จับตายบัง เบเรตต้า ถล่มพรุน มือขวาบังรอน

จากเหตุการณ์ปะทะเดือดระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับนายบาเรศ หรือจูเรศ มีนศรี นักค้ายาบ้า

ฉายา “บัง เบเรตต้า” อายุ 51 ปี บ้านเดิมเลขที่ 24 หมู่ 2 ต.บึงคอไห อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี สมุนมือขวาของนายสุรชัย เงินทองฟู หรือบังรอน เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 33/1 ซอยมัสยิดแดง หมู่ 1 ต.บึงคอไห เมื่อบ่ายวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา สืบเนื่องจาก พ.ต.ต.ไชยา ภูละมูล สว.สป.สภ.คลองสิบสอง อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี นำกำลังบุกเข้าตรวจค้นเนื่องจากมีผู้ต้องหาคดียาบ้าซัดทอดว่าซื้อยาบ้ามาจากบ้านดังกล่าว แต่นายบาเรศฮึดสู้คว้าปืนยิงใส่ พ.ต.ต.ไชยา ด.ต.บรรจบ พ่วงพี ผบ.หมู่ ป.สภ.คลองสิบสอง บาดเจ็บ

กระทั่ง พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 ต้องระดมกำลังชุดสืบสวนภาค 1 และ สภ.องครักษ์ จ.นครนายก ร่วม 100 นาย ปิดล้อมบ้านเกิดเหตุแต่ไม่วายมีตำรวจพลาดท่าถูกยิงบาดเจ็บขณะบุกเข้าเคลียร์พื้นที่ คือ ด.ต.สาคร ตาคำมา ชุดสืบสวนภาค 1 จนต้องวางกำลังปิดล้อมข้ามคืนนั้น

ความคืบหน้าการปิดล้อมจับกุมพ่อค้ายาบ้าประวัติฉกาจ

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 14 มี.ค. พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี ได้เรียกกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเคลียร์พื้นที่ นปพ.ภาค 1 จำนวน 10 นาย และชุดสืบสวน บก.ภ.จ.ปทุมธานี จำนวนหนึ่ง ร่วมประชุมวางแผนและประเมินสถานการณ์ เพื่อความปลอดภัยในการเตรียมบุกเข้าจู่โจม โดยก่อนที่จะบุกเข้าจู่โจมเป้าหมายนั้น พล.ต.ต.คำรณวิทย์ได้มอบพระกรุถ้ำเสือเนื้อดินเผา วัดเขาดีสลัก อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ให้เจ้าหน้าที่ นปพ.ทั้ง 10 นาย เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันประชาชนและผู้สื่อข่าว รวมถึงผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องให้ออกห่างจากบ้านของคนร้ายไม่ต่ำกว่า 300 เมตร จากนั้นปฏิบัติการพิฆาตพ่อค้ายาบ้าตัวเอ้ได้เริ่มขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ชุดเคลียร์พื้นที่แบ่งเป็น 2 ชุด ชุดละ 5 นาย มีอาวุธครบมือทั้งปืนเอ็ม 16 เอชเค และปืนพกสั้น ชุดแรกบุกเข้าทางปีกขวาของตัวบ้านพอได้ระยะก็ยิงแก๊สน้ำตาทะลุหน้าต่างเข้าไปในบ้านจำนวน 2 ลูก พร้อมวิ่งกรูเข้าไป แต่ยังไม่ทันถึงตัวบ้านคนร้ายก็ปาระเบิดชนิดลูกเกลี้ยงสวนออกมา ตกห่างเจ้าหน้าที่ชุดจู่โจมราว 10 เมตร เสียงระเบิดตูมสนั่น ตำรวจต้องกระโดดหลบชุลมุน

หลังสิ้นเสียงระเบิดตำรวจชุดที่ 2

ซึ่งได้รับมอบหมายให้บุกเข้าทางหน้าบ้าน ได้ยิงแก๊สน้ำตาเข้าไปอีก 1 ลูก และวิ่งตะลุยเข้าไปอย่างรวดเร็ว แต่แล้วเหตุการณ์ที่ทุกคนไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อคนร้ายได้ปาระเบิดเข้าใส่ตำรวจชุดดังกล่าวห่างเพียงไม่ถึง 10 เมตร แรงระเบิดทำให้ ร.ต.ต. สุรศักดิ์ เพ็งอิ่ม รอง สว.นปพ.ภ.1 กระเด็นออกมาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เนื่องจากถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ ผิวหนังด้านหลัง มีเลือดไหลซิบๆ 3-4 จุด ก่อนถูกนำตัวส่ง รพ. มศว.องครักษ์ ส่วนนายตำรวจคนอื่นๆสามารถหลบได้ทันอย่างปาฏิหาริย์

จังหวะเดียวกันตำรวจชุดจู่โจมชุดที่ 1 บุกมาถึงตัวบ้านด้านข้างพังหน้าต่างลุยเข้าไป

ก่อนจะมีเสียงกระสุนปืนดังขึ้นจำนวนหลายนัด หลังเสียงปืนสงบชุดที่เข้าเคลียร์จึงส่งสัญญาณแจ้งให้ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ รอง ผบช.ภ.1 รับทราบว่าได้ควบคุมสถานการณ์แล้ว และคนร้ายได้ถูกจับตายแล้ว ขณะที่ พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.1 เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุและได้ร่วมกับแพทย์ อัยการ ร่วมชันสูตรพลิกศพนายบาเรศ คนร้ายประวัติฉกาจ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว

มีรอยกระสุนฝังตามผนังบ้านพรุนนับรูไม่ถ้วน หลังคาบ้านแตกเสียหาย กระจกหน้าต่างแตกหลายบาน ประตูหน้าบ้านพังหลุดออกมาด้านในเป็นห้องโถง ส่วนปีกขวากั้นเป็นห้องนอน พบศพนายบาเรศสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทา กางเกงลายพรางทหาร นอนหงายเลือดทะลักกลางห้องในสภาพกะโหลกเปิด ลำตัวและแขน ขาถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาดจนพรุนนับสิบรู เลือดทะลักนองพื้นชวนสยอง มือขวายังกำปืน 9 มม. ส่วนมือซ้ายกำปืนอาก้าเขี้ยวเล็บประจำกาย และพบปืน 11 มม.อีก 1 กระบอก ตกอยู่ข้างศพ โดยมีกระสุนปืนชนิดต่างๆ ตกเกลื่อนห้อง นอกจากนี้ยังพบย่ามสีน้ำตาลภายในมีกระสุนปืนจำนวนมาก ยาบ้าบรรจุถุงพลาสติกกว่า 1,000 เม็ด และเงินกว่า 1 แสนบาท จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำส่งสถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อชันสูตรตามขั้นตอน