

ด้าน พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.1 ที่เข้าควบคุมคดีอย่างใกล้ชิด เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเร่งสอบสวนขยายผล

เชื่อมั่นว่าพยานหลักฐานที่มีอยู่สามารถสาวไปถึงผู้บงการได้ ส่วนปมสังหารยังไม่ทราบแน่ชัดขณะนี้ได้ตั้งไว้
2 ประเด็นคือความขัดแย้งส่วนตัวกับเรื่องการเมือง ส่วนเรื่องการรับงานมาสังหารนายชาญชัยทราบว่า พ.ต.เทียนชัยรับงานจากผู้บงการเป็นเงิน 1.5 ล้านบาท และหักหัวคิวจ้างวานนายคมิกเป็นเงิน 6 แสนบาท โดยนายคมิกคืนเงินให้ พ.ต.เทียนชัยไป 1 แสนบาท และว่าจ้างนายภาณุพงศ์เป็นเงิน 1.4 แสนบาท ก่อนนายภาณุพงศ์จะไปติดต่อนายศักดิ์ชายมือปืนในราคา 4 หมื่นบาท

 ส่วนความคืบหน้าของคดี เช้าวันเดียวกัน

พล.ต.อ. จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.วันชัย ถนัดกิจ รอง ผบช.ภ.
1 พล.ต.ต.ชิษณุพงศ์ ยุกตะทัต ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ภวัต พรมมะกฤต รอง ผบก. พ.ต.อ.สมชาย อินตาพวง ผกก.สภ.พระประแดง พร้อมทีมสืบสวนสอบสวนได้เข้าพบนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี เป้าสังหารของคนร้ายที่บ้านพักเลขที่ 109/16 ซอยสุขสวัสดิ์ 66/8ต.บางพึ่ง อ.พระประแดง เพื่อรายงานความคืบหน้าของคดีให้ทราบและมีการพูดคุยใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงเศษจึงเสร็จสิ้น


จากนั้นนายชาญชัยออกมาให้สัมภาษณ์กรณีถูกลอบสังหารว่า รู้สึกตกใจและระวังตัวมากขึ้น

ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุและผู้ประสงค์ร้ายว่าเป็นใคร อย่างไรก็ตาม ยังคงไปทำงานตามปกติ และยังใช้รถประจำตำแหน่งคันเดิม ไม่ได้มีการป้องกันอะไรเป็นพิเศษ และยังอยู่ที่บ้านไม่ย้ายหนีไปไหน หลังเกิดเหตุมีผู้ที่เป็นห่วงโทรศัพท์มาสอบถามเหตุการณ์และให้กำลังใจจำนวนมาก ขณะนี้ปลอดภัยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลเป็นอย่างดี

 

ด้าน พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีว่า ได้จับกุมผู้ต้องหา 4 คน

และอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังอีก
1 รายเป็นนายทหารยศ พันเอกแต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้เพราะเกรงจะกระทบต่อรูปคดี สำหรับคดีนี้ ผบ.ตร.ให้ความสนใจเป็นพิเศษและสั่งการให้ดูแลคณะองคมนตรี ตลอดจนบุคคลสำคัญ หลังเกิดเหตุมีผู้ที่ขอรับการคุ้มกันจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและไม่ต้องการคุ้มกัน อย่างไรก็ตาม ได้จัดกำลังไปดูแลทุกคน โดยเฉพาะที่บ้านนายชาญชัยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระประแดง จัดกำลังไปดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

 

ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.อ.พหล เหรียญทอง ผกก.ปพ.ศสส.บช.ภ.1 คุมตัวนายคมิก นายภานุพงศ์ และนายศักดิ์ชาย 3 ผู้ต้องหาไปส่งที่ สภ.พระประแดง

ท้องที่เกิดเหตุ โดยผู้ต้องหาทุกคนอยู่ในสภาพอิดโรย ส่วนการดำเนินคดีทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหานายภานุพงษ์ และนายศักดิ์ชายร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนนายคมิกถูกแจ้งข้อหาร่วมกันจ้างวานใช้ให้ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และจะนำตัวไปฝากขังศาลจังหวัดสมุทรปราการในวันที่
9 เม.ย. ส่วน พ.ต.เทียนชัย ถูกควบคุมตัวที่ บช.ภ.1

 

ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงคดีลอบสังหารนายชาญชัยว่ายังไม่ทราบเป็นเรื่องส่วนตัวหรือการเมือง

ส่วนที่มีนายทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีไม่ทราบมีเครือข่ายโยงใยอย่างไร ต้องสืบสวนกันต่อไป เมื่อถามว่าได้กำชับกำลังพลอย่างไร เมื่อมีทหารเข้าไปเกี่ยวข้อง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า มีกฎระเบียบอยู่แล้ว และผู้บังคับบัญชากำชับอยู่ตลอดเวลา แต่ในเรื่องของตัวบุคคล ความคิดของแต่ละคนก็ต้องอยู่ที่แต่ละคนว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะไม่ได้เป็นเรื่องส่วนรวมหรือระบบ สำหรับบทลงโทษนั้นก็ว่ากันไปตามกฎหมาย

 

ส่วน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กล่าวถึงคดีที่เกิดขึ้นว่า หากผลการสอบสวนโยงไปถึงใครก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

เมื่อถามว่า กองทัพจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างไร พล.อ.อนุพงษ์ตอบว่า กองทัพไม่มีฐานข่าวในส่วนนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจมีฐานข่าวประสานมาเราก็ให้ความร่วมมือบนพื้นฐานว่า ทุกคนไม่ว่าใครก็ตามจะต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

ขณะเดียวกัน ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประชุมคณะทำงานเพื่อประเมินสถานการณ์ทางการเมือง ในที่ประชุมได้มีการวิเคราะห์ถึงกรณีการลอบยิงนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรีและอดีตประธานศาลฎีกา

ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังน่าจะเป็นคนมีสี มีความเกี่ยวพันกับกลุ่มทหารที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์คาร์บอมบ์ในช่วงรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เมื่อปี
2549 และเป็นทหารรุ่นดังที่เคยผ่านการปฏิวัติรัฐประหารมาแล้ว เพื่อเป็นการสร้างสถานการณ์ และมีผลประโยชน์เกี่ยวกับการคุมสถานบันเทิงและธุรกิจกลางคืนเข้ามาเกี่ยวข้อง รวมทั้งโยงถึงกลุ่มทหารการเมืองอีกกลุ่มที่มีผลประโยชน์เกี่ยวกับสัมปทานของบริษัทเอกชนในพื้นที่ตลาดคลองเตย ล่าสุดที่มีการจับกุม พ.ต.เทียนชัย เมืองจันทึก ผู้ต้องหาจ้างวานฆ่านายชาญชัย และ พ.ต.เทียนชัยยังให้การซัดทอดนายทหารยศพันเอกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทของ เสธ.คนดังที่เคยติดตามอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้ สัมภาษณ์กรณีลอบสังหารองคมนตรีที่มีการจับนายทหารยศ พ.ต.และซัดทอดไปถึงนายทหารยศ พ.อ.

จะพยายามสอบสวนหาคนผิดมาลงโทษให้ได้ เมื่อถามว่า จะส่งเจ้าหน้าที่ไปอารักขาบุคคลสำคัญเป็นพิเศษ รวมไปถึงบุคคลอยู่ที่ในรายชื่อที่เข้าไปหารือที่บ้านนายปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา ด้วยหรือไม่ นายสุเทพตอบว่า เราไม่ประมาท ใครที่มีกระแสข่าวเราก็จะดูแลเหมือนกับกรณีของนายชาญชัย

 ล่าสุด ช่วงเย็นวันเดียวกัน พนักงานสอบสวนบช.ภ.1 ได้นำพยานหลักฐานคดีลอบสังหารนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี และอดีตประธานศาลฎีกา

ไปยื่นขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับนาวาเอกจักรกฤษณ์ เสขะนันท์ หรือเสธ.เป๊ก คนสนิท พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และนายแจ๊ค ไม่ทราบนามสกุล ในข้อหาร่วมกันใช้จ้างวานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งศาลได้อนุมัติหมายจับแล้ว จากนั้น พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.
1 ได้ประสานไปยังกองทัพเรือทำการควบคุมตัวนาวาเอกจักรกฤษณ์ และอยู่ระหว่างเดินทางไปรับตัวมาสอบสวน

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์