งามไส้ประเทศ!โชเฟอร์แท็กซี่โหดฟันหัวฝรั่งดับสยอง

งามไส้ประเทศ!โชเฟอร์แท็กซี่โหดฟันหัวฝรั่งดับสยอง

เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ร.ต.ท.ธนภัทร กังรวมบุตร พนักงานสอบสวน สน.บางนา เปิดเผยว่า เมื่อช่วง 21.30 น. วันที่ 6 ก.ค. รับแจ้งมีผู้ถูกทำร้ายเสียชีวิต บริเวณหน้าร้านให้เช่าชุดแต่งงาน “มิสแซทเทอเดย์” ใกล้ปากซอยสุขุมวิท 68 แขวงและเขตบางนา จึงรีบไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. พ.ต.อ.ศรัญญู ชำนาญราช รอง ผบก.น.5 พ.ต.ท.ภาสกร รัตนปณัดดา รอง ผกก.(สส) ฯ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ และมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุบนทางเท้าพบศพนายทรอย ลี พิลคิงตัน อายุ 51 ปี สัญชาติอเมริกา นอนคว่ำจมกองเลือด มีแผลถูกฟันเป็นฉกรรจ์ที่ศีรษะ หน้าอก และข้อมือซ้าย เลือดไหลกระเซ็นเปรอะพื้น ข้างศพพบโทรศัพท์มือถือ และถุงใส่สลัดผักตกอยู่ ริมถนนพบปลอกมีดสีดำยาวประมาณฟุตครึ่งตกอยู่จึงเก็บเป็นหลักฐาน
 

จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายโดยสารมากับรถแท็กซี่รับจ้าง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัสติส สีชมพู ทะเบียน ทว 6549 กรุงเทพมหานคร และมาจอดบริเวณจุดเกิดเหตุ จากนั้นผู้ตายกับคนขับซึ่งเป็นชายฉกรรจ์ อายุประมาณ 30 ปี สูง 165 เซนติเมตร สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงขายาวสีกรมท่า ลงมาทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรง ก่อนผู้ตายจะพยายามเดินหนี คนขับจึงหันไปคว้ามีดดาบในรถมาไล่ฟันกัน แต่ผู้ตายเสียท่าถูกคนขับจ้วงแทงดังกล่าว ก่อนจะพยายามนำมีดไปทิ้ง แต่ช่วงนั้นมีคนพลุกพล่านผ่านไปมา จึงเปลี่ยนใจวิ่งไปขึ้นรถขับหนีมุ่งหน้าไปทางบางจากอย่างรวดเร็ว
 

พล.ต.ต.ปริญญา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่พบนามบัตรระบุบว่าผู้ตายเป็นผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้าของบริษัท แคทเธอร์พิลลาร์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทจำหน่ายรถแบ็กโฮ ย่านพระโขนง โดยจากการประมวลเหตุคาดว่าทั้งคู่คงมีปากเสียงทะเลาะกันตั้งแต่อยู่ในรถแล้ว ก่อนจะจอดลงมาไล่ทำร้ายกันดังกล่าว ซึ่งทางชุดสืบสวนได้เบาะแสเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดในละแวกพบเห็นทะเบียนรถคันที่ก่อเหจุอย่างชัดเจน ซึ่งจากการตรวจสอบพบเป็นของสหกรณ์แห่งหนึ่งย่านอินทรามระ จึงรีบประสานพร้อมแจ้งวิทยุเข้าสกัดจับ ส่วนชนวนเหตุตอนนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดคงต้องรอให้สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้เสียก่อน ทั้งนี้อยากฝากประชาสัมพันธ์ให้ผู้พบเห็นผู้ก่อเหตุหรือรถคันดังกล่าวรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อใช้เป็นเบาะแสในการติดตามจับกุมโชเฟอร์โหดรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์