จับกะเทยเฟอะเผาวอดรถพตต.

2 กะเทยขอนแก่นใช้ไฟแช็กส่องขโมยของในรถสวป.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ ไฟเกิดลุกลามติดเบาะไหม้ทั้งคัน เผยสวป.นำรถเปอโยต์ 505 มาจอดไว้หน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น เพื่อนั่งรถโดยสารไปทำงานที่กาฬสินธุ์ 2กะเทยแสบสบโอกาส มาทุบกระจกรถแล้วนำไฟแช็กมาจุดส่องหาทรัพย์สิน แล้วเกิดพลาดทำไฟแช็กหล่นลุกไหม้รถวอดทั้งคัน ตร.ตามรวบตัวได้ทั้ง 2 คน สารภาพเพิ่งพ้นโทษแล้วออกมาก่อเหตุอีก

เมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 7 ก.พ. พ.ต.ต.สุพรรณ จิตรโท สารวัตรเวรสภ.อ.เมืองขอนแก่น รับแจ้งจากศูนย์วิทยุแก่นนครว่า มีเหตุเพลิงไหม้รถยนต์เก๋ง ถนนหน้าศูนย์ราชการหน้าพระธาตุขามแก่น ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ติดสวนรัชดานุสรณ์ จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองวิทยาการเขตที่ 23 จ.ขอนแก่น รถดับเพลิง เทศบาลนครขอนแก่น

เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อเปอโยต์ สีเทา รุ่น 505 ทะเบียน กจ-7178 ขอนแก่น เป็นรถสภาพเก่าถูกไฟโหมไหม้วอดเสียหายทั้งคัน ตรวจสอบพบว่า ที่กระจกหน้ารถด้านคนขับและด้านซ้ายข้างเบาะนั่งข้างคนขับมีรอยทุบกระจกแตก กุญแจประตูด้านซ้ายมีรอยถูกงัด ตำรวจพบนายศราวุธ เกิดมงคล อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 ม.10 ต.โคกงาม อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ชี้ให้เจ้าหน้าที่ดูและบอกว่าตนขี่จักรยานยนต์จะกลับบ้านผ่านมา เห็นคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 2 คน ช่วยกันงัดรถโดยใช้ไฟแช็กส่องจนเกิดเพลิงไหม้รถเสียหายทั้งคัน หลังเกิดเหตุชายทั้งสองได้วิ่งหลบหนีไป ต่อมาตำรวจทราบว่าเจ้าของรถเก๋งที่ถูกเพลิงไหม้ คือพ.ต.ต.มานัด พรพิพัฒน์ สวป.สภ.อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ อดีตรองสว.จร.สภ.อ.เมืองขอนแก่น จึงโทรศัพท์แจ้งเหตุให้ทราบว่ารถถูกเผาเสียหายทั้งคัน ค่าเสียหายเบื้องต้นประมาณกว่า 100,000 บาท

จากการสอบถามพ.ต.ต.มานัดทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เวลา 04.30 น.ได้ขับรถเก๋งคันดังกล่าวออกจากบ้านพักเลขที่ 231 ม.2 บ้านสะอาด ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น มาจอดไว้ริมถนนข้างสวนรัชดาฯ ตรงข้ามศาลากลางจังหวัดขอนแก่น แล้วขึ้นรถโดยสารสายขอนแก่น-กาฬสินธุ์ เพื่อไปทำงานที่ สภ.อ.ห้วยผึ้ง ซึ่งทำเช่นนี้เป็นประจำไม่เคยเกิดเหตุร้ายมาก่อน

ต่อมาตำรวจนำพยานที่เห็นหน้าคนร้ายทั้งสองมาดูแฟ้มอาชญากรรมที่ฝ่ายสืบสวน จนทราบว่าหนึ่งในนั้นคือ นายพล (นามสมมติ) อายุ 15 ปี หนุ่มรักร่วมเพศ เคยถูกจับดำเนินคดีลักทรัพย์เมื่อ 2 ปีก่อนเพิ่งพ้นโทษออกมา ตำรวจจึงออกติดตามหาตัว จนทราบว่านายพลหลังออกจากคุกมายึดอาชีพขายบริการกับเพศเดียวกันในสวนรัชดานุสรณ์ทุกคืน กับเพื่อนชื่อ นายพัน (นามสมมติ) อายุ 15 ปี จึงควบคุมตัว2ผู้ต้องหามาสอบสวน รับสารภาพว่าร่วมกันงัดรถยนต์เก๋งของสวป.แล้วพลาดทำไฟไหม้เบาะรถจนเผารถเสียหายทั้งคันดังกล่าวจริง

จากการสอบสวนนายพลให้การว่า ตนเคยถูกจับคดีลักทรัพย์มาก่อนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว กระทั่งพ้นโทษออกมาไม่มีงานทำ จึงหันมายึดอาชีพขายบริการทางเพศกับเพศเดียวกันที่สวนรัชดานุสรณ์ จนสนิทสนมกับนายพัน ก่อนเกิดเหตุตนเอาไฟแช็กจุดเพื่องัดรถยนต์เก๋งคันดังกล่าว โดยให้เพื่อนดูต้นทาง หลังจากใช้ก้อนอิฐทุบกระจกรถด้านซ้าย ฝั่งข้างคนขับจนกระจกแตกแล้ว ได้สอดมือเข้าไปเปิดประตูรถออกมา โดยใช้แสงไฟจากไฟแช็กคอยส่องดูเพื่อหาทรัพย์สินในรถ จนเกิดพลาดทำไฟแช็กลนมือตัวเอง จึงสะบัดมือไฟแช็กหล่นไปใส่เบาะนั่งในรถ จนเกิดไฟลามไหม้รถทั้งคันอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ตนตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะตะโกนบอกเพื่อน ก็มีคนขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาเห็นตะโกนใส่พวกตน ตนและเพื่อนจึงรีบวิ่งหนีจนถูกตำรวจตามจับตัวได้ดังกล่าว

ต่อมาเวลา 14.30 น. พ.ต.อ.สันติ ไทยเสถียร ผกก.สภ.อ.เมืองขอนแก่น พร้อมด้วยพ.ต.ท.ถนอมสิทธิ์ วงษ์วิจารย์ รองผกก.สส. พ.ต.ท.นพเก้า โสมนัส สว.สส. และพ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ แสงชาติ สวส.เวร หน.ชุด ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณที่เกิดเหตุ โดยมีประชาชนที่ผ่านไปมามุงดูเหตุการณ์อย่างสนใจ หลังทำแผนเสร็จแล้วได้ควบคุมตัวทั้งสองส่งมอบให้พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ไว้ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันวางเพลิงทำให้ทรัพย์สินเสียหาย