ฆ่ารัดคอ ม่ายสาว ´โอเกะ´ หมกห้อง

เมื่อเวลา 08.10 น. วันที่ 4 พ.ค. พ.ต.ท.อธิวัฒน์ ชำนาญกิจ สารวัตรเวร สภ.อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี

รับแจ้งพบศพภายในตึกแถวเลขที่ 176/5 หมู่ 8

ต.เวียงสระ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.โกมล วัตราภรณ์ ผกก. พ.ต.ท. วิสุทธิ์ ภู่พันธ์ศรี รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.วิชชาสรรค์ บุญณรงค์ รอง ผกก.สส. แพทย์เวร รพ.สมเด็จพระยุพราชเวียงสระ เจ้าหน้าที่กู้ภัยเวียงสระ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลสงเคราะห์บ้านส้อง ไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถว 3 ชั้น

ตั้งอยู่ริมถนนสุราษฎร์-กระบี่ ชั้นล่างสุดเปิดเป็นร้านคาราโอเกะชื่อ ขวัญใจ คาราโอเกะ ส่วนชั้น 2 และชั้น 3 แบ่งซอยเป็นห้องพัก ภายในห้องนอนชั้น 2 พบศพ น.ส.พรเพ็ญ เพ็งเอียด อายุ 33 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 67/2 หมู่ 15 ต.ทุ่งหลวง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี

สวมเสื้อกล้ามแขนสั้นสีเหลือง นุ่งกางเกงขาสั้นสีเขียว นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนเตียง สภาพศพมีเลือดไหลออกจมูกและปาก ใบหน้าและเบ้าตาทั้งสองข้างมีร่องรอยถูกทำร้ายบวมปูด หางตาซ้ายมีแผลแตกฉีกขาด

ที่ลำคอมีร่องรอยถูกรัดเป็นรอยเขียวช้ำ

ในที่เกิดเหตุพบมีร่องรอยการต่อสู้ ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม และหมอนกระจัดกระจาย เหล็กฐานเตียงหักพังยุบกับพื้น นอกจากนี้ ยังพบสายไฟสำหรับชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ และสายกระเป๋าสะพายตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบปากคำนางทัศนี วิชัยดิษฐ์ อายุ 32 ปี

พนักงานในร้านขวัญใจคาราโอเกะ ให้การว่า น.ส.พรเพ็ญ ผู้ตาย เป็นเจ้าของร้านที่เกิดเหตุ ดูแลบริหารธุรกิจร้านคาราโอเกะเพียงลำพัง เนื่องจากสามีได้เสียชีวิตไปแล้วเมื่อหลายปีก่อน โดยผู้ตายจะพักอาศัยอยู่ในห้องนอนชั้น 2

ที่เกิดเหตุเพียงคนเดียว

ส่วนตนและพนักงานคนอื่นๆจะพักอยู่บนชั้น 3 ของร้าน ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 01.00 น. หลังจากร้านปิดบริการพนักงานเสิร์ฟในร้านคนอื่นๆได้ออกไปค้างคืนกับเพื่อนข้างนอก ตนขึ้นนอนพักผ่อนในห้องนอนชั้น 3 ตามปกติ

ขณะที่ผู้ตายยังนั่งพูดคุยต่ออยู่กับนายเท็ป

ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งเป็นแขกประจำของร้าน เนื่องจากนายเท็ปไม่ยอมกลับออกจากร้าน สาเหตุเพราะไม่พอใจที่ผู้ตายทวงถามหนี้ที่นายเท็ปติดค้างร้านอยู่ แต่ตนไม่ได้สนใจและไม่ทราบว่านายเท็ปกลับออกจากร้านไปตอนไหน กระทั่งเช้าถึงมาพบผู้ตายถูกฆ่าดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าสาเหตุการสังหาร

มาจากเรื่องโกรธแค้นส่วนตัว และเรื่องชู้สาว โดยคนร้ายน่าจะเป็นบุคคลที่รู้จักกับ น.ส.พรเพ็ญเป็นอย่างดี ก่อนเกิดเหตุคนร้ายบุกเข้าไปหาผู้ตายในห้องนอนและมีการพูดคุยตกลงอะไรบางอย่างกับผู้ตาย แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ คนร้ายทำร้ายร่างกายและฆ่าผู้ตายดังกล่าว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เชิญนายโชติรัตน์

หรือเท็ปนาควิลัย อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 154 หมู่ 16 ต.ทุ่งหลวง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยไว้ สอบสวน เนื่องจากทราบว่า ในวันเกิดเหตุนายโชติรัตน์มีปากเสียงทะเลาะกับผู้ตาย

เรื่องที่นายโชติรัตน์ติดค้างหนี้ค่าเหล้า

และอาหารที่มากินที่ร้านและไม่ยอมจ่าย เมื่อถูกผู้ตายทวงถาม ทำให้นายโชติรัตน์ไม่พอใจและไม่ยอมกลับออกจากร้าน จนกระทั่งเกิดเหตุฆาตกรรมขึ้น จากการสอบสวนเบื้องต้น นายโชติรัตน์ให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็น

เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ น.ส.พรเพ็ญ

แต่อย่างใด โดยอ้างว่าหลังจากร้านปิด ได้อยู่นั่งพูดคุยกับผู้ตายต่อเพียงครู่เดียว จากนั้นก็กลับบ้าน หลังสอบปากคำแล้วได้ปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยไปก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง และติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ