ฆ่าโหดเผา 2 ศพ แม่-ลูกสาววัยแค่ 11 ปี ที่แท้ฝีมือสามี ประสาทหลอน!!

ฆ่าโหดเผา 2 ศพ แม่-ลูกสาววัยแค่ 11 ปี ที่แท้ฝีมือสามี ประสาทหลอน!!


ฆ่าโหดเผา 2 ศพ แม่-ลูกสาววัยแค่ 11 ปี ที่แท้ฝีมือสามีประสาทหลอน!!

 เมื่อเวลาประมาณ 22.45 น. วันที่ 26 ก.ย. ร.ต.อ.กฤตชัย อาชวสกุล สารวัตรเวร สภ.เมืองสมุทรสาคร ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้รถภายในดงหญ้าเปลี่ยวข้างถนนพระราม 2 ตรงกับหลักกิโลเมตรที่ 25+500 หมู่ที่ 4 ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ จึงได้มีการประสานรถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลตำบลนาดี 1 คัน พร้อมกับไปตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย ซึ่งขณะที่ไปถึงนั้น ก็พบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้รถอย่างรุนแรง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันฉีดน้ำนานประมาณ 20 นาที จึงทำให้ไฟดับลงได้ พบเป็นรถยนต์กระบะโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์วีโก้ สีขาว ทะเบียน ฒฆ 8661 กทม. นอกจากนี้เมื่อไฟดับสนิท ยังพบอีกว่านอกจากรถจะถูกไฟไหม้จนหมดทั้งคันแล้ว ยังพบศพอีก 2 ศพ ถูกไฟไหม้จนแทบไม่เหลือซากเลย  

 โดยถูกเผาจนไหม้ดำเกรียม ทั้งนี้ศพหนึ่งเห็นเพียงศีรษะที่ถูกไฟไหม้จนถึงกะโหลก ส่วนอีกศพถูกไหม้หมดทั้งตัวเช่นกัน แต่มีส่วนขาข้างขวาที่ยังเหลือสภาพให้เห็นชัดเจน ทั้งนี้จึงได้รีบแจ้งให้ พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร พ.ต.อ.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ผู้บังคับบัญชา ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย

 จากการชันสูตรศพในเบื้องต้นโดยนายแพทย์รณชัยกันหาสุวรรณ แพทย์จากโรงพยาบาลสมุทรสาครพบว่า ศพที่ถูกเผาพร้อมกับรถยนต์กระบะนั้น เป็นศพผู้หญิง 2 ศพ โดยเป็นหญิงร่างท้วมใหญ่ 1 ศพ และร่างเล็กอีก 1 ศพ ซึ่งที่ศพนั้นมีร่องรอยคล้ายถูกแทงด้วยของมีคมหลายแห่ง เจ้าหน้าที่ได้ส่งไปพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช เพื่อตรวจพิสูจน์หาสาเหตุของการเสียชีวิตและพิสูจน์ทราบว่าเสียชีวิตก่อนถูกเผาหรือถูกเผาจนเสียชีวิต 

 ส่วนรถยนต์กระบะคันที่ถูกเผานั้น จากการตรวจสอบทะเบียนประวัติแล้วพบว่ามีนางอรวรรณ รัตนะ อายุ 37 ปี อยู่ ต.ปังหวาน อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร อาชีพกรีดยางพารา เป็นผู้ครอบครอง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถระบุได้ว่า นางอรวรรณเป็นหนึ่งในสองศพที่ถูกเผานี้หรือไม่ ซึ่งต้องรอการตรวจชันสูตรที่แน่ชัดจากทางการแพทย์เสียก่อน ขณะที่ในตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ยังไม่สามารถตั้งประเด็นถึงสาเหตุที่ผู้หญิงทั้ง 2 คนถูกเผาได้ เพราะยังไม่พบหลักฐานที่แน่ชัดว่าผู้ตายเป็นใคร มาจากไหน และถูกฆาตกรรมในที่เกิดเหตุเนื่องจากเป็นพื้นที่เปลี่ยว หรือถูกฆ่ามาจากที่อื่น ก่อนนำศพมาเผาเพื่ออำพรางคดี          


 พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า เบื้องต้นได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทั้งของ สภ.เมืองสมุทรสาคร และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ทำการเก็บพยานหลักฐานที่พบในขณะเกิดเหตุอย่างละเอียด พร้อมกับให้มีการติดต่อไปยังเจ้าของรถหรือญาติของเจ้าของรถให้ได้ เพื่อสืบหาข้อมูลเพิ่มเติม อีกทั้งยังจะได้ให้เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาหลักฐานจากรถยนต์กระบะที่ถูกเผา กับสภาพพื้นที่โดยรอบอย่างละเอียดอีกครั้งในวันที่ 27 ก.ย. 

 ส่วนประเด็นที่ต้องพิสูจน์ให้ได้ก่อน เช่น ผู้ตายทั้งสองเป็นใคร อยู่ที่ไหน ทิศทางของรถมาจากทางใดก่อนที่จะมาถูกเผาในที่เกิดเหตุ ผู้ตายนั้นถูกฆ่าตายก่อนถูกเผา หรือถูกเผาแล้วตาย มีคราบน้ำมันที่ตัวผู้ตายหรือไม่ และมีควันในปอดของผู้ตายหรือไม่ เป็นต้น จากนั้นจึงจะมีการสืบลงไปในเชิงลึกทางคดี


 ล่าสุดเวลาประมาณ 10.30 น. วันที่ 27 ก.ย. พ.ต.อ.จำแรง สุดใจ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร ก็ได้นำกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเมืองสมุทรสาคร สืบสวนภูธรจังหวัด และสืบสวนภาค 7 รวมถึงเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบรถยนต์กระบะ และบริเวณที่เกิดเหตุอีกครั้ง ซึ่งก็พบหลักฐานเพิ่มเติม คือ กางเกงยีนส์ผู้ชายเปื้อนเลือดถูกถอดทิ้งไว้ในพงหญ้า ห่างจากรถไปประมาณ 10 เมตร ซึ่งเชื่อมั่นว่าเป็นของฆาตกร จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน และยังพบมีดเก่าปลายแหลมจมอยู่ในดิน มีด้ามโผล่ขึ้นมาอีก 1 อัน ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะใช่อาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุ แต่ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานก็ได้เก็บไปตรวจสอบด้วย

 ขณะที่ความคืบหน้าในคดีนั้น ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบแล้วว่าหญิงที่ถูกฆ่าตายทั้ง 2 คน คือ นางอรวรรณ รัตนะ อายุ 37 ปี เจ้าของรถ กับ เด็กหญิงทิพย์อักษร รัตนะ อายุ 11 ปี ลูกสาวของนางอรวรรณ ส่วนผู้ต้องสงสัยก่อเหตุฆ่าทั้งสองคน คือ นายราเมศ รัตนะ อายุ 37 ปี สามีของนางอรวรรณ และเป็นพ่อของเด็กหญิงทิพย์อักษร ซึ่งมักจะมีอาการประสาทหลอนอยู่บ่อยครั้ง เพราะติดยาเสพติด และมักจะคิดระแวงว่ามีคนตามฆ่าหรือภรรยาจะไปมีคนรักใหม่ จนถึงขั้นเคยขู่ฆ่านางอรวรรณอยู่หลายครั้ง  

 โดยจากการสอบถามญาติของนางอรวรรณ ที่จังหวัดชุมพร ก็ทราบว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 26 ก.ย. ที่ผ่านมา นายราเมศได้พานางอรวรรณ และลูกสาวอีก 2 คน ออกมาจากบ้านที่อำเภอพะโต๊ะ เพื่อมาส่งลูกสาวคนโตที่อำเภอหลังสวน จากนั้นพอส่งลูกสาวคนโตเสร็จ นายราเมศก็พานางอรวรรณและลูกสาวคนเล็ก คือ เด็กหญิงทิพย์อักษร ขับรถไปเรื่อยๆ จนกระทั่งในช่วงบ่ายญาติๆ เห็นยังไม่กลับมาบ้าน จึงได้โทรศัพท์หานางอรวรรณอีกครั้ง แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว และเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ นางสุรีรัตน์ โรยธนะศรี อายุ 43 ปี พี่สาวของนางอรวรรณ ปัจจุบันพักอยู่ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เดินทางมาดูศพ พร้อมยืนยันว่าผู้ตาย คือ นางอรวรรณ ผู้เป็นน้องสาวกับเด็กหญิงทิพย์อักษร หลานสาวอย่างแน่นอน เพราะจำสร้อยคอและเหรียญพระที่ห้อยคอเด็กหญิงทิพย์อักษรได้

 ส่วนนายราเมศ รัตนะ สามีและพ่อของเด็กหญิงที่เสียชีวิตนั้น หลังเกิดเหตุได้หายตัวไป มีเพียงพี่สาวของนายราเมศ ซึ่งอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ ได้โทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า เมื่อเช้านี้ นายราเมศ มาขโมยรถจักรยานยนต์ที่บ้านของตนแล้วขับหายไป ทางญาติพยายามติดต่อ แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก

 พ.ต.อ.จำแรง สุดใจ
ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร เปิดเผยว่า สำหรับคดีนี้ จากหลักฐานที่เก็บพิสูจน์ได้ ก็คาดว่าผู้ต้องสงสัยฆ่าผู้หญิงทั้ง 2 คน น่าจะเป็นนายราเมศ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนฯ ทุกฝ่าย ได้กระจายกำลังกันติดตามเส้นทางการหลบหนีของผู้ต้องสงสัย และคาดว่าน่าจะได้ตัวมาในเร็วๆ นี้ ส่วนพฤติการณ์นั้น ก็น่าจะเป็นไปได้ว่าหลังจากที่นายราเมศ ขับรถยนต์กระบะพานางอรวรรณและเด็กหญิงทิพย์อักษร ออกมาจากอำเภอหลังสวนแล้ว ก็จะพากันขับมาเที่ยวบ้านพี่สาวของนายราเมศที่จังหวัดสมุทรปราการ 

 แต่เมื่อถึงพื้นที่เกิดเหตุ นายราเมศมีอาการประสาทหลอนขึ้นมา เพราะพิษของยาเสพติด จึงได้เลี้ยวรถเข้าไปในพงหญ้าแล้วลงมือใช้มีดจ้วงแทงฆ่าแม่กับลูก ซึ่งลักษณะศพนั้น จะเห็นได้ว่าทั้งสองคนพยายามหนีและแม่พยายามเอาตัวบังลูกไว้ แต่ก็ไม่รอด จากนั้นพอผู้ก่อเหตุรู้สึกตัว ก็รีบถอดกางเกงยีนส์เปื้อนเลือดออก โดยน่าจะมีกางเกงขาสั้นเจเจสวมอยู่ข้างในอีกชั้นเป็นลักษณะที่วัยรุ่นสมัยนี้นิยมนุ่งกัน เสร็จแล้วก็ไปซื้อน้ำมันจากปั๊มใกล้เคียง ก่อนที่จะนำมาราดทั้งคนและรถแล้วจุดไฟเผา 

 ส่วนผู้ต้องหาเองหลังเกิดเหตุ คาดว่าน่าจะไปหลบซ่อนที่ใดที่หนึ่ง พอรุ่งเช้าจึงได้แอบเข้าไปขโมยรถจักรยานยนต์ที่บ้านพี่สาวในจังหวัดสมุทรปราการแล้วขับหลบหนีไป ซึ่งก็คาดว่าน่าจะหนีกลับไปที่จังหวัดชุมพร เพราะนายราเมศเคยมีพฤติกรรมในลักษณะเช่นนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง คือ พานางอรวรรณกับลูกมาบ้านพี่สาว พออาการทางประสาทกำเริบ ก็ขับรถจักรยานยนต์ของพี่สาวไปที่สถานีรถไฟแล้วก็นั่งรถกลับบ้านที่จังหวัดชุมพร โดยทิ้งเมียและลูกไว้ที่จังหวัดสมุทรปราการ

ฆ่าโหดเผา 2 ศพ แม่-ลูกสาววัยแค่ 11 ปี ที่แท้ฝีมือสามี ประสาทหลอน!!


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์