จับหมอเก๊ปลอมปริญญารักษาคนไข้

ตร.อุดรฯจับหนุ่มแสบอ้างตัวเป็นหมอ เปิดคลินิกรักษาชาวบ้านกลางเมืองอุดร แถมร.พ.ยังรับเป็นหมออีกด้วย

เผยเรียนจบแค่ม.6 แต่อยากเป็นหมอ

ทำปลอมใบปริญญาแพทย์ มศวไปสมัครร.พ.ดังๆ ทั้งในกทม.และอุดรฯ ทางร.พ.ก็รับ ล่าสุดไปตรวจคนไข้ให้ยาจนบวมไปทั้งตัว คนไข้ไปร้อง สสจ.เรื่องเลยแดง สั่งตรวจค้นทั้งคลินิก-ร.พ.ที่เคยรักษา

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 29 พ.ค.

ที่กองบังคับการตำรวจภูธรอุดรธานี

- พล.ต.ต.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา ผบก.ภ.จว.อุดรธานี
- พ.ต.อ.สรศักดิ์ เย็นเปรม รองผบก.
- พ.ต.ท.ณัฐนนท์ ประชุม รองผกก.กลุ่มงานสืบสวน
- พ.ต.ต.ธนูศิลป์ มะโรณีย์ สว.
- พ.ต.ต.กานต์ ตั้งวิตร สว.
- ร.ต.อ.ประเสริฐ ธรรมชัย
- ร.ต.ท.สัญชัย ถิ่นวงษ์แดง รองสว.กลุ่มงานสืบสวน
- น.พ.สัญชัย ปิยะพงษ์กุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี

ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ที่แอบอ้างตัวเป็นนายแพทย์ทำงานในโรงพยาบาลชื่อดัง และเปิดคลินิกของตนเองรักษาคนไข้มานานหลายปี

ผู้ต้องหาคือนายสมศักดิ์ โนนเสนา อายุ 24 ปี

หรือชื่อที่ใช้ในการต้มตุ๋น คือน.พ.สมิทธิ์ โรซาร์พิทักษ์ อยู่บ้านเลขที่ 55 ม.12 ต.หัวนาคำ อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี ที่อยู่ปัจจุบันอยู่ที่คลินิกสมิทธิ์การแพทย์และสุขภาพ เลขที่ 150 ม.5 บ้านจีต ต.บ้านจีต กิ่งอ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี

พร้อมของกลางบัญชีรายรับรายจ่ายของคลินิก 1 เล่ม

ใบวินิจฉัยโรคคนไข้ 40 แผ่น ประวัติคนไข้ 1 เล่ม ใบเสร็จสั่งซื้อยาเวชภัณฑ์ 10 แผ่น หนังสือการศึกษาตำราเวชศาสตร์ 2 เล่ม ผ้าปิดปากกันเชื้อโรค 1 ชิ้น อุปกรณ์การตรวจโรค หูฟัง เข็มฉีดยา เครื่องวัดความดันโลหิต และอื่นๆ 1 กล่อง ปริญญาบัตรปลอม

ระบุจบคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

เกียรตินิยมอันดับ 2 ลงวันที่ 9 มีนาคม 2548 จำนวน 1 แผ่น ใบประกาศการผ่านการอบรมจากสมาคมโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย 1 แผ่น ระเบียนการรักษาผู้ป่วย 588 ราย และเสื้อกาวน์สีขาวปักชื่อน.พ.สมิทธิ์ โรซาร์พิทักษ์ 2 ตัว

พล.ต.ต.ธีระศักดิ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 พ.ค. มีพระภิกษุรูปหนึ่งมาร้องทุกข์กับน.พ.สัญชัย ว่าได้เข้ารักษาตัวที่ร.พ.วัฒนา ตรงข้ามสวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม เขตเทศบาลนครอุดรธานี กับแพทย์คนหนึ่งชื่อหมอสมิทธิ์

ปรากฏว่าเมื่อกลับไปวัดแล้วกินยา

เกิดอาการบวมไปทั้งตัว จึงมีความสงสัยในพฤติกรรมของนายแพทย์คนนี้ว่าจะไม่ได้จบแพทย์มาจริงๆ แล้วมาอ้างตัวว่าเป็นแพทย์ทำการรักษาคนไข้

พล.ต.ต.ธีระศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า

หลังจากนั้นน.พ.สัญชัย ได้เดินทางไปตรวจสอบที่ร.พ.ดังกล่าว พบว่าเป็นนายแพทย์ที่รับจ๊อบเป็นแพทย์เวร แทนแพทย์เวรประจำ มารักษาอยู่ที่ร.พ.วัฒนา และร.พ.เปาโล อุดรธานี และจากการตรวจสอบต่อไป

ยังพบว่านายแพทย์คนดังกล่าวมีคลินิก ชื่อ

"สมิทธิ์การแพทย์และสุขภาพ" ตั้งอยู่เลขที่ 150 ม.5 ต.บ้านจีต กิ่งอ.กู่แก้ว จึงนำเรื่องนี้เข้าปรึกษากับตน จึงมอบหมายให้พ.ต.ท.ณัฐนนท์นำกำลังเดินทางไปพร้อมด้วยน.พ.สัญชัย ไปร่วมกับสภ.กิ่งอ.กู่แก้ว

ขอตรวจสอบสถานพยาบาลดังกล่าว

เมื่อไปถึงก็พบกับน.พ.สมิทธิ์ พร้อมด้วยกับน.ส.อนุพร จันทะสิงหาญ อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 ม.4 ต.บ้านจีต กิ่งอ.กู่แก้ว จ.อุดรฯ ลูกจ้าง จึงนำตัวมาสอบสวน

จากการสอบสวนพบว่าน.พ.สมิทธิ์หรือนายสมศักดิ์

แท้ที่จริงไม่ได้เรียนจบแพทย์และไม่ได้เป็นนายแพทย์ และคลินิกสมิทธิ์การแพทย์และสุขภาพ ก็ไม่มีในสารบบของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี จึงดำเนินคดี ทำให้ทราบว่าผู้ต้องหาชื่อจริงคือนายสมศักดิ์

พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ว่า

ประกอบการและดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยมิชอบ ใช้คำว่านายแพทย์ประกอบกับชื่อโดยไม่มีสิทธิ และใช้คำแสดงวุฒิการศึกษาทางการแพทย์ศาสตร์ประกอบกับชื่อโดยไม่มีสิทธิ ปลอมเอกสารและใช้เอกสารสิทธิปลอม

พ.ต.อ.สรศักดิ์ กล่าวว่า

จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า บ้านเดิมอยู่ที่อ.ศรีธาตุ ครอบครัวยากจน หลังจากเรียนจบชั้นป.6 ก็ลาออกไปบวชที่วัดจันทรังษี อ.วังสะพุง จ.เลย จนจบเทียบเท่าชั้นม.6 แต่ยังอยากจะเป็นแพทย์ จึงสมัครสอบเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒในปี 2544 แต่สอบไม่ผ่าน

จึงไปทำงานเป็นพนักงานร้านเซเว่นอีเลฟเว่น

แต่ก็หาซื้อหนังสือเกี่ยวกับการรักษาโรคมาอ่านจนขึ้นใจ และทำปลอมใบวุฒิการศึกษา ใบปริญญาบัตรขึ้น โดยนำใบปริญญาบัตรของคนอื่นมาแก้ไขชื่อของตนลงไป ใช้นามสกุลของเจ้าของใบปริญญาเดิม จากนั้นไปสมัครเป็นแพทย์ตามร.พ.เอกชนต่างๆ

สำหรับร.พ.ที่นายสมศักดิ์เคยเข้าทำงานด้วย เช่น

- ร.พ.กล้วยน้ำไท กรุงเทพ
- ร.พ.มหาราชมหาชัย จ.สมุทรสาคร
- ร.พ.วัฒนาการแพทย์ อุดรธานี
- ร.พ.เปาโลอุดรธานี

ทุกแห่งก็รับเป็นแพทย์โดยไม่มีปัญหาอะไร ที่ผ่านมารักษาคนไข้ในร.พ.เอกชนมาถึง 5 แห่ง ตั้งแต่ปี 2548

นอกจากนั้นยังเปิดคลินิกของตัวเองด้วย

เมื่อเดือนม.ค. และกำลังรับสมัครชาวบ้านเข้าร่วมโครงการหลักประกันสุขภาพ รวมทั้งหมดแล้วรักษาคนไข้มากว่าพันคน หลังสอบปากคำแล้วจึงควบคุมตัวส่งร้อยเวรสภ.กิ่งอ.กู่แก้ว ดำเนินคดีต่อไป

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด