จับตายลิงฆ่าเด็ก ชาวบ้านยิงหัวเละ

จากเหตุสยองขวัญ “ไอ้จี๋” ลิงกังเพศผู้ อายุ 4 ปี น้ำหนักราว 15 กก.

สะบัดเชือกหลุดจากใต้ต้นไม้ที่เจ้าของผูกไว้ แอบเข้าไปขย้ำศีรษะหนูน้อยวัย 2 เดือนเศษ ด.ช.พงษ์นรินทร์ เอี่ยมสำอาง หรือน้องนิด ที่นอนหลับไม่รู้อีโหน่อีเหน่อยู่ในเปลหน้าบ้านเลขที่ 90/217 ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จนกะโหลกทะลุ มันสมองไหล ดวงตาถลน และเสียชีวิตเมื่อถึงมือแพทย์ได้ไม่นาน เหตุเกิดเมื่อช่วงสายวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังกัดเด็กจนเสียชีวิตคาคมเขี้ยว ลิงมหาภัยหนีเตลิดเข้าไปซ่อนตัวในป่ากกด้านหลังตลาดอ้อมน้อย แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจและปศุสัตว์จังหวัดจะจัดกำลังไล่ล่าแต่ยังไม่ได้ตัว สร้างความอกสั่นขวัญแขวนให้ชาวบ้านละแวกใกล้เคียง เกรงลิงจะออกมาทำร้ายลูกหลานอีก
 

ความคืบหน้าการไล่ล่าลิงมหาภัยตัวนี้ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 14 ธ.ค. ทีมล่าลิงเริ่มออกค้นหาตัวไอ้จี๋ ตั้งแต่ พระอาทิตย์ขึ้น แต่ไม่มีวี่แววว่าจะพบตัว

กระทั่งเวลา 09.30 น. พ.ต.อ.ไชยา สุนทรกิจ ผกก.สภ.กระทุ่มแบน รับแจ้งมีผู้พบเห็นลิงกังตัวแสบปีนป่ายหากินอยู่ระหว่างต้นมะขามเทศกับกำแพงด้านหลังปั๊มน้ำมันเชลล์ ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ห่างจากบ้านจุดที่กัดเด็กราว 100 เมตร จึงประสานนายประกิจ ภิรมย์อยู่ ปศุสัตว์อำเภอกระทุ่มแบน ให้นำปืนยิงลูกดอกยาสลบไปด้วย เพื่อจะจับไอ้จี๋ให้ได้
 

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง พบไอ้จี๋ปีนป่ายอยู่บนรั้วกำแพง ปั๊มน้ำมัน ท่าทางลุกลี้ลุกลนและหิวโซ รอบเอวยังมีเชือกที่ใช้ล่ามผูกอยู่

แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เคลื่อนตัวเข้าไปใกล้เพื่อให้ได้ระยะปืนยิงลูกดอกยาสลบ ปรากฏว่าลิงมหาภัยรู้ทันว่าจะเข้ามาจับมัน จึงหันมาแยกเขี้ยวขาวโง้งแหลมเปี่ยบ ขู่ตะคอกไม่ให้ใครเข้าใกล้ ก่อนจะโจนทะยานเผ่นหนีเข้าป่าต้นกกที่ขึ้นทึบหนาแน่น หายตัวไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงนำกล้วยมาวางล่อพร้อมจัดคนเฝ้าไว้ เพราะมั่นใจว่าไอ้จี๋ที่กำลังหิวโซจะต้องย้อนกลับมากินกล้วยอย่างแน่นอน



ต่อมาในช่วงบ่าย พ.ต.อ.ไชยา สุนทรกิจ ผกก.สภ. กระทุ่มแบน ได้รับแจ้งว่า

ลิงกังมหาภัยสิ้นชื่อแล้ว โดยถูกชาวบ้านยิงตายระหว่างย้อนกลับไปที่กรงเลี้ยง บริเวณใต้ต้นนุ่นหลังร้านกรุงเทพพานิช (ร้านรับซื้อของเก่า) ใกล้บ้านที่เกิดเหตุ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบกลุ่มชาวบ้านยืนมุงดูซากไอ้จี๋ ลิงกังที่กัดเด็กตายด้วยความโล่งอก ขณะที่มือพิฆาตลิงมรณะเล่าว่า ดักซุ่มรออยู่ตั้งแต่เมื่อวานเพราะมั่นใจว่าไอ้จี๋จะต้องย้อนกลับมาที่กรงแน่นอนเพราะความหิว เนื่องจากเป็นลิงเลี้ยงไม่ใช่ลิงป่า ทำให้หาอาหารกินเองไม่เป็น พอเห็นตัวไอ้จี๋มาป้วนเปี้ยนใกล้กรง จึงยิงด้วยปืนลูกกรด .22 เข้าที่หัว 3 นัดตายคาที่ 


ด้าน พ.ต.ท.ปราโมทย์ อักษรพันธ์ พงส. (สบ 2) สภ.กระทุ่มแบน เจ้าของคดี กล่าวว่า

วันนี้ได้เรียกตัวนางวันทัย บุปผาดี อายุ 54 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ และเป็นผู้รับจ้างเลี้ยง ด.ช.พงษ์นรินทร์ เอี่ยมสำอาง หรือน้องนิด วัย 2 เดือนเศษ เหยื่อลิงมรณะมาสอบปากคำอย่างละเอียด ซึ่งนางวันทัยยังให้การตามเดิมว่า ขณะเกิดเหตุนั่งอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ หันหลังให้เปลที่เด็กนอนอยู่ จู่ๆ ลิงก็กระโจนมาจากไหนไม่รู้ ตรงเข้าขย้ำเด็กจนจมเขี้ยวเลือดท่วมตัว ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ไป และตนก็ตกใจทำอะไรไม่ถูก สำหรับนายฤชากร ทิพย์เพชร อายุ 30 ปี ผู้จัดการร้านกรุงเทพพานิช เจ้าของลิง ได้ขอเลื่อนการเข้า ให้ปากคำออกไปก่อน

สำหรับศพเด็กเหยื่อคมเขี้ยวหฤโหด ช่วงบ่ายวันเดียวกัน

นางหนูจันทร์ พังราด อายุ 30 ปี มารดาของน้องนิดได้เดินทางไปรับศพลูกออกจาก รพ.ศิริราช ก่อนนำกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดอ้อมน้อย ท่ามกลางบรรยากาศเงียบเหงาเศร้าสลด มีญาติพี่น้องเพียง 10 กว่าคนมาร่วมงาน โดยนางหนูจันทร์กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า จะสวดศพลูกเพียงแค่วันเดียว แล้วจะทำพิธีเผาในเย็นวันนี้เลย เพราะครอบครัวมีฐานะยากจน พ่อเด็กก็ติดคุกอยู่ ส่วนเรื่องการชดใช้ค่าเสียหายได้ปรึกษากับญาติแล้วว่า จะเรียกค่าเสียหายจากเจ้าของลิงประมาณ 3 แสนบาท ไม่รวมค่ารักษาพยาบาลที่กู้หนี้ยืมสินมาจ่ายไปแล้ว 54,100 บาท ด้านนายฤชากร ทิพย์เพชร เจ้าของลิง ที่เดินทางมาร่วมงานศพด้วยกล่าวว่า จะขอรับผิดชอบทุกอย่าง แต่เรื่องค่าเสียหายที่เรียกมาคงจะต้องพูดคุยกันอีกครั้ง 


นายศิริวัฒน์ เผ่าวงศา ผอ.ส่วนคุ้มครองสัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์กรณีลิงกังที่ทำร้ายเด็กทารก 2 เดือนจนเสียชีวิตว่า

จากการสอบถามเบื้องต้น ผู้ที่เลี้ยงดูลิงกังตัวดังกล่าวยังให้การไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการครอบครองสัตว์ เนื่องจากลิงกังเป็นสัตว์คุ้มครองชนิดขอเพาะพันธุ์ได้ ซึ่งผู้ครอบครองจะต้องไปขึ้นทะเบียนกับกรมอุทยานฯ แต่กรณีนี้ผู้เลี้ยง บอกว่าได้รับฝากจากคนอื่นไว้อีกทีหนึ่ง และพยายามตอบเลี่ยงๆ จึงยังไม่ชัดเจนว่าลิงตัวนี้ใครเป็นเจ้าของ โดยจะตรวจสอบกับกองทะเบียนกรมอุทยานฯว่าแจ้งครอบครองไว้หรือเปล่า หากพบว่ามีการครอบครองสัตว์อย่างผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ด้วย


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์