ง้าวฟันหัวฆ่าชายชู้

พ.ต.ท.สำเริง ศิลปะสำราญ พนักงานสอบสวน สภ.ต.สามควายเผือก อ.เมืองนครปฐม รับแจ้งเหตุคนถูกฆ่าฝังดินบริเวณป่าข้างบ้านเลขที่ 2 หมู่ 2 ต.สามควายเผือก จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.วิฑูรย์ พลสาร รอง ผกก.หน.สภ.ต.สามควายเผือก พ.ต.ท.สายัณห์ เพ็งบุญชู สวป. และมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม ที่เกิดเหตุเป็นป่าหญ้ารกเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ พบกองดินเล็กๆที่เพิ่งฝังกลบไม่นานถูกน้ำฝนเซาะเป็นแอ่งและมีน้ำขังอยู่เล็กน้อย โดยมีกลิ่นศพโชยคลุ้งไปทั่ว

พบพลาสติกสีน้ำเงินห่อหุ้มศพอยู่จึงช่วยกันขุดนำศพขึ้นมา ปรากฏว่าภายในเป็นศพผู้ชายอายุประมาณ 25-27 ปี ผิวดำ ไว้หนวด สวมเสื้อยืดคอกลมสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำ สวมสร้อยลูกประคำพลาสติกหลากสี มีบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมที่กกหูข้างขวาเป็นแผลลึกยาวจนเส้นเลือดใหญ่ขาด 1 แผล และที่ศีรษะด้านหลังเป็นแผลฉกรรจ์อีก 1 แผล สภาพเริ่มขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง คาดเสียชีวิตมาประมาณ 2 วัน

ผู้ตายชื่อนายวีระศักดิ์ หรือเบิร์ด เผือกทุ่งใหญ่ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 6 ต.ทุ่งน้อย อ.เมืองนครปฐม ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุคือนายหัตชัย พงษ์พากเพียร อายุ 20 ปี บ้านอยู่หมู่ 7 ต.บ่อพลับ อ.เมืองนครปฐม เป็นสามีของนางประภาพร ศรีนวล อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/1 หมู่ 2 ต.มาบแค อ.เมืองนครปฐม มีศักดิ์เป็นหลานสาวของตนและมีบ้านอยู่ห่างจากบ้านของตนไม่ถึง 500 เมตร ส่วนสาเหตุมาจากนายหัตชัยจับได้ว่าผู้ตายแอบเป็นชู้กับนางประภาพร

นายหัตชัยกับนางประภาพรอยู่กินกันแบบสามีภรรยาได้ประมาณ 1 ปีเศษ แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน โดยนายหัตชัยจะไปๆมาๆ กระทั่งราว 2 เดือนที่ผ่านมา นายวีระศักดิ์แอบมาติดพันนางประภาพรและมักมาหาที่บ้านเป็นประจำ หลายครั้งที่นายหัตชัยมาเจอด้วยตัวเองทำให้เกิดระแคะ ระคายเลยคาดคั้นจนทราบความจริงจากปากของนางประภาพรว่าแอบได้เสียกันแล้ว นายหัตชัยจึงพยายามนัดนายวีระศักดิ์มาเคลียร์กันแบบลูกผู้ชาย

กระทั่งเย็นวันที่ 16 ส.ค. ทราบจากนายหัตชัยว่าได้นัดผู้ตายมาตกลงกันที่บ้านของนางประภาพร แต่ไม่รู้ว่าผลลงเอยอย่างไร จากนั้นก็ไม่เห็นหน้าทั้งสองอีกเลย จนเมื่อเช้าวันที่ 19 ส.ค. นายหัตชัยโทรศัพท์มาบอกกับตนว่าได้ฆ่านายวีระศักดิ์และนำศพไปฝังดินไว้ในป่าข้างบ้านก่อนรีบวางหูไป จึงออกไปดูพบจุดต้องสงสัยมีกองดินถูกฝังกลบได้ไม่นานและมีกิ่งไม้เล็กๆคลุมทับอยู่และมีกลิ่นศพโชยออกมา คาดว่าน่าจะเป็นจุดที่ผู้ตายถูกฝัง แต่ไม่กล้าขุดดูจึงตัดสินใจแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ

แต่ไม่พบ ทราบจากทางบ้านว่าออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค. โดยหิ้วกระเป๋าใส่เสื้อผ้าใบ ใหญ่อ้างจะไปหางานทำ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ไปที่บ้านของนางประภาพร เพื่อเชิญตัวมาสอบปากคำ แต่ไม่พบเช่นกัน อย่างไรก็ตาม จากปากคำพยาน ในเบื้องต้นคาดว่า หลังจากนายหัตชัยนัดผู้ตายมาเคลียร์ และขอร้องให้เลิกติดต่อกับนางประภาพร แต่ตกลงกันไม่ได้จึงใช้มีด ซึ่งดูจากรอยบาดแผลคาดว่าน่าจะเป็นง้าวกระหน่ำฟันแล้วนำศพไปฝังดินก่อนเก็บเสื้อผ้าหลบหนี ส่วนนางประภาพร หลังเกิดเหตุอาจเกิดความกลัวหรืออาจรู้เห็นกับนายหัตชัยด้วยก่อนจะหลบหนีไปด้วยกัน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เร่งติดตามตัวมาสอบสวนต่อไป

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ