จับสึกเจ้าอาวาส เสพยาบ้า ค้นกุฏิมีหนังโป๊อีก

เมื่อเวลา 08.20 น. วันที่ 8 ต.ค. พ.ต.อ. วัชรินทร์ บุญคง ผกก.สภ.ปักธงชัย จ.นคร ราชสีมา

พร้อมด้วย พ.ต.ท.ภานุเทพ ไชยคำภา รองผกก.สส. พ.ต.ท.สัมภาษณ์ ศรีจันทร์ทึก รองผกก. พ.ต.ต.ชาญศักดิ์ ประสาทไทย สว.สส. และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บุกเข้าจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย ในกุฏิเจ้าอาวาสวัดป่าฉัตรมงคล หมู่ 14 ต.ธงชัยเหนือ อ.ปักธงชัย คือ นายวิทยา ศักดิ์ศินาทน์ อายุ 59 ปี หรือ พระอาจารย์น้อย อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าฉัตรมงคล นายสถาพร สินปรุ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/1 หมู่ 14 ต.ธงชัยเหนือ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา และนายประสงค์ คำดอน อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 3 ต.งิ้ว อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา พร้อมยาบ้า 3 เม็ด กัญชาแห้ง บรรจุอยู่ในถุงหนัก 5.6 กรัม เขียง 1 อัน อุปกรณ์การเสพกัญชา 1 อัน มีด 1 เล่ม ไฟแช็ก 1 อัน แผ่นซีดีลามกอีกจำนวนหนึ่ง ซุกซ่อนอยู่ภายในกุฏิดังกล่าว

จากการสอบสวนทราบว่า นายสถาพรและนายประสงค์ขี่รถจักรยานยนต์ไปซื้อยาบ้ามาจากเอเยนต์รายหนึ่งในเขต อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี

และเตรียมนำยาบ้ามาขายต่อให้กับพระอาจารย์น้อย แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ก่อน จึงขยายผลและนำกำลังเข้าไปจับกุมพระอาจารย์น้อยภายในกุฏิที่พักเจ้าอาวาส วัดป่าฉัตรมงคล ซึ่งจากการตรวจสอบภายในกุฏิยังพบกัญชาและอุปกรณ์การเสพ รวมถึงยังพบแผ่นซีดีลามกอีกจำนวนหนึ่ง จึงนำตัวมาสอบสวนที่สภ.ปักธงชัย

อดีตพระอาจารย์น้อยให้การรับสารภาพว่า ตนบวชพระมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2534 ที่วัดแห่งหนึ่งในจ.ขอนแก่น และมาเป็นเจ้าอาวาสวัดฉัตร มงคลแห่งนี้ในปีพ.ศ.2545

แต่มาลักลอบเสพยาบ้าและกัญชา เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา โดยลองตามคำชักชวนของลูกศิษย์แต่ไม่ติด สาเหตุที่เสพเพราะต้องการทดลองเสพจากลูกศิษย์ที่นำมาขายต่อให้ จนกระทั่งมาถูกตำรวจจับดังกล่าว ก่อนนำตัวไปให้เจ้าคณะอำเภอปักธงชัยสึกจากความเป็นพระ เพื่อดำเนินคดี ต่อไป

เวลา 11.00 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง ผบก.ภ.จว.ตราด สั่งการให้ พ.ต.ท.สนิท นิลบุตร หน.ชุดสืบสวนปราบปราม สภ.เมืองตราด

พร้อมชุดสืบสวน ล่อซื้อยาบ้า 10 เม็ด จากพระอนุสรณ์ จุ้ยวอน พระลูกวัดโยธานิมิต ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด โดยใช้เงินจำนวน 2,900 บาท และขอให้มาส่งมอบที่บริเวณกุฏิวัด กระทั่งเวลา 12.00 น. พระอนุสรณ์นำยาบ้า 10 เม็ด มามอบให้สายลับ ตำรวจจึงแสดงตัวจับกุมได้พร้อมยาบ้าและเงินล่อซื้อ ต่อมาขยายผลจับกุมพระขจรยศ กรภัทระ ที่อยู่ในวัดเดียวกัน จากนั้นนำมาสึกต่อหน้าผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโยธานิมิต