พ่อค้ายาบ้าหักหลังกันเอง อุ้มแฟนอีกฝ่ายเรียกค่าไถ่กว่า 2 แสน เผลอเล่าให้แท็กซี่ฟัง โชเฟอร์พลเมืองดีโร่แจ้งตำรวจโชคชัยตามตะครุบตัวได้ ก่อนขยายผลตามจับทีมอุ้มได้ สารภาพแค้นเอายาบ้าปลอม 4,000 เม็ดมาหลอกขาย ตำรวจแจ้งขัอหาหนักทั้งคู่
เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 27 สิงหาคม พ.ต.อ.ลือชัย สุดยอด รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.พรชัย ขจรกลิ่น ผกก.สน.โชคชัย พ.ต.ท.จิรวัฒน์ ยอดกระโหม สว.สส.สน.โชคชัย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย ได้ร่วมกันแถลงผลจับกุมนายริขิดชัย ผัดผ่อง หรือเก่ง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 442/12 ซอยลาดพร้าว 94 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม. และนายเทวารัณย์ แก้วบุญเสริฐ หรืออ๊อฟ อายุ 24 ปี พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทอง 1 เส้น แหวนทองคำ 2 วง ตุ้มหูทองคำ 1 คู่ อาวุธปืนรีวอลเวอร์ สีดำ ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนรีวอลเวอร์ สีเงิน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 6 นัด และกระสุนปืนขนาด.45 จำนวน 5 นัด กระเป๋าสะพายสีน้ำตาลและเงินสด จำนวน 2.2 แสนบาท
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน นายกรีโชติ รกเอก โชเฟอร์แท็กซี่พลเมืองดี เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โชคชัย ว่า
ได้รับผู้โดยสารคนหนึ่ง โดยผู้โดยสารคนดังกล่าวเล่าให้ฟังว่า ต้องนำเงินไปไถ่ตัวแฟนสาวที่ถูกลักพาตัวไปเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา จำนวน 2.5 แสนบาท แต่มีเงินเพียง 2.3 แสนบาท จึงต้องนำทองไปขายเพื่อหาเงินที่ขาดอยู่ 2 หมื่นบาท มาไถ่ตัวแฟนสาว ซึ่งระหว่างนั้นตนได้ยินผู้โดยสารคนดังกล่าวคุยโทรศัพท์เรื่องยาเสพติด กระทั่งผู้โดยสารลงรถไป จึงรีบขับรถมาแจ้งความที่ สน.โชคชัย จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้โดยสารคนดังกล่าวได้ที่บริเวณตลาดโชคชัย 4 ทราบชื่อต่อมาชื่อนายเทวารัณย์
นายเทวารัณย์ให้การต่อเจ้าหน้าที่ว่า แฟนสาวของตนชื่อ น.ส.สุวิดา เทพวงษ์ หรือเปิ้ล อายุ 27 ปี ถูกคนร้ายลักพาตัวไปจากที่ทำงาน บริเวณปากซอยเพชรบุรี 47 ซึ่งคนร้ายที่ลักพาตัวไปชื่อนายริขิดชัย และพวกอีก 2 คน ได้ติดต่อให้ตนนำเงินจำนวนดังกล่าวมาไถ่ตัวแฟนสาว แต่มีเงินไม่พอ จึงได้นำทรัพย์สินไปขายเพื่อให้เงินครบตามจำนวน เพราะรักแฟนสาวคนนี้มาก
อย่างไรก็ตาม หลังจากได้รับข้อมูลจากนายเทวารัณย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โชคชัย ได้ออกสืบสวนจนทราบว่า
นายริชิดชัยพักอาศัยอยู่ที่ร้านขายส้มตำ เลขที่ 38 ซอยรามคำแหง 21 แขวงวังทองหลาง เขตบางกะปิ กทม. จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก เพื่อเข้าจับกุม จากการค้นห้องพักพบทรัพย์สินของน.ส.สุวิดา ที่นายริขิดชัยขโมยไปและอาวุธปืน จึงได้ควบคุมตัวไปสอบสวน
นายริขิดชัยให้การต่อเจ้าหน้าที่ว่า ตนพร้อมพวกอีก 2 คน ชื่อนายเก็ต และนายตี๋ ไม่ทราบนามสกุล ได้ร่วมกันลักพาตัวน.ส.สุวิดา มาจากที่ทำงานแล้วนำตัวขึ้นรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ซ สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เพราะเป็นรถของนายตี๋ จากนั้นได้ขับรถมุ่งหน้าไปทางมีนบุรี ระหว่างทางได้ใช้โทรศัพท์มือถือของน.ส.สุวิดา โทรไปบอกนายเทวารัณย์ให้นำเงินมาไถ่ตัวแฟนสาวคืน ระหว่างนั้นก็ใช้อาวุธปืนจี้เอาทรัพย์สินของน.ส.สุวิดาไปด้วย กระทั่งเมื่อรถไปติดไฟแดงที่สี่แยกมีนบุรี น.ส.สุวิดา ได้อาศัยจังหวะที่พวกตนเผลอ กระโดดออกจากรถหลบหนีไป พร้อมกับไปแจ้งความที่ สน.มีนบุรี ทำให้พวกตนต้องแยกย้ายกันหลบหนี แต่โทรศัพท์มือถือของน.ส.สุวิดา อยู่ที่ตน จึงออกอุบายให้นายเทวารัณย์นำทรัพย์สินมาไถ่คืนทั้งๆ ที่ น.ส.สุวิดาหนีไปได้แล้ว โดยข่มขู่ว่าหากไม่นำเงินมาไถ่ตัวก็จะลงมือข่มขืนน.ส.สุวิดา ซึ่งจะนัดหมายจุดรับเงินอีกครั้ง แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเสียก่อน
ด้าน พ.ต.อ.ลือชัยกล่าวว่า สาเหตุเรื่องนี้มาจากการที่ผู้ต้องหาทั้งสองหักหลังกันเองเรื่องยาบ้า โดยนายริขิดชัย ติดเงินค่ายาบ้านายเทวารัณย์อยู่จำนวน 3.2 แสนบาท และนายเทวารัณย์ต้องการเงินค่ายาบ้าคืน แต่นายริขิดชัยบอกปัดเรื่อยมา
จึงออกอุบายนำยาบ้าปลอมโดยใช้ข้าวผสมแล้วปั๊มเป็นเม็ดให้เหมือนยาบ้า ก่อนจะนำไปหลอกขายให้นายริขิดชัย จำนวน 4,000 เม็ดเพื่อเอาเงินคืน เมื่อนายริขิดชัยตรวจพบว่าเป็นยาบ้าปลอมจึงโกรธแค้นนายเทวารัณย์ จึงวางแผนลักพาตัวน.ส.สุวิดา แฟนสาวนายเทวารัณย์ ไปเรียกค่าไถ่
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมกับควบคุมตัวไปดำเนินคดี ส่วนนายเทวารัณย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ค้นตัวพบยาบ้า 6 เม็ด และอาวุธปืน จึงได้แจ้งข้อหา มียาเสพติดไว้ในความครอบครอง และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมกับควบคุมตัวดำเนินคดีเช่นกัน ส่วนผู้ต้องหาที่ร่วมกับนายริขิดชัย ปล้นทรัพย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
