จับมือปืนซิ่งแหกด่านยิงตร.-หลังฆ่าครูซี7

ตร.ยโสธรรวบ 2 มือปืนโหดฆ่าครูซี 7 ที่อำนาจเจริญ หนีผ่านเข้ายโสธร ตร.ตั้งด่านจับซิ่งปิคอัพแหกด่าน พร้อมใช้ปืนอาก้ายิงสู้ตร.เจ็บ 1 นาย ตร.ภาค 3 ปิดล่าข้ามคืน โจรจนมุมหนีเข้าสวนยาง กำลังนับร้อยกระจายปิดล้อมจนจับได้ช่วงเย็น พร้อมของกลางปืนอาก้าพับฐาน สารภาพเป็นอดีตทหารพรานรับค่าหัว 5 หมื่น ส่วนปมสังหารโหดมุ่งเรื่องชู้สาวและมรดก

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 29 ส.ค. พ.ต.อ.ดิเรก บุญสนธิ ผกก.สภ.อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร ได้รับแจ้งทางวิทยุจาก ตร.สภ.อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ จึงวิทยุสั่งการให้กำลัง ตร.ในสังกัดตั้งจุดสกัดตามเส้นทาง โดยขณะที่ ส.ต.อ.วัชพงษ์ ไชยจักร ผบ.หมู่งานจราจร สภ.อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร กำลังเข้าเวรได้รับทราบทางวิทยุสื่อสาร จากตำรวจสภ.อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ ขอให้ตำรวจ สภ.อ.เลิงนกทา สกัดจับรถยี่ห้อมิตซูบิซิ สีบรอนซ์เทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน คนร้ายที่ลงมือยิงนางรุจิรา ธารา อายุ 45 ปี อาจารย์ 3 ระดับ 7

ครูโรงเรียนโคกสารคันสูง ต.โคกสาร อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ กำลังมุ่งหน้าเข้ามาตามถนนสายชานุมาน-เลิงนกทา หลังรับแจ้งส.ต.อ.วัชพงษ์ ไชยจักร พร้อมด้วย จ.ส.ต.ธีรวัฒน์ ภูมิพัฒน์ หน.จราจร ตั้งจุดสกัดบริเวณหน้าบ้าน นายไชยา ไชยสัตย์ ส.จ.เขตอ.เลิงนกทา จ.ยโสธร พบรถคนร้ายวิ่งมาด้วยความเร็วสูง เมื่อถึงจุดสกัดคนร้ายที่นั่งด้านซ้ายมือคู่คนขับ ใช้ปืนอาก้ากราดยิงฝ่าด่านตำรวจชุดแรก

โดยกระสุนปืนถูกที่ชายโครงด้านขวาของส.ต.อ.วัชพงษ์ ไชยสาร จำนวน 1 นัด จากนั้นคนร้ายได้ขับรถมุ่งหน้ามายังถนนสายวารีราชเดช โดยมี จ.ส.ต.ธีรวัฒน์ ภูมิพัฒน์ หน.จราจร สภ.อ.เลิงนกทา ขับรถจักรยานยนต์ตามประกบรถคนร้ายอย่างกระชั้นชิด พร้อมวิทยุให้ตำรวจสภ.อ.ไทยเจริญ ช่วยสกัดช่วงจังหวะนั้นมีรถบรรทุกผู้ต้องหาสภ.อ.เลิงนกทา วิ่งสวนทางมาและได้ใช้รถจอดขวางบริเวนสะพานข้ามลำโพง เขตเลิงเก่า แต่รถคนร้ายยังขับฝ่าออกมาได้อีกครั้ง

โดยมาเลี้ยวขวาเข้าถนนลูกรัง ทางเข้าภูภากลาง และบริเวนนั้นเป็นป่าสวนยางของชาวบ้าน ซึ่งคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นทางตัน หลังวิ่งมาได้ 10 ก.ม. คนร้ายเจอทางตันเลยจอดรถทิ้งไว้ที่บ้านนายประทวน-นางคำม่าย ไชยสัตย์ แล้วคนร้ายได้วิ่งเข้าป่าสวนยาง ประกอบกับช่วงนั้นมืดค่ำ ตำรวจจึงตรึงกำลังปิดล้อมพื้นที่ป่าสวนยาง เขตบ้านดอนฮี ต.สวาท อ.เลิงนกทา ไว้จนถึงรุ่งเช้าของวันเดียวกันนี้

จากการสอบสวน นายประทวนและนางคำม่าย สองสามีภรรยาทราบว่าคนร้ายมี 2 คน หนึ่งมีผมสีทองอายุประมาณ 25-30 ปี แบกปืนยาวไปด้วย ส่วนคนที่ 2 ผมขาวเกรียน อายุประมาณ 50-60 ปี หอบแฟ้มเอกสาร และกระเป๋าสีดำ วิ่งผ่านใต้ถุนบ้านตนเองไป ซึ่งขณะนั้นตนและภรรยากำลังนั่งอยู่ชานบ้าน ต่อมาตำรวจได้ออกแกะรอยพบรอยเท้าคนร้าย 2 คน เดินข้ามห้วยเข้ามายังถนนลาดยางจึงขอกำลังอาสาสมัครหมู่บ้าน ในละแวกนั้นช่วยปิดล้อมเส้นทางหลบหนีไว้อย่างรัดกุม

ขณะเดียวกันตำรวจจากกองวิทยาการตำรวจภูธร จ.ยโสธร รุดไปตรวจสอบรถคนร้ายที่จุดคนร้ายจอดรถทิ้งไว้ พบปลอกกระสุนอาก้า จำนวน 5 ปลอก อยู่ในถุงผ้าสีน้ำเงิน คาดว่าเป็นปลอกกระสุนที่คนร้ายใช้ยิงครู และยิงฝ่าด่านตำรวจ สภ.อ.เลิงนกทา และพบแผ่นป้ายทะเบียนรถ 2 แผ่น ที่คนร้ายถอดซุกไว้ที่ใต้เบาะที่นั่งด้านคนขับ ทะเบียน บค-8205 จังหวัดมุกดาหาร ชื่อผู้ครอบครองรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ คือนางทองใบ อามาตย์มนตรี อยู่บ้านเลขที่ 179 ม.3 ต.ค้อ อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร จึงนำรถคันดังกล่าวมาเก็บไว้ที่ สภ.อ.เลิงนกทา ส่วนอาการ ส.ต.อ.วัชพงษ์ อาการปลอดภัยหลังร.พ.ยโสธรผ่าตัดและรักษาบาดแผล

ด้าน พล.ต.ต.สมพิศ ชนะมี ผบก.ตร.ภ.จว.ยโสธร สั่งการให้ตำรวจสภ.อ.เลิงนกทา สภ.อ.ไทยเจริญ และ สภ.อ.กุดชุม จัดกำลังเข้าเคลียร์พื้นที่ในเช้าวันเดียวกันนี้ คาดว่าคนร้ายยังคงวนเวียนในจุดจอดรถทิ้งไว้ ส่วนสาเหตุการจ้างมือปืนยิงครู คงมาจากเรื่องมรดก และเรื่องส่วนตัว

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 30 ส.ค. พล.ต.ต.สุรสีห์ สุนทรศารทูล รองผบช.ภาค 3 และ พ.ต.อ.องอาจ ผิวเรืองนนท์ รองผบก.ภ.ยโสธร พ.ต.อ.ดิเรก บุญสนธิ ผกก.สภ.อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร นำกำลังไล่ล่ามือปืนไปจนมุมที่ลำห้วย กลางทุ่งนา บ้านกุดขุ่น ม.4 ต.กุดเชียงหมี อ.เลิงนกทา และสามารถจับได้โดยละม่อม นำตัวผู้ต้องหาไปค้นปืนอาก้าแบบพับฐานที่บริเวณลำห้วย บ้านนาเซ ม.4 ต.สามัคคี อ.เลิงนกทา ซึ่งอยู่จากจุดจับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ประมาณ 8 ก.ม. และอยู่ห่างจากจุดคนร้ายทั้ง 2 จอดรถทิ้งประมาณ 15 ก.ม.

พล.ต.ต.สุรสีห์ สอบสวนผู้ต้องหา ทราบชื่อผู้ที่ลงมือยิงครูที่ อ.ชานุมาน ชื่อนายอเนก สุขรี่ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 ม.1 ต.โพนงาม อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร ให้การรับสารภาพว่ารับจ้างมายิงครู

ส่วนคนร้ายอีกคน ชื่อนายสัน อามาตมนตรี อายุ 56 ปี เลขที่ 45/1 ม.3 ต.บ้านค้อ อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร ให้การว่าเป็นคนขับรถและชี้เป้าให้นายอเนก เป็นคนใช้ปืนอาก้าประกบยิง ส่วนผู้จ้างวาน ผู้ต้องหายังปิดปากเงียบ ตำรวจจึงควบคุมตัวมาสอบสวนขยายผลที่สภ.อ.เลิงนกทา

พล.ต.ต.สุรสีห์ เปิดเผยว่า จากการตรวจประวัติของนายอเนก อดีตเป็นทหารพรานปลดประจำการ ชอบใช้ปืนอาก้าก่อเหตุในเขตพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 และภาค 4 โดยจะรับจ้างฆ่าคนในราคา 40,000-100,000 บาท ส่วนคดีนี้ใครเป็นคนจ้างวานคงจะสืบสวนหาไม่ยาก เบื้องต้นตำรวจตั้งประเด็นไว้ 2 ประเด็น เรื่องชู้สาว และประเด็นขัดแย้งเรื่องมรดก โดยสามีผู้ตายเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุรถยนต์เมื่อปีที่ผ่านมา และมีครูด้วยกันมาติดพัน ทำให้ลูกๆ สามีใหม่ไม่พอใจโดยมาขู่อาฆาตผู้ตายหลายครั้ง คดีนี้คงสรุปได้ในเร็วๆ นี้ เพราะเราจับกุมมือปืนและคนชี้เป้าได้

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด