ฆ่าโหดหนุ่มเมียสวย-อุ้มไปยิงแล้วเผาซ้ำ

อุ้มฆ่าเผาโหดหนุ่มลูก จ้างเมียสวยครูช่วยสอน ฆาตกรลงมือโหดหลังอุ้มขึ้นรถปิกอัพแล้วกระชากตัวลงมายิงจ่อหลัง 1 นัด

ก่อนจะใช้กองฟางราดน้ำมันเผาอย่างเหี้ยมโหด ร่างไหม้ดำสุกสุดอนาถ ตร.ชี้ชนวนเหตุอาจมาจากฆ่าชิงทรัพย์หรือไม่ก็ชู้สาว เนื่องจากผู้ตายมีภรรยาหน้า ตาดี เป็นครูช่วยสอน มีหนุ่มๆมาติดพันมากมาย เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 29 พ.ย. พ.ต.ท. อนันต์ เฉลิมแสน สารวัตรเวร สภ.พระยืน จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งว่ามีคนถูกฆ่าตายเผา ทิ้งอยู่ในไร่อ้อยบ้านหนองโพ ใกล้กับสะพานข้ามลำน้ำชี บ้านหนองบัวดีหมี หมู่ 2 ต.หนอง แวง อ.พระยืน จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อิทธิพล สุวรรณวัฒนะ ผกก.สภ.พระ ยืน พ.ต.ท.ดาวเรืองภูมิ สันดี รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.เสฎฐวุฒิ รอดจันทร์ รอง ผกก.ปป.สภ. พระยืน แพทย์เวร ร.พ.พระยืน อาสาสมัครศูนย์ข่าวทานตะวัน มูลนิธิขอนแก่นสามัคคีอุทิศ

ไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าถนนเข้าไร่อ้อยเป็นทางดินลูกรัง อยู่ห่างจากถนนใหญ่ไปประ มาณ 300 เมตร

พบศพนายนพวรรณ กองโคตร อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 บ้านหนองฮี หมู่ 4 ต.ดอนช้าง อ.เมือง จ.ขอนแก่น คนงานขายวัสดุก่อสร้างโรงไม้เหรียญไทย ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น นอนหงายตายในสภาพหงิกงอเหมือนคนนั่งคร่อมขับรถจยย. ศพถูกเผาไหม้เกรียมจนเนื้อสุกออกเหลืองเกือบหมดทั้งตัว ลิ้นจุกปาก ตาเหลือกถลน มีเศษผ้าเสื้อยืดสีแดงตกข้างศพ 1 ชิ้น พร้อมมีเศษฟางใกล้จุดที่ถูกเผาด้วย

เจ้าหน้าที่ได้พลิกศพนายนพวรรณขึ้นมา พบว่านอนทับเสื้อยืดสีแดงที่เป็นของบริษัทแห่งหนึ่งที่ผลิตปูนซีเมนต์ติดอยู่เต็มแผ่นหลัง

พร้อมกับกางเกงยีนส์ขายาว ที่ถูกเผาไหม้ยังไม่หมด นอกจากนี้พบบาดแผลที่ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดที่ด้านหลัง 1 แห่ง ที่มือซ้ายยังกำปลอกสวมคลัตช์ของรถ จยย. และในที่เกิดเหตุได้ตรวจพบกบไสไม้ 1 ตัว ถูกเผาไหม้ไม่หมด รองเท้าแตะฟองน้ำสีดำ 1 คู่ ปลอกกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 1 นัด หัวกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 1 นัด ไขควง 1 อัน ห่อข้าวเหนียว 1 ห่อ สภาพศพตายมาแล้วประมาณ 12-15 ชั่วโมง

ขณะเจ้าหน้าที่ชันสูตรพลิกศพอยู่นั้น ก็มีนายเหลือง กองโคตร อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87/1 หมู่ 1 บ้านดอนช้าง ต.ดอนช้าง อ.เมือง จ.ขอนแก่น

พร้อมญาติได้มาดูศพ นายนพวรรณ หลังจากทราบว่าลูกชายถูกฆ่าแล้วเผาทิ้งศพอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงได้รีบมาตรวจสอบพบว่าเป็นลูกชายของตนจริง นายเหลืองพ่อผู้ตายบอกว่า นายนพวรรณลูกชายของตนเป็นคนดี ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ตั้งใจทำงาน ไม่เข้าสังคม ทำงานอยู่ใน หจก.โรงไม้เหรียญทอง ต.ท่าพระ มาหลาย ปี และมีภรรยาเป็นครูช่วยสอนเด็กอนุบาล ต.ดอนช้าง ชื่อนางดวงเดือน เมื่อค่ำวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้ทราบจากภรรยาผู้ตายว่านายนพวรรณเลิกงานแล้วไม่ยอมกลับบ้านมาหลายชั่วโมงแล้ว ผิดปกติอย่างมาก ตนและญาติจึงได้ออกตามหาในหลายที่หลายแห่งก็ยังไม่พบ จึงได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ย่อยท่าพระ อ.เมืองขอนแก่น เป็นเรื่องคนหายให้เจ้าหน้าที่ได้ประกาศตามหาผู้ตายด้วย กระทั่งมาพบศพนายนพวรรณถูกฆ่าแล้วเผาอยู่ในป่าอ้อยบ้านหนองโพ

พ.ต.ท.อนันต์ เฉลิมแสน สารวัตรเวรเจ้าของคดี เปิดเผยว่า ก่อนมาพบศพนายนพวรรณถูกฆ่าแล้วเผาอำพราง ในไร่อ้อยบ้านหนองโพ

เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 28 พ.ย.นายเสริม พิมพ์ดีด อายุ 39 ปี ราษฎรบ้านหนองโพ ได้มาตัดอ้อยอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ก็ได้ยินเสียงปืน 1 นัด ผ่านไปประมาณ 30 นาที พบควันไฟพวยพุ่งออกมาจากจุดที่ได้ยินเสียงปืน เขาก็ไม่แปลกใจเพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่ชาวบ้านได้ใช้อาวุธปืนไล่ยิงนกตกปลา และมีการเผาป่าในบริเวณจุดเกิดเหตุเสมอ จึงไม่ได้ออกมาดู กระทั่งเช้าของวันที่ 29 พ.ย. นายอนันต์ ยายยอง อายุ 45 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 บ้านหนองโพ ก็ได้มาหาของป่าในไร่อ้อยสถานที่เกิดเหตุก็มาพบศพถูกฆ่าแล้วเผาทิ้งอยู่ในไร่อ้อย

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานการตายของนายนพวรรณอาจมีสาเหตุว่าผู้ตายมีเงินที่ได้เบิกมาจากนายจ้างจำนวน 800 บาท

แล้วขับขี่รถ จยย.ฮอนด้า เทียน่า จะกลับบ้านพักที่อยู่กับภรรยาที่บ้านหนองฮี หมู่ 4 ต.ดอนช้าง อ.พระยืน จ.ขอน แก่น เมื่อขี่รถมาใกล้ถึงจุดพบศพ ได้มีชาวบ้านเห็นว่านายนพวรรณยืนคุยกับชายกลุ่มหนึ่งประมาณ 2-3 คน และมีรถยนต์ปิกอัพ ไม่ทราบสี ยี่ห้อ หมายเลขทะเบียน จอดอยู่ 1 คัน แล้วชายคนนั้นก็ผ่านเลยไป ส่วนนายนพวรรณได้ยืนเจรจากับกลุ่มคนร้าย หลังจากนั้นกลุ่มคนร้ายก็ได้ชกต่อยแล้วพากันอุ้มขึ้นรถยนต์ปิกอัพพาเข้ามาที่ไร่อ้อย เมื่อรถยนต์ปิกอัพจอดได้พากันกระชากลงมาจากรถ คนร้ายใช้อาวุธปืนแบบไทยประดิษฐ์ยิงเข้าที่กลางหลัง 1 นัด นายนพวรรณล้มลงยังไม่ตาย กลุ่มคนร้ายก็ใช้ฟางและต้นอ้อยคลุมร่างผู้ตาย พร้อมราดน้ำมันแล้วจุดไฟเผา ผู้ตายเพื่อปิดบังอำพรางคดี จากนั้นหลบหนีพร้อมขับขี่รถ จยย.ของผู้ตายหลบหนีไปด้วย

นอกจากนี้มีประเด็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งไว้จำนวน 2 ประเด็น คือ ฆ่าชิงทรัพย์แล้วเผาอำพรางคดี และเป็นเรื่องชู้สาว เพราะผู้ตายมีภรรยาสวย

เป็นครูช่วยสอนอยู่ในตำบลดอนช้าง ทำให้มีคนมาชอบมาก จึงอาจเป็นประเด็นหึงหวงจนก่อคดีฆ่าผู้ตายแล้วเผาทิ้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการเขต 23 ขอนแก่น ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุหาหลักฐานการตายให้มากที่สุด พร้อมมอบศพให้มูลนิธิ นำศพไปผ่าพิสูจน์การตายหาสาเหตุที่แท้จริง และติดตามคนร้ายให้ได้เร็วที่สุดต่อไป

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์