จับเพิ่ม2-โทรม ม.3 ก๊วนหื่นวัย14ยอมรับวางแผนมอมยา

กรณีนายมนตรี สินทวิชัย หรือครูยุ่น อดีต ส.ว. สมุทรสงคราม และเลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก พา ด.ญ.แก้ว (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสงคราม เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท. ชยมต์ นิติวัฒนานนท์ สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองสมุทรสงคราม ระบุว่า ด.ญ.แก้ว ถูก ด.ญ.พร (นามสมมติ) เพื่อนนักเรียนหญิงร่วมชั้นหลอกไปให้เพื่อนนักเรียนชายอีก 5 คนมอมยาและรุมโทรม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา ที่บ้านของ ด.ช.โต (นามสมมติ) อายุ 14 ปี พร้อมทั้งถ่ายคลิปวีดิโอเผยแพร่ในหมู่นักเรียนร่วมสถาบันนั้น

ในส่วนความคืบหน้าของคดี เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 7 ธ.ค. ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิคุ้มครองเด็กได้พา ด.ญ.แก้ว ผู้เสียหายไปตรวจหาร่องรอยและบาดแผลประกอบคดีที่รพ.สมเด็จพระพุทธเลิศหล้า เบื้องต้นแพทย์ระบุว่าผู้เสียหายมีร่องรอยการถูกร่วมประเวณีจริง จากนั้น ได้เข้าพบ พ.ต.ท. ชยมต์ นิติวัฒนานนท์ สารวัตรเวรเจ้าของคดี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม

โดยยืนยันว่าวันเกิดเหตุ ด.ญ.พร เป็นคนโทรศัพท์ชวนไปเที่ยวบ้านของ ด.ช.โต พอไปถึง ด.ช.โตก็นำเครื่องดื่มรสน้ำส้มมาให้กิน ประมาณ 15 นาทีก็มีอาการสะลึมสะลือก่อนจะถูกพาเข้าไปในห้องนอนของด.ช.โตลงมือขืนใจเป็นคนแรก โดยมี ด.ช.สันต์ ด.ช.เล็ก ด.ช.แบงก์ และ ด.ช.อ้วน (นามสมมติ) อายุ 14 ปีเท่ากันหมด ยืนดูอยู่ข้างเตียงนอน จนกระทั่ง ด.ช.โตสำเร็จความใคร่จึงเอ่ยปากท้าทายเพื่อนนักเรียนชายทั้ง 4 คน

ให้ร่วมข่มขืนผู้เสียหายจนเสร็จกิจทั้งหมด ก่อนที่ ด.ช.โตจะลงมือขืนใจซ้ำเป็นรอบที่ 2 ทุกขั้นตอนมีการถ่ายคลิปวีดิโอพร้อมเสียงตลอดเวลาด้วย หลังสอบปากคำ ด.ญ.แก้วเสร็จสิ้น ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิคุ้มครองเด็กได้ขอรับตัว ด.ญ.แก้วกลับไปดูแลที่มูลนิธิฯ เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจต่อไป

ทางด้านการติดตามตัวกลุ่มผู้กระทำผิด เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน ทาง พ.ต.ท.วิษณุ ทวีแสง สว.สส.สภ.อ. เมืองสมุทรสงครามได้นำตัว ด.ญ.พร และ ด.ช.โต มาสอบปากคำเป็นชุดแรกใช้เวลาสอบสวนอยู่ร่วมครึ่งวัน หรือ 6 ชม. ทางผู้ต้องหาทั้ง 2 ปฏิเสธและจะขอไปให้การชั้นศาล ต่อมาเวลา 13.00 น. ผู้ปกครองของ ด.ช.สันต์ได้พา ด.ช.สันต์มามอบตัวที่โรงพักและถูกแยกสอบคนละห้อง ขณะที่กำลังตำรวจอีกชุดได้เข้าจับกุม ด.ช.เล็กผู้ต้องหาที่ร่วมกระทำผิดขณะหนีไปบวชเณรอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง โดยเพิ่งจะบวชเมื่อช่วงเย็นวันที่ 6 ธ.ค.

ที่ผ่านมา หลังทราบข่าวว่า ด.ญ.แก้วเข้าแจ้งความกับตำรวจ มอบให้ เจ้าอาวาสทำการสึกก่อนนำตัวมาสอบปากคำเมื่อช่วงเย็น วันเดียวกัน โดยมีนักจิตวิทยา นักประชาสงเคราะห์ พนักงานอัยการและผู้เกี่ยวข้องร่วมสอบสวน เบื้องต้นมี 1 ในกลุ่มผู้ต้องหากลับใจยอมรับสารภาพว่าร่วมกันกระทำผิดจริง โดยเป็นคนวางแผนและจัดหายากล่อมประสาทมาผสมในน้ำส้มให้เหยื่อกินก่อนช่วยกันรุมโทรม

ด้าน พ.ต.ท.ชยมต์ นิติวัฒนานนท์ สารวัตรเวรเจ้าของคดีกล่าวว่า ในส่วนของ ด.ญ.พร ด.ช.โต ด.ช.สันต์ และ ด.ช.เล็ก ได้ตั้งข้อหาร่วมกันใช้กำลังบังคับข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี และข้อหาร่วมกันเผยแพร่ภาพลามกอนาจาร คุมตัวส่งสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.ราชบุรี ต่อไป ส่วนเรื่องที่ผู้ต้องหาบางคนปฏิเสธก็เป็นสิทธิที่จะทำได้ แต่ทางพนักงานสอบสวนก็มีพยานหลักฐานหลายอย่างที่สามารถจะเอาผิดกลุ่มผู้ต้องหาได้ โดยเฉพาะคลิปวีดิโอที่บันทึกเหตุการณ์ ทั้งหมดไว้ สำหรับ ด.ช.แบงก์ และ ด.ช.อ้วน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ก็จะขออนุมัติต่อศาลเพื่อออกหมายจับต่อไป

ทางด้านนายมนตรี สินทวิชัย หรือครูยุ่น กล่าวถึงคดีที่เกิดขึ้นกับ ด.ญ.แก้วว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงปัญหาทางเพศในหมู่วัยรุ่นไทย ที่นับวันจะยิ่งรุนแรงและวิปริตมากขึ้น จากหลักฐานที่ยึดได้พบว่ากลุ่ม นร.ชายมีพฤติกรรมเลียนแบบกันในทางที่ผิด สร้างความบอบช้ำให้กับผู้เสียหาย ครอบครัวและสังคมไทยอย่างรุนแรง สมควรที่จะมีมาตรการป้องกันและบทลงโทษที่จริงจังเด็ดขาดมากกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยอีกต่อไป