จับฝ่ายกม.ครูยุ่น ทั้งที่ไปช่วยเด็ก

จับฝ่ายกม.ครูยุ่น ทั้งที่ไปช่วยเด็ก

หัวหน้าฝ่ายกฎหมายมูลนิธิคุ้มครองเด็ก กับครูที่ปรึกษาของเด็กหญิงวัย 13 ปี ที่ถูกแม่บังคับบำเรอกามพ่อเลี้ยงเศรษฐี วิ่งโร่ร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับรอง ผวจ.ชุมพร ระบุนำเด็กเหยื่อพ่อเลี้ยงหื่นกาม ไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่กลับถูกพนักงานสอบสวนคุมตัวดำเนินคดีในข้อหาพรากผู้เยาว์ เนื่องจากถูกแม่และพ่อเลี้ยงเด็กแจ้งความไว้ตั้งแต่รู้ว่ามูลนิธิฯ รับเด็กไว้ในความดูแล รอง ผวจ. รับปากให้ความเป็นธรรม สั่งนิติกรจังหวัด ประสานพนักงานสอบสวนให้แจ้งข้อหาแล้วปล่อยตัวโดยไม่มีประกัน

หัวหน้าฝ่ายกฎหมายมูลนิธิคุ้มครองเด็ก กับครูเด็กหญิงเหยื่อกามพ่อเลี้ยง ร้องเรียนรอง ผวจ.ถูกตำรวจกลั่นแกล้งดำเนินคดีรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 3 มี.ค. นายเตชาติ์ มีชัย อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/1 ถนนลาดพร้าว 106 เขตวังทองหลาง กทม. หัวหน้าฝ่ายกฎหมายมูลนิธิคุ้มครองเด็ก พร้อมด้วยนางสุมณฑา กรองเห็น อายุ 30 ปี อาจารย์โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ชุมพร เดินทางไปที่ศูนย์ราชการจังหวัดชุมพร เพื่อร้องขอความเป็นธรรมกับนายพินัย อนันตพงศ์ ผวจ.ชุมพร แต่นายพินัยไปราชการที่กรุงเทพฯ จึงเข้าร้องขอความเป็นธรรมผ่านนายพินิจ เจริญพานิช รอง ผวจ.ชุมพร โดยระบุว่าถูกพนักงานสอบสวน สภ.อ.หลังสวน กลั่นแกล้งดำเนินคดีในข้อหาพรากผู้เยาว์

นายเตชาติ์ระบุถึงเบื้องหลังคดีที่ถูกตำรวจดำเนินคดี ว่า สืบเนื่องมาจากกรณีที่นายมนตรี สินทวิชัย หรือครูยุ่น ส.ว.สมุทรสงคราม เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก นำ ด.ญ.เก๋ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ชุมพร เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.อุดม เลิศเพชรไพศาล พนักงานสอบสวน สภ.อ.หลังสวน ให้ดำเนินคดีกับนายกิจจา วงศ์ประสิทธิ์ อายุ 56 ปี พ่อเลี้ยง เศรษฐีเจ้าของธุรกิจคาร์แคร์และเจ้าของนากุ้งนับพันไร่ใน อ.หลังสวน กับนางวิ (นามสมมติ) อายุ 36 ปี แม่แท้ๆของ ด.ญ.เก๋ ที่บังคับให้ ด.ญ.เก๋ ยอมพลีกายสังเวยกามให้พ่อเลี้ยงจอมหื่น เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา

หัวหน้าฝ่ายกฎหมายมูลนิธิคุ้มครองเด็กกล่าวต่อว่า หลังจากเข้าแจ้งความ พนักงานสอบสวนได้จับกุมนางวิดำเนินคดีแล้ว ส่วนนายกิจจาหลบหนีหายหน้าไปอย่างไร้ร่องรอย ส่วน ด.ญ.เก๋ ทางมูลนิธิคุ้มครองเด็ก เดินทางมารับไปจากโรงเรียนเมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมีนางสุมณฑา อาจารย์ที่ปรึกษาของ ด.ญ.เก๋ เป็นผู้ประสานงาน ซึ่งนางวิและนายกิจจาทราบเรื่องได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.คำสิงห์ ศรียาภัย พนักงานสอบสวน สภ.อ.หลังสวน ขอให้ดำเนินคดีกับตนและนางสุมณฑา ในข้อหาพรากผู้เยาว์ในวันเดียวกัน

นายเตชาติ์กล่าวต่อว่า กระทั่งเมื่อตอนเช้าวันเดียวกัน ตนได้พา ด.ญ.เก๋ ไปที่ สภ.อ.หลังสวน เพื่อรับตัว พ.ต.ท.อุดม เลิศเพชรไพศาล พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ไปสอบปากคำ ด.ญ.เก๋ ต่อหน้าพนักงานอัยการ และเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง แต่กลับถูก พ.ต.ต.คำสิงห์ ศรียาภัย พนักงานสอบสวน สภ.อ.หลังสวน ที่รับแจ้งความจากนางวิ แจ้งข้อหาดำเนินคดีกับตนและนางสุมณฑา ฐานพรากผู้เยาว์ จึงฉวยจังหวะที่รอพิมพ์ลายนิ้วมือ พากันเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรม เนื่องจากตนเข้าไปช่วยเหลือ ด.ญ.เก๋ ในฐานะเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 แต่กลับต้องตกเป็นผู้ต้องหาเสียเอง และขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมในการปฏิบัติหน้าที่ของ พ.ต.ต.คำสิงห์ ในกรณีดังกล่าวด้วย

ส่วนนางสุมณฑา กรองเห็น อาจารย์ที่ปรึกษา กล่าวว่า ตนได้เข้าไปช่วยเหลือเด็ก แต่กลับถูกโทรศัพท์ลึกลับข่มขู่ว่าชีวิตจะไม่ปลอดภัย แถมยังต้องตกเป็นผู้ต้องหาอีก จึงอยากจะขอย้ายออกจากโรงเรียนเดิม ซึ่งนายพินิจ รับปากจะให้ความเป็นธรรม พร้อมสั่งการให้นายอารมณ์ ศุวัฒนาภิรมย์ นิติกรจังหวัดชุมพร ประสานงานกับ พ.ต.ต.คำสิงห์ ให้แจ้งข้อหานายเตชาติ์กับนางสุมณฑา ไว้ก่อนแล้วให้ปล่อยตัวไปโดยไม่ต้องมีการประกัน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์